นานแล้วผมเคยบันทึกเรื่อง “(คน)ไร้สัญญาณ” ไว้ ในลักษณะการพักเพื่อทบทวน คิด เตรียมการ และนั่งทำงานคนเดียวเงียบ ๆ เมื่อยามที่ต้องการใช้สมาธิ สถานที่แห่งนั้นคือ ขนำในสวนยาง ที่ไม่มีใครพักแล้ว ผมไปขออยู่ จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นบ้านของผมเลย เพราะผมมักจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ นอนที่นี่ จนผมเรียกว่าบ้าน มีเพียงไฟฟ้าใช้ให้แสงสว่างและเพื่อต่อโน้ตบุคเท่านั้น หากแต่ต่อมาผมก็พยายามที่จะขอใช้เสาดึงสัญญาณโทรศัพท์ ในยามกลางคืนที่เจ้าของเขาไม่ได้ใช้มาใช้เพื่อให้ต่อ GPRS ได้ และใช้ connected ออกสู่โลกภายนอกในระบบ Internet โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยว ลปรร. และตีพิมพ์บันทึกใน GotoKnow.org เป็นหลัก
วันนี้ (2 เม.ย. 49) ผมกลับจากไปร่วมประชุมแผนงานคนพิการที่ สวรส.ภาคใต้ มอ. ต่อด้วยการเข้าไปทำธุระที่ สปสช.เขตพื้นที่ (สงขลา) ณ ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น มาเห็นว่าโทรศัพท์หมดเบตเอาตอนจะกลับแล้ว เลยตัดสินใจขับรถกลับจนมาถึงขนำใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชม. แบบมาเรื่อย ๆ เมื่อชาร์ตเบตโทรศัพท์แล้ว พบว่าระบบ GSM ใช้การไม่ได้เลย เป็นอย่างนี้ในช่วงเวลานี้มาประมาณ 3 วันแล้ว ขนำที่ ๆ ผมอยู่หากไม่ใช่ระบบ GSM จะใช้ระบบอื่นไม่ได้ แม้แต่ GSM ก็ต้องใช้เสาดึงสัญญาณช่วยและจะมีสัญญาณเพียง 1-2 ขีด เท่านั้น ความรู้สึกว้าวุ่นที่ติดต่ออะไรไม่ได้ และ connected ไม่ได้ ทำให้ครุ่นคิด รอ และรอ สัญญาณ นานหลาย ชม.แล้วก็ยังติดต่ออะไรไม่ได้เลย ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียกบ้างล๊ะ connected error บ้างล๊ะ หรือไม่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ หรือที่บ่อยที่สุดคือ สัญญาณไม่ครอบคลุม ผมตัดสินใจหลังจากนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...เมื่อมาถึงขนำแล้วจะทำตัวเป็นคนไม่มีสัญญาณ จะทำงานแบบ Offline รอจนเวลาที่สามารถ Online ได้ ก็ค่อยดำเนินการต่อจากที่เตรียมไว้
ผมตัดสินใจเลือกว่าจะลองทำตัวแบบเดิมคือเป็นคนไม่มีสัญญาณสักคืนหนึ่ง เพื่อทดสอบใจตัวเองว่าเป็นอย่างไร (ตอนนี้กำลังเขียนบันทึกแบบ Offline) ขณะนี้รับรู้ได้ว่านิ่งในระดับหนึ่ง มีที่คิดหลุดออกไปบ้าง แต่ก็เชื่อด้วยใจตนเองว่าจะสามารถพักจิตได้ไม่ให้ฟุ้งซ่านออกไป ซึ่งเคยทำได้เสมอในอดีต คืนนี้ก็ต้องทำได้ ตอนเช้าก่อนตีพิมพ์บันทึกนี้ผมจะเขียนต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง และเป็นอย่างไรครับ...
ตอนตี 3 โดยประมาณ ผมลุกออกจากขนำ ขับรถไปบ้านพ่อ แต่เลี้ยวอ้อมไปพัทลุงมาก่อน เรื่อย ๆ เพลิน ๆ ... (มีอะไรอีกมากมายภายในสัญลักษณ์ ...)
เช้าของวันที่ 3 เม.ย. 49 พบว่าตัวเองสงบได้มากเมื่อคืนที่ผ่านมา และสามารถสร้างสรรค์งานที่ควรจะต้องทำได้มากพอสมควร ผมรู้ว่าทำไมที่ผ่านมาผมไม่ค่อยนิ่ง หวั่นไหว มักจะเป็นกังวลกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาและเลือกตอบสนองในทันทีตามประสาคนใจร้อน หากแต่เมื่อผมใช้ข้อจำกัดที่มีอยู่เพื่อจัดการกับตัวเองในลักษณะเชิงบวก กลับพบว่าสามารถควบคุมจิตให้ก่อเกิดสมาธิได้ดีทีเดียว นึกดี ๆ ผมได้ค้นพบว่าการเสียโอกาส หรือมีข้อจำกัดในบางเรื่องหากเรารู้เท่าทัน เราก็จะสามารถนำมาเป็นเครื่องมือได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากรู้เท่าทัน และใช้ให้เป็น เล่า ๆ ให้ฟัง และอาจจะบอกว่าต่อไปผมคงเป็นคนไร้สัญญาณบ่อยขึ้น และมากขึ้น