40. พ่อครับ...ผมขอยืมเงินสองร้อยครับ


ความเสียใจของเด็กอาจดูเล็กน้อย ไร้สาระ ในสายตาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมานาน แต่ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยลืม "ความเป็นเด็ก" จะรู้ดีว่าทุกเรื่องราวในวัยเด็ก เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญเสมอ

      สามทุ่มแล้ว ชายคนหนึ่งเงยหน้าอันอิดโรยขึ้นจากกองงานเอกสารที่หอบกลับมาทำที่บ้าน ตามเสียงเรียกของลูกชายตัวน้อยคนเดียว วัย 6 ขวบ ของเขาผู้กำพร้าแม่ เด็กน้อยซึ่งมายืนมองพ่อทำงานอยู่นานเท่าไรแล้วไม่รู้เอ่ยถามขึ้น

      "พ่อครับ  วันนี้ทำงานเหนื่อยไหมครับ"

       "เหนื่อยสิลูก.....แล้วลูกยังไม่นอนอีกเหรือ"

       "ผมนอนไม่หลับครับ  ผมมีอะไรจะถามพ่อ"

       "อืมมมม..มีอะไรเหรอลูก"  ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า

       "คือ..ผมอยากรู้ว่า  พ่อทำงานได้ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ" ลูกชายถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ

       เขาหันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็ตอบไปว่า

       "วันละสี่ร้อย"  ลูกชายนิ่งไปสักพัก เหมือนจะรวบรวมความกล้า

       "งั้น...ผมขอยืมตังค์พ่อสักสองร้อยได้ไหมครับ" เด็กน้อยเอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน

        "หา !!!!  ลูกตัวแค่นี้ ริอ่านมาขอยืมเงินพ่อตั้งสองร้อยบาท รู้ไหมว่าเงินทองมันหายากแค่ไหน" พ่อตะคอกด้วยความเผลอสติ

        เด็กชายยืนนิ่งมองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงหลุดออกจากปาก มีแต่น้ำตาไหลรินลงอาบแก้มก่อนหันหลังเดินกลับห้องตัวเองอย่างเศร้าสร้อย

         หลังจากลูกกลับห้องไป ผู้เป็นพ่อก็นั่งสงบสติและทบทวนเหตุการณ์อยู่ครู่ใหญ่ เมื่อคิดได้เขาจึงรีบลุกไปที่ห้องลูกชาย หนูน้อยยังคงนอนสะอื้นเบาๆ อยู่คนเดียว เขาเดินไปนั่งที่ขอบเตียง ลูบผมลูกชายอย่างเบามือ พร้อมกับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

        "พ่อขอโทษนะลูก เมื่อกี้พ่อเหนื่อยมากเลยใช้อารมณ์กับลูกมากไปหน่อย ลูกสำคัญสำหรับพ่อเหนือสิ่งอื่นใด และพ่อรักลูกนะ...."

       หนูน้อยจากที่สะอื้น เป็นร้องไห้โฮ..ซุกศรีษะลงบนตักพ่อ

        "ว่าแต่ ไหนลูกลองบอกพ่อซิว่า อยากยืมเงินสองร้อยไปทำอะไร" พ่อถามด้วยน้ำเสียงเปี่ยมรัก ลูกชายหยุดร้องไห้ เงยหน้าขึ้นมองและตอบพ่อด้วยเสียงที่ปนสะอื้น

        "พ่อครับ  ตั้งแต่แม่ตาย ผมเห็นพ่อต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินทุกวันจนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน ผมเลยค่อยๆ เก็บค่าขนมของผมไว้เรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว พอรู้ว่าพ่อทำงานได้ค่าจ้างวันละสี่ร้อย ผมเลยอยากขอยืมเงินพ่อเพิ่มอีกสองร้อย ให้เป็นสี่ร้อย จะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พักอยู่กับผมสักวันหนึ่งครับ"

        วันนี้คุณวางงาน และคืนเวลาให้คนที่คุณรักที่สุดแล้วหรือยัง

        เรื่องนี้ ได้จากหนังสือ "โฮม" ของมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และท้ายเรื่องขอฝากว่า

        ความเสียใจของเด็กอาจดูเล็กน้อย ไร้สาระ ในสายตาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมานาน แต่ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยลืม "ความเป็นเด็ก" จะรู้ดีว่าทุกเรื่องราวในวัยเด็ก เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญเสมอ

หมายเลขบันทึก: 264468เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2009 00:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 00:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

" วันนี้คุณวางงาน และคืนเวลาให้คนที่คุณรักที่สุดแล้วหรือยัง"

สวัสดีครับ ซือเฮีย ประโยคนี้มีความหมายเห็นทีต้องทบทวนการทำงานบ้างแล้วล่ะ เพราะว่าให้เวลากับงานมากไปจริงๆครับเฮีย

  • สะเทือนใจจริงๆค่ะ
  • ต้องทบทวนกันหน่อยนะคะสำหรับผู้ที่มุมานะอยู่กับงานมากเกินไป
  • เวลาที่เหลือมีไม่มาก อาจไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเราก็ได้
  • ทำวันนี้ให้มีสุข และแบ่งปันให้คนรอบข้างด้วยก็พอแล้วค่ะ

เห็นใจทั้งพ่อ ลูก

ความรัก ความเข้าใจ อบอุ่นในครอบครัว สำคัญมากค่ะ

ให้เวลาลูกบ้าง ลูกจะได้เป็นเด็กดีและมีความรักเต็มหัวใจคะ

บทความนี้ได้คิดถึงตัวเอง เพราะลูก ม. 2 ไม่สบาย ยังมีความต้องการที่จะให้แม่ไปดูแล เช็ดตัว

และนอนเคียงข้างตั้งแต่ 3 ทุ่ม ทั้งที่ตนเองมีงานเร่งด่วนมากถึงมากที่สุดต้องส่งกระทรวงพรุ่งนี้

แต่ก็ตัดใจปดูแลลูกดีกว่า เพราะไม่บ่อยนักที่ลูกเข้าสู่วัยรุ่น แล้วก็มีความต้องการความอบอุ่น เหมือนตอนเด็กๆ

ไม่มีความสำเร็จใดใดในโลกที่มาทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้ค่ะ

สวัสดี ซือตี๋

ยังไม่นอน หรือว่าตื่นกลางดึกครับเนี่ย มาเกือบตีสามหากยังไม่นอน ก็คงให้เวลากับงานมากไปจริงๆ แหละ

ยังไงระวัง...แก่ก่อนวัยนะซือตี๋นะ ฮ่า ฮ่า

ครูลีลาวดีครับ ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ท่านกล่าวว่า

"...การได้อยู่กับครอบครัว แม้ว่าจะมีรายได้น้อย แต่เป็นความสุขที่มนุษย์ต้องคว้าไว้"

ใช่ครับ...ชีวิตนี้สั้นนัก เราไม่รู้วันตาย แม้พรุ่งนี้

เห็นด้วยครับ..ที่เราควรทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อคนที่เรารักและคนที่รักมากที่สุด

ขอบคุณนะครับที่มาเยี่ยม

คุณน้อยหน่าครับ

พระไพศาล วิสาโล ท่านกล่าวว่า

".....ความรักของพ่อแม่นั้น เป็นปัจจัยเบื้องต้นในการสร้างพื้นจิตที่ดีงามให้แก่เด็ก เด็กที่ได้สัมผัสกับความรักของพ่อแม่ย่อมมีจิตใจอ่อนโยน อบอุ่นและเป็นสุข อันเป็นภาะที่เอื้อต่อการทำความดี แต่ความรักกับเวลานั้นเป็นของคู่กัน ความรักของพ่อแม่นั้นลูกจะประจักษ์ได้อย่างเต็มหัวใจก็ต่อเมื่อพ่อแม่ยอมสละเวลาให้แก่ลูก มิใช่ให้แต่เงินหรือวัตถุเท่านั้น...."

   ชื่นชมในการตัดสินใจของคุณน้อยหน่าครับ

   ถูกต้องที่สุดครับ รวยล้นฟ้า แต่หากครอบครัวแตกแยกแล้ว เงินมากมายมหาศาลก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ

ขอบคุณที่แวะมาครับ

  • สวัสดีครับ
  • ซึ้งใจจริง ๆ คนส่วนมากห่วงงาน ห่วงคนอื่น ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ แต่ลืมคนที่บ้าน
  • ขอบคุณที่เตือนสติ

เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านศรีกมลแวะมาครับ

ขออภัยผมไม่ได้ไปบล็อกท่านนานเลย

ขอบคุณมากครับ

  • โอ ชอบเพลงนี้จัง เคยนั่งฟังเพลงนี้เพลงเดียวๆทั้งวัน ทุกวัน
  • ฟังไป ร้องไห้ไป คริคริ

ดีใจที่ชอบครับ

ผมมีภาพยนตร์ด้วย ดูแล้วดูอีก ฮิฮิ (แต่นั่น....นานมาแล้วครับ)

ตอนนี้ต้องค้นละว่า หนังเรื่องนี้อยู่ไหน แหะ แหะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายและขอบคุณค่ะ

เพลงที่บันทึกนี้เพราะมาก ๆ ค่ะ....

ความรู้สึกขอบคุณและรักเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากค่ะ...

วันนี้คุณวางงาน และคืนเวลาให้คนที่คุณรักที่สุดแล้วหรือยัง

ขอบคุณคำถามดี ๆ ค่ะ

(^___^)

11. คนไม่มีราก

สวัสดีครับ

เห็นด้วยครับ "ความรู้สึกขอบคุณและรัก" เป็นความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ

ขอบคุณที่แวะมาครับ และขอบคุณสำหรับหนูน้อยที่มีแววตา รอยยิ้มบ่งบอกถึง ความรัก ความไว้วางใจ และความเชื่อด้วยจิตบริสุทธิ์ว่า โลกนี้ปลอดภัยสำหรับเขา

เป็นหน้าที่ของพวกเราครับ ที่จะทำให้ความเชื่อของหนูน้อยเป็นความจริง

  • เข้ามานอนฟังเพลงโปรดค่ะ
  • เฝ้าบ้านแทนเจ้าของด้วย อิอิ
  • "ถ้าเราจะต้องจากกันไม่ว่าจะเหตุผลใด คงรู้ใช่ไหม

     ว่าฉันจะต้องเสียใจ

      เสียใจจนตาย...."

            

เวลาสำหรับลูก กับ เงินทองสำหรับลูก ต้องควบคู่กันไป โดยเฉพาะบ้านที่มีเพียงพ่อ หรือ แม่ คนเดียว ต้องชั่งให้หนักว่าควรจะเอนเอียงทางใด เวลาใด

สวัสดีครับ ครูลีลาวดี

เจ้าของรู้คงจะดีใจนะครับ ที่มีครูลีลาวดี มาเฝ้าบ้านให้ ฮิฮิ ฮ่า ฮ่า

พูดถึงเพลง มีบางคนบอกว่าเศร้าไป ไม่เหมาะกับเขียนไปเรื่อยเฉื่อย ก็เลยกำลังพิจารณาจะเปลี่ยนเพลง

พอได้รู้ว่า ครูลีลาวดีชอบ และเป็นเพลงโปรด จะขออนุญาตเก็บไว้ก่อนสักหลายวัน

ดีไหมครับ

ขอบคุณที่เฝ้าบ้านให้ครับ (ไม่มีค่าเฝ้านะครับ.... ฮ่า ฮ่า)

สวัสดีครับ ครู ป.1

เหนื่อยนะครับ สำหรับคนที่เลี้ยงลูกโดยไม่มีคู่ชีวิต

คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ของเรา ท่านเลี่ยงลูกหลายคน บางครอบครัวมีถึงเจ็ดคน เก้าคน

ท่านเลี้ยงได้ และเจริญในหน้าที่การงานทุกคน

ขอให้คุณครู ป.1 มีความสุขกับการทำงานครับ

ขอบคุณที่แวะมาครับ

  • มาเยือนด้วยใจร้าวรอนค่ะ
  • เพื่อนทอ.จากไปไม่เข้ามาเขียนบันทึกแล้วค่ะ เนื่องจากสุขภาพและอื่นๆ น่าสงสารเขาจัง
  • คุณคงหลับฝันดีแล้วนะคะ
  • ส่วนลีตื่นมาอีกค่ะ ไม่รู้เป็นไร
  • สงสัยยังไม่ได้ส่งคุณเข้านอน คริคริ

คุณครูลีลาวดีครับ

นอนดึกเสียสุขภาพนะครับ

เสียใจด้วยครับ คงไม่เป็นไรมังครับ รักษาตัวหน่อย ก็คงกลับมาเขียนอีกได้

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

เรื่องเล่านานมาแล้ว ผมว่ายังใช้ได้นะครับ เรื่องนับแกะยังไงล่ะ

เพียงแต่ให้นับแกะที่ยืนเล็มหญ่ากลางทุ่ง อย่านับแกะกระโดดข้ามรั้ว

เพราะหากแกะกระโดดไม่ข้าม ค้างเติ่งอยู่ที่รั้ว จะชงักไม่ได้นับต่อครับ ฮิฮิ

อาจารย์คะ..อ่านแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลยค่ะ

งั้นขอวางงานแล้วไปนอนกอดลูกน้อยก่อนดีกว่าค่ะ

สวัสดีครับ แม่นีโอ

ผมก็น้ำตาซึมครับ

นึกถึงเมื่อลูกสาวยังเล็ก เขามากอดที่ขา ขณะที่ผมกำลังจะออกจากบ้านไปตามนัดเพื่อน (กินเหล้า) ผมแกะมือเขาออกแล้วบอกเขาว่า "พ่อมีธุระจะรีบไป"

คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร เสียใจมากครับ

ขอบคุณที่แวะมาครับ

...สำหรับท่านค่ะ....ขอบพระคุณที่เตือนค่ะ...

 

สวัสดีค่ะพอดีดอกไม้ออกดอกสวยก็เลยนำมาให้ดูค่ะ

 

 

 

เคยอ่านมาหลายครั้ง

มาอ่านอีกก็ยังรู้สึกสงสารเด็กและเข้าใจความรู้สึกที่โหยหาพ่อ

เป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดมากๆเลยค่ะ  กับความละเอียดอ่อนของเด็ก

ขอบคุณสำหรับดอกไม้สวยๆ

บรรยากาศรอบตัวดีขึ้นทันทีเลยครับ

แต่ยังนอนดึกอยู่นะครับ อย่าเผลองีบให้เด็กเห็นนะ ฮ่า ฮ่า

ดอกไม้สวย

ฝีมือถ่ายภาพก็เยี่ยมครับ

ขอบคุณมากนะครับ ขอให้ทำงานด้วยความสุข (ตอนนี้ผมว่าง มาประชุมที่ กทม. มอบงานให้ทีมงานทำ ผมตรวจทาน ตอนนี้เขายังทำไม่เสร็จ ผมเลยแอบมาเล่นเน็ท บริการของโรงแรม ฮ่าฮ่า)

 

ใช่ครับ อ่านแล้วอ่านอีก ก็ยังน้ำตาซึมครับ

พระเวสสันดรชาดก บอกว่า "....ดาริกา บุคคลใดไร้นิราศปราศจากแม่ ยังแต่พ่อผู้เดียว ก็เปล่าเปลี่ยวได้ชื่อว่าสูญสิ้นทั้งบิดรและมารดา ถึงจะประโลมเลี้ยงรักษาเล่า ก็ไม่ถึงใจ แม้จะมีทุกข์ภัยสักร้อยสิ่ง อันบิดาก็นิ่งได้ไม่นำพา...." (ตัดพ้อพระเวสสันดรนะครับ ไม่เกี่ยวกับพ่อคนอื่นๆ)

ผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับว่า พยาบาลจะเลี้ยงและดูแลบุตรธิดาได้ดีครับ

จากข้อความที่ได้อ่านรู้สึกสะเทีอนใจมาก ๆ เพราะงานของเราคือ ครู ต้องให้เวลาลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเองอยู่แล้ว แต่จะพยายามให้มีเวลามากขึ้น

 สวัสดีครับ ตฤณน้อย

พระเวสสันดรชาดกตอนหนึ่งว่า "ทารกา ทารกผู้ใดไร้นิราศปราศจากพ่อ ยังแต่แม่ผู้เดียว ก็พอแลพอเหลียว ได้ชื่อว่าอยู่พร้อมทั้งบิดาและมารดร"

มีเวลาน้อย แต่หากเราใช้ด้วยความรักความเป็นมิตรที่ดีกับเขา ผมว่าลูกทุกคนเข้าใจ ผู้เป็นแม่ครับ

 

 

ฉันก็อยู่โดดเดี่ยวเหมือนกันนะ ไม่เห็นเป็นไร กำพร้าเมีย

ในเรื่อง เด็กกำพร้า  ขาดแม่ไปแล้ว  พ่อก็ทำแต่งาน   ลืมนึกถึงหัวอกลูก เดียวดายว้าเหว่แค่ไหน และคิดว่า เด็กคงไปเห็นความพร้อมเพรียงของครอบครัวอื่น เลยเอามาเปรียบเทียบกับตนเอง  ว่าขาดแม่แล้ว ก็เหมือนขาดพ่อไปด้วย เพราะพ่อไม่เคยให้เวลาสำหรับลูก  พ่ออาจจะทำงานให้หนัก เพื่อจะให้ลืมความเศร้า หรือความผิดหวังอะไรซักอย่าง  จิตใจพ่อก็แย่อยู่แล้วเช่นกัน  รู้ไหม ลูกกำพร้าแม่  พ่อก็กำพร้าเมียเหมือนกัน

พ่อก็อยากหาแม่ใหม่ลูก เช่นกัน เพื่อจะมาดูแลลูก  พ่อจึงต้องทำงานอย่างหนักเก็บเงินซักก้อนไว้ให้ลูก เพื่อเป็นทุนการศึกษา เมื่อมีเงินก้อนนี้ให้ลูกแล้ว  พ่อก็อยากมีเมียใหม่ มาดูแลเอาใจใส่พ่อเช่นกัน ก็คงจะไม่มีปัญหานะ ถ้าลูกเข้าใจ (ได้แต่ลำพึงเพราะลูกยังเล็กอยู่ ) ถ้ายังไม่มีเงินซักก้อนให้ลูกเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา  พ่อก็จะทนเอาไม่มีแม่ใหม่ เพราะพ่อยังไม่พร้อม  พ่อต้องทำเพื่อลูกก่อน  พ่อจะไม่อ่อนแอ  พ่อจะไม่ดื่มเหล้า พ่อจะทำงานที่บ้านให้น้อยลง   แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนลูก ไม่ให้เหงา  เราพ่อลูก จะไม่ให้กันเหงาแน่นอน ลูกรักพ่อนะ คนดี เป็นเด็กดีนะ รู้ไหม พ่อรักลูกมากเลย  สิ่งเดียวที่สำคัญในชีวิต พ่อ ตอนนี้ก็คือลูก ลูกจะเข้าใจพ่อไหม  พ่อรักลูกปานดวงใจ ซึ่งความรู้สึกของความเป็นพ่อ คงจะมีตัวพ่อทุกคน  แต่ก็ยังโชคดีที่พ่อบางคนไม่ได้กำพร้าเมียเหมือนเขา

 

ตัวอะไรครับ คุณสุ กินได้ไหม แหะ แหะ

คืนก่อนผมตอบแล้ว ตอนตีหนึ่งเศษ พอวันนี้มาอ่านอีกที รู้สึกไม่เหมาะสม เลยตอบใหม่ อย่าว่านะครับ

ฮิ ฮิ พ่อใครครับที่ไม่กำพร้าเมีย คงมีหลายคนนะครับ

แล้วพ่อใครครับที่กำพร้าเมีย  ฮ่า ฮ่า ถามไปงั้นเอง ไม่อยากรู้หรอกครับ

 

สามีและภรรยาทุกคนต้องการเป็นคนดีของครอบครัว แน่นอนครับ

และทุกคนก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีในตนเองให้เป็นสิ่งที่ดีได้

แต่....ข้อบกพร่องของแต่ละคน อาจจะมีหลายประการ

หลายคนไม่รู้ว่า ตนเองมีข้อบกพร่องอย่างไร

หากสามีภรรยาคู่ใด มีการสำรวจข้อบกพร่องของตนเอง แล้วพัฒนาตนเอง พัฒนาชีวิตสมรสให้ดีขึ้น

แม้เตียงจะมิใช่เตียงไม้สัก ก็มิอาจหักลงได้............... ฮ่า ฮ่า 5555555566 (แถมครับ...ฮิฮิ)

เด็กๆ ก็จะไม่ว้าเหว่

พ่อก็ไม่ว้าเหว่

แม่ก็ไม่ว้าเหว่ 

เราก็ไม่อย่กฟังเพลงว้าเหว่  (เอ๊ะ...เกี่ยวกันไหมเนี่ย....ฮ่า ฮ่า)

อะไรตลกครับ คุณสุ

เด็กน้อยยืมเงินพ่อ

พ่อเด็กน้อย

หรือว่า เพลงว้าเหว่

หรือว่า......ผม

หรือว่า....คุณสุเอง  ฮ่า ฮ่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท