ฮัลโหลหื่นกาม;“โทรศัพท์โรคจิต”ใช่หรือไม่


การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

               

                 “โทรศัพท์โรคจิต”กำลังเป็นข่าว ที่ดาราโร่แจ้งความที่โรงพัก อันเกิดจากความไม่พอใจ ที่มีการโทรมากลั่นแกล้ง จนเกิดความรำคาญและทนไม่ได้

                ความจริงไม่มีเฉพาะดาราแต่มีคนอีกจำนวนมากที่เจอคนประเภทนี้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ก็อาจจะได้พบ ส่วนหนึ่งเป็นวัยที่กำลังศึกษาอยู่ คุณครูก็น่าจะเป็นผู้ที่สามารถสอนให้เขาเหล่านั้นเลิกพฤติกรรมได้ ระดับหนึ่งพร้อมๆกับสังคมรอบข้างได้สอนให้เขาได้เรียนรู้และปรับพฤติกรรมให้ดีได้

                ได้อ่าน คำให้สัมภาษณ์ ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาและ นพ.ทวีศิลป์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ระบุว่า"กรณีแบบนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่อาการของโรคจิต เนื่องจากโรคจิตจะเกิดจากความผิดปกติทางสมอง การใช้โทรศัพท์ลักษณะดังกล่าวนี้ ในความหมายทางการแพทย์นั้นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้มีชื่อเรียกว่าเป็นกลุ่มอาการ “พาราฟิเลีย (Paraphilia)” หรือ “โรคกามวิตถาร” ที่มีอาการเบี่ยงเบน
 
               “ลักษณะพฤติกรรมต่าง ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มอาการเดียวกัน ก็ได้แก่... โทรศัพท์ลามกหรือเซ็กซ์โฟน ชอบโชว์อวัยวะเพศต่อหน้าคนอื่น แอบถ่าย แอบดู หรือถ้ำมองตามที่สาธารณะ ในที่ส่วนบุคคลของคนอื่น และกลุ่มที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก กับสัตว์ หรือกลุ่มที่นิยมความรุนแรงต่อเพศและร่างกาย ก็จัดอยู่ในกลุ่มอาการนี้เช่นกัน” ...ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคมระบุ
 
              พร้อมทั้งบอกอีกว่า... สาเหตุของคนที่มีความผิดปกติในกลุ่ม   อาการนี้ ปัจจุบันในทางการแพทย์ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าอาจจะเกิดจากประสบการณ์ในอดีตที่ค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการใช้ชีวิต เช่น เคยแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นโดยบังเอิญ ซึ่งแทนที่จะเกิดความอาย กลับพบว่าตัวเองรู้สึกมีความสุข หรือรู้สึกดี ซึ่งผิดปกติจากคนทั่ว ๆ ไป และเมื่อรู้สึกอย่างนี้แล้วหลังจากนั้นก็ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจให้หยุดการกระทำในลักษณะดังกล่าวนี้ได้ อีกทั้งยังยิ่งเพิ่มความถี่ในการกระทำ จนที่สุดก็กลายเป็นกิจวัตรประจำของตัวเอง 
  
             “ที่สำคัญ เมื่อดูจากประวัติคนที่เคยเข้ารับการรักษาพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามารักษาอาการดังกล่าวนี้โดยตรง แต่เข้ามารักษาในกลุ่มอาการอื่น เนื่องจากพฤติกรรมนี้เมื่อกระทำแล้วก็ไม่ได้สร้างความทุกข์ร้อนให้ตัวเขา จึงไม่รู้สึกผิดหรือรู้สึกว่าเป็นปัญหาสำหรับเขา จึงไม่ยอมรับการรักษา”
 
              นพ.ทวีศิลป์บอกต่อไปว่า... โดยทั่วไปแล้วคนกลุ่มนี้จะมีความคาดหวังในกระทำการใด ๆ ที่ก่อขึ้น ยิ่งถ้าเหยื่อมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา คนพวกนี้ก็จะยิ่งมีความสุข ตรงนี้ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการทำซ้ำมากขึ้น ฉะนั้นการรับมือกับคนพวกนี้ที่ดีที่สุดก็คือ การทำพฤติกรรมตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา
 
               สำหรับคำแนะนำเพื่อคุณสตรีทั้งหลาย ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคมบอกว่า... ในยามที่ต้องประมือกับ “นักโทรฯหื่น” ก็มี 5 ข้อคือ... อันดับแรก...ต้องวางสายโทรศัพท์ทิ้ง, อันดับสอง...ต้องทำใจให้นิ่ง, อันดับสาม...พยายามทบทวนและจดบันทึกทุกความเคลื่อนไหว, อันดับสี่...ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็ให้พึ่งตำรวจ และอันดับห้า...หากยังแก้ไม่ได้-หยุดพวกนี้ไม่ได้ วิธีสุดท้ายก็เหลือเพียงการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่
 
              “วิธีแรก ถ้ามีเบอร์โทรฯแปลก ๆ หรือมีสายโทรฯเข้ามาในช่วงเวลาแปลก ๆ ก็ตัดสายทิ้งไปเลย ไม่ต้องรับ เป็นการตัดปัญหา วิธีที่สอง ต้องตั้งสติให้มั่น ทำใจให้นิ่ง อย่าโวยวาย หรือพูดคุยกับคนเหล่านี้ เพราะยิ่งเราโวยวาย ยิ่งยอมพูดคุยด้วย เขาจะยิ่งมีความสุข ยิ่งสะใจ หรือยิ่งเป็นการทำให้เขารู้สึกว่าเราก็สนใจเรื่องแบบนี้ ส่วนการทบทวนจดบันทึกเป็นการตรวจสอบตัวเองว่าที่ผ่านมาทิ้งเบอร์โทรศัพท์กับคนไม่รู้จักหรือไม่ เมื่อตรวจสอบได้ก็ไปแจ้งความ อย่าคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ แต่ถ้าแจ้งความแล้วยังทำอะไรไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือต้องปลง ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่” ...นพ.ทวีศิลป์ทิ้งท้าย
 
               ทั้งนี้ กับกรณี “โทรฯหื่น” นี้โดยทั่วไปเรามักจะคุ้นแต่ผู้ชายเป็นฝ่ายกระทำต่อเหยื่อที่เป็นผู้หญิง แต่จริง ๆ แล้ว “ผู้หญิงโทรฯหื่นกับเหยื่อผู้ชาย...ก็มี ” โดย ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา เคยเผยผ่าน     “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า... “พฤติกรรมของผู้หญิงที่ใช้โทรศัพท์โทรฯหาผู้ชายแล้วทำเสียงสยิว หรือพูดจายั่วยวนชวนร่วมรักนั้น ในระยะหลัง ๆ ก็มีเยอะมากเช่นกัน  
                สรุปแล้ว “โทรศัพท์หื่นกาม” นี่มิใช่อาการของโรคจิต เรื่องแบบนี้ที่เกิดกับคนทั่วไปที่ไม่ใช่คนดังก็มีไม่น้อย  และแม้แต่ผู้ชาย...ก็ตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน ภาระคงตกลงที่พ่อแม่ผู้ปกครองและคุณครู ที่ต้องดูแลและให้ความรู้กับเด็กในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด...

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา
หมายเลขบันทึก: 264664เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2009 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ มารับทราบค่ะ

ภาระคงตกลงที่พ่อแม่ผู้ปกครองและคุณครู ที่ต้องดูแลและให้ความรู้กับเด็กในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด...

ขอบคุณครูpomครับ ต้องช่วยกันหลายๆฝ่ายครับ

  • เรียนท่านประสิทธิ์
  • เป็นอาการป่วยที่ควรร่วมมือกัน
  • ขอบคุณค่ะ ที่นำมาเผยแพร่
  • ทำให้ได้รับทราบว่าเมื่อเจอกรณีอางนี้
  • จะแก้ปัญหาได้อย่างไร
  • ที่สำคัญต้องตั้งสติให้มั่น
  • ไม่โต้ตอบ และวางเฉย
  • ตรวจสอบสติตัวเอง

สวัสดีค่ะ อ.ประสิทธิ์

เสียสุขภาพจิตนะ

เคยเจอคนโรคจิต ตอนอยู่กรุงเทพฯ

ยืนถอดผ้า ทำอะไรก็ไม่รู้...... ก็เลยโห่ไล่

ขอบคุณค่ะ  ที่นำมาให้อ่าน

ขอบคุณครูต้อยครูจิ๋วครับ ช่วยกันๆๆ

 

  • น่ากลัวเหมือนกันนะครับ
  • ต้องให้ช่วยกันระวังครับ
  • อดพบ ผอ เลย
  • เลยเอารูปมาฝาก
  • ให้ ผอ อิจฉาเล่นครับ

วิธีแก้คือปล่อยให้พูดไปเรื่อยๆ วางโทรศัพท์ไว้ ไม่ต้องกดทิ้ง ปล่อยให้เสียตังค์จนพอใจ ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องไปฟัง เงินหมดก็เลิกโทรเอง

โดนมากะตัว

เจอโทรศัพย์โรคจิตก่อนกวนแต่หัววัน "0864086818"

ไม่ได้แค่โรคจิตที่โทรมาโอดครวญธรรมดาๆ แต่กระหน่ำโทรมาไม่ยั้ง

พอสืบดู ปรากฎว่าเพื่อนๆก็โดนไอ้เบอร์นี่เหมือนกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท