หนังจีนเรื่อง The fastest sword สอนบางอย่างให้กับชีวิต
เป็นหนังที่เล่าเรื่องผู้ชายคนหนึ่ง คือมือกระบี่ที่มีฝีมือเป็นที่เลื่องลือ วันๆ มีแต่ยอดฝีมือจากทุกสาระทิศมาขอประลอง เขาก็เอาแต่ฆ่าๆๆๆ จนวันหนึ่งแพ้ยอดอาจารย์ที่เขาไปพนันด้วยวาจาว่าถ้าแพ้ก็จะต้องติดตามรับใช้ จนกว่าจะทำงานสำเร็จเป็นที่พอใจของอาจารย์
เขาใช้เวลา 3 ปี ในการคัดลอกคัมภีร์ทั้งหมด แกะสลักพระพุทธรูป ซึ่งแต่ละครั้งอาจารย์ก็สั่งงานแล้วก็ทิ้งให้เขาอยู่ทำตามลำพัง คราวละ 6 เดือน ทำให้เขาต้องต่อสู้กับความอยากทำงานเสร็จเร็วๆ ลวกๆ เพื่อให้พ้นจากพนัน แต่งานก็ไม่เป็นที่พอใจอาจารย์สักที
อาจารย์สอนไม่กี่ประโยค แต่มีคำพูดหนึ่งที่อาจารย์สอนคือ "ของบางอย่างมองดูด้วยใจ เห็นชัดกว่ามองดูด้วยตา"
ท้ายที่สุดเขาฝึกจิตตัวเองจนสงบ อาจารย์จึงอนุญาตให้เขากลับบ้านได้ เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยใจเย็นขึ้น หลีกเลี่ยงการปะทะ และหนีไปทำงานแกะสลักในหมู่บ้านเล็กๆ
แต่ท้ายที่สุดก็หลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้ แต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้น เป็นการต่อสู้เพื่อผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเองเช่นที่ผ่านมา
หนังสอนให้รู้ถึงการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่คือการต่อสู้กับความอยากของตัวเอง สอนเรื่องความซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตัวเองที่ยอมรับใช้อาจารย์ตามที่ลั่นวาจาไว้ และสุดท้าย ความรักก็มีอิทธิพลเหนือทุกอย่าง
หนังก็ไม่ค่อยต่างจากเรื่องจริงในชีวิตของคนเท่าไหร่นัก และเรื่องราวบางเรื่อง ก็ "มองดูด้วยใจ ชัดกว่ามองดูด้วยตา" จริงๆ ค่ะ
ดิฉันชอบหนังแบบที่เมื่อดูแล้ว มีเรื่องที่ทำให้เก็บมาครุ่นคิด มากเลยค่ะ อาจารย์จันทรัตน์
หนังฝรั่งมีส่วนสำคัญ ที่ทำให้ดิฉันนึกถึงคำว่า "การรู้เท่าทันการสื่อสาร" ด้วย หลังจากเรียงลำดับชีวิตเป็นตารางได้แล้ว ดิฉันก็อยากเขียนบันทึกถึงหนังที่เคยดูมา อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไรบ้างที่ยังติดประทับอยู่ในใจเรา ทั้งๆที่นานเป็นสิบยี่สิบปีแล้ว :)
ขออภัยค่ะ พิมพ์ชื่ออาจารย์ ตก ร.เรือ ไปตัวนึง....
ดิฉันโพสต์เสียหลายบันทึกเลย อาจารย์โปรดอย่ากังวลกับการตอบนะคะ ดิฉันอยากอ่านบันทึกของอาจารย์แบบรวดเดียวจบมานานแล้วค่ะ ไหนอ่านแล้วก็อดเขียนต่อไม่ได้ เพราะบันทึกอาจารย์ ....เหมือนความรู้สึกที่ดิฉันอยากเขียน...อยากพูด แต่เขียนออกมาให้กระชับ จับใจ อย่างที่อาจารย์เขียนไม่เป็นอ่ะค่ะ
เห็นด้วยครับ...
นอกจากไม่ชัดแล้ว บางอย่างอาจจะมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำครับ...
ต้องใช้ใจมองเท่านั้นครับ...
ขอบคุณมากครับ...