เมื่อได้เห็น Portal.in.th ที่ใช้งานจริงกับ Gotoknow forum ที่จะขึ้นมีในสัปดาห์หน้าแล้ว ก็ Get Idea ขึ้นมาว่า ถ้าหากเรา (คณะ และมหาวิทยาลัย) นำไปใช้บริหารงานวิจัย รวมถึงงานประกันคุณภาพภายในจะเกิดทั้งประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
การบริหารงานวิจัยด้วย Portal นั้น จะทำให้ระบบบริหารงานในคณะฯ ในภาควิชาเป็นระบบ เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังสามารถกระตุ้นให้หัวหน้าโครงการ และผู้รับผิดชอบโครงการวิจัยทั้งหลาย ได้นำผลงานที่ตนเองได้ทำทั้งที่ผ่านมาแล้ว ในปัจจุบัน รวมทั้งอนาคต ออกมาติดป้าย ขึ้นกระดาน บอกเล่าถึงความเป็นมาและเป็นไปที่ได้ทำ
การที่ได้บอก ได้เล่า ผลประโยชน์ทางตรงคือ ตัวนักวิจัยเอง จะได้สกัดความรู้อยู่เป็นประจำ
การสกัดความรู้ตอนที่จะเขียนงานส่งนั้นมักจะได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่เก็บมาได้
การสกัดข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ บ่อย ๆ หรือทุก ๆ ครั้งที่ได้สัมผัสกับงานวิจัย ทั้งในสถานที่ทำงาน คือ การประชุมทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงพื้นที่นั้น จะให้เห็น “ความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge)” ที่เกิดขึ้นในทุกย่างก้าว
ถ้าหากเราวาง Job Description โดยละเอียดว่า จะต้องทำการสกัดและเขียนทุก ๆ ครั้งที่มีใครสักคนก้าวเดินอันเกี่ยวข้องกับงานวิจัย ทุก ๆ ย่างก้าวจะมีคุณค่าอย่างมาก
สิ่งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงตอนเขียนรูปแบบ หรือการทำเล่มสรุป เพราะตอนนั้นก็ง่ายดายและมีพลัง เนื่องจากเราเขียนเก็บไว้เป็นต้นทุนอย่างมากแล้ว
การเขียนงานนำเสนอไว้ใน Portal.in.th นั้น นอกจากจะเกิดผลโดยตรงกับตัวผู้วิจัยและทีมวิจัยเองแล้ว ยังจะทำให้ผู้บริหารในคณะ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะแหล่งทุน เห็นความเคลื่อนไหว และความเอาจริงเอาจังของทีมและทีมได้อย่างชัดเจนและว่องไว
การที่ทีมหนึ่งมีความเคลื่อนอยู่เสมอ โดยประกาศออกสู่สาธารณะชนอยู่เป็นประจำ ยังเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ทีมที่อยู่ในสถานภาพเดียวกัน คณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย กระตือรือร้น จนสามารถนำสิ่งที่เขียนใน Portal นี้ ไปเปรียบเทียบ (Benchmarking) ว่าเราและเขาทำงานกันถึงไหนแล้ว
การทำงานในคณะฯ ที่มีโครงการวิจัยหลาย ๆ โครงการก็จะสนุกขึ้น เพราะมีคนจี้ก้น ทีมนี้ทำถึงนั่น ทีมนี้ทำถึงนี่ คราวนี้ก็แข่งกันทำ แข่งกันดี สนุกเลย
นอกเหนือจากนั้น เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยที่พบแต่ละอย่างก้าวในงานวิจัย ก็สามารถนำเสนอและเทคนิค เป็นข้อคิดเล็ก ๆ เผยแพร่ให้กับทีมงานอื่น ๆ รวมถึงนักวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาเข้ามาเก็บเกี่ยวไปใช้ได้ตลอด
การบริหารงานวิจัยด้วย Portal.in.th นี้ ต้องใช้บุคลากรเพียง “สองคน” คือ หนึ่ง อาจารย์ผู้รับผิดชอบ และอีกหนึ่งคือตัวเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ลงข้อมูล
อาจารย์จะเป็นผู้วางแผน กระตุ้น และประสานงานกับหัวหน้าโครงการและทีมวิจัยต่าง ๆ
ส่วนตัวเจ้าหน้าที่นั้น ควรจะมีหน้าที่ลงข้อมูลให้เป็นลำดับแรก คือ รับผิดชอบลงงานที่เคลื่อนไหวให้กับทุก ๆ โครงการเลย
แต่ถ้าจะเป็นโครงการใคร โครงการนั้นก็ลงจะดีไหม ถ้าทำได้อย่างนั้นก็ดีที่สุด
แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะแก้ตัวกันว่าไม่ว่าง ทำไม่เป็น งานก็จะไม่เดิน
ถ้าคณะฯ สามารถมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สักคน มีหน้าที่ติดตาม ขอความเคลื่อนไหว หรือไปไหนก็ไปด้วย ไปเก็บข้อมูล ถ่ายรูป สรุป แล้วนำมาลงใน Portal.in.th ได้ สิ่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระกับทีมต่าง ๆ ได้มาก
คณะฯเดียวกันต้องช่วยเหลือกัน
ถ้ามีคนรับผิดชอบลงให้ในเบื้องต้น งานตอนแรกจะเดินก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ครั้นเมื่อโครงการหรือทีมวิจัยต่าง ๆ เริ่มเห็น หรือเริ่มสนุก เราจะค่อย ๆ คลายงานปล่อยให้แต่ละทีมได้ทำกันเอง อันนี้ก็ไม่ผิดกติกา หรือทีมไหนจะมอบให้เจ้าหน้าที่กลางเป็นคนทำให้ คณะฯของเราก็จะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์
อาจารย์หนึ่งท่านกับเจ้าหน้าที่หนึ่งคน สามารถบริหารงานวิจัยทั้งคณะฯ ได้โดยใช้งานผ่าน Portal.in.th แห่งนี้
งานวิจัยของคณะ ของมหาวิทยาลัยจะสนุกขึ้นหากเราลุกขึ้นมาเล่นกับ Portal.in.th
ฟังแล้วน่าสนใจมากเลยนะคะ จริงระบบของ Portal.in.th นี่ก็ใช้งานไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะ เพียงมีข้อมูลก็สามารถนำเสนอเป็นเว็บไซต์ที่เราต้องการได้แล้ว ถ้าได้ลองเล่นๆสักหน่อยแล้วติดตรงไหน ก็สามารถสอบถามเข้ามาทางทีมงานได้ที่ support แอ๊ด portal.in.th ค่ะ ยินดีให้บริการ ^___^ สนับสนุนเต็มที่ค่ะ
ด้วยความยินดีอย่างยิ่งเช่นกันครับ ระบบนี้พวกเราสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยง่ายครับ ในการประยุกต์ใช้เพื่อบริหารงานวิจัยย่อมทำได้แน่นอนครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างสูงที่เข้ามาเยี่ยมเยียนและสนับสนุน
ตอนนี้กำลังคลำ ๆ อยู่ครับ ลองเล่น ลองฝึก ลองมือดูก่อน เพื่อวันหน้ามีโอกาสออกไปทำงานจะได้พร้อมใช้ได้ทุกเมื่อ
ต้องขอบคุณทีมงานทุก ๆ ท่านที่เสียสละกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับคนไทยได้ใช้
ตอนนี้ทดลองใช้บริหารงานวิจัยของตนเองอยู่ ก็พบว่า Portal.in.th เป็นระบบที่ดี มีประสิทธิภาพมาก ๆ
แต่ถ้าติดก็ติดอยู่ตรงที่ผู้ปฏิบัติ หรือ Keyman ในคณะฯ ในองค์กรที่จะเล็งเห็นประโยชน์และนำไปใช้ รวมถึงอาจารย์หรือผู้รับผิดชอบที่จะขับเคลื่อนระบบ
ถ้ามีอาจารย์ในคณะสักคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่อีกสักคนหนึ่งขับเคลื่อนระบบงานวิจัย รวมถึง "ระบบงานประกันคุณภาพ" ของคณะฯ หรือมหาวิทยาลัยแล้ว
งานวิจัยกับงานประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างสูงมากด้วยมี Portal.in.th เป็นมือ เป็นไม้ ที่สามารถใช้งานได้จริง
ตอนนี้ต้องลองฝึก ลองทำ ลองคิดให้เชี่ยวชาญ วันข้างหน้า จะได้มีโอกาสออกไปทำงาน ไปช่วยบริหารงานแบบนี้ให้มีจริง...
ถ้าหากจะคิดต่อในการณ์นี้ บุคลากรที่ขับเคลื่อน ถ้าหากเป็นคณะฯ หรือมหาวิทยาลัย บุคคลที่จะสามารถทำได้นั้น น่าจะเป็นอาจารย์เด็ก ๆ
จากประสบการณ์ที่เคยอยู่ในคณะฯ อาจารย์เด็ก ๆ มาใหม่ จะค่อนข้างมีเวลาเยอะกว่าอาจารย์เก่า ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารกันเกือบทุกคน
อาจารย์เด็ก ๆ นั้นยังไม่มีภาระงานบริหารมาก และจุดแข็งที่สำคัญของอาจารย์เด็ก ๆ นั้นเขาชอบรวมตัวกัน ซึ่งอาจารย์ผู้ใหญ่มักมองว่าเป็น "ก๊ก" เป็น "แก๊งค์"
แต่ถ้าหากให้ก๊กและแก๊งค์เหล่านี้ รวมตัวกันมาใช้ Portal.in.th ของตัวเอง เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยที่ตนรับผิดชอบอยู่ ซึ่งนั่นก็นเป็นภาระงานที่สำคัญของอาจารย์อยู่แล้ว อาจารย์เด็ก ๆ ก็จะเปิด "สภากาแฟ (World's Cafe)" ได้อย่างสนุกสนาน
และสภากาแฟใน Portal.in.th ก็จะเป็นหน้าเป็นตา เป็นภาระงาน เป็นดัชนีชี้วัดที่ใช้ประเมินคุณภาพ ทำเป็น KPI ได้ ถ้าหากมีผู้กำกับสักคน
ผู้กำกับนี้ ก็เพียงบอกว่า ถ้าเขียนเรื่องนี้ แปลงนิด เปลี่ยนหน่อย ก็จะเข้า KPI ตัวนี้ได้
อันนี้เล่นไม่ยาก งานเดิม แต่ถ้าผู้กำกับรู้งานประกันคุณภาพ เรื่องเนื้องานว่า สำนักมาตรฐานเขาจะวัดอะไรบ้าง การเขียนงานวิจัยให้เข้ากับ KPI นั้นก็ "สบาย ๆ"
ยิ่งถ้าใช้ Portal.in.th เป็นเวทีสาธารณะได้ จะช่วยเผยแพร่ผลงานวิจัย เป็นการ Promotion งานวิจัยของคณะฯ ไปในตัว
นอกจากที่บุคลากร คือ อาจารย์ได้ความรู้โดยตรงอยู่แล้ว จะสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ และชั่วโมงบินนี้ไปเขียนผลงานวิชาการ นำโอกาสนี้ไป นำเสนอผลงานในเวทีต่าง ๆ ได้เพราะมีคนรู้จักกันในวงกว้าง
จุดสำคัญอยู่ที่ "ผู้กำกับ (keyman)" ถ้าคีย์แมนกำกับ และบริการดี ๆ Portal.in.th ก็จะช่วยบริหารงานวิจัย และบริหารงานประกันคุณภาพของคณะฯได้อย่างเอนกอนันต์...