อยากแต่งงาน


แต่งงานแบบไหนของคุณ

 

 

 

 

อยากแต่งงาน

การตัดสินใจแต่งงาน

 เป็นสิ่งที่เราแต่ละคน เป็นคนเลือก เป็นคนกำหนดทั้งนั้นซึ่งบางท่าน ก็ไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้แต่บางท่านก็ไปไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้  บางครั้งคนที่เราจะแต่งด้วยกลับเป็นคนที่เราไม่ตั้งใจเลือก คนอื่นยกมาให้เลือก ผลักดันให้เลือกเพราะคนผลักดันเขาเลือกให้ ทั้งๆที่คนแต่งจะต้องอยู่กับเราจนตลอดชีวิต ไม่ได้อยู่กับคนผลักดัน

 

เห็นมามากแล้ว อยากเก็บมาเขียนให้ครวญคิดกัน

 เขาบอกว่า การแต่งงานก็เปรียบเสมือนกับเรา

รอขึ้นรถ 

1.บางคนก็รอไม่นาน รถที่ตนต้องการก็มาถึง

2.แต่บางคนก็รอ นานแสนนาน รอจนไม่อยากรอ    แต่ก็มาจนได้

3. เพราะบางคนรอเลือกรถที่จะขึ้น ไม่ถูกใจสักคันเลยไม่ได้ขึ้น

4. บางคนมีคนจูงมารอขึ้นรถที่คนจูงอยากให้ขึ้น

5.บางคนรถที่รอ แต่ก็ไม่มาเลย

บางคน เมื่อขึ้นรถไปแล้ว ได้ไม่นาน ก็รู้ว่าตนเองขึ้นรถผิดก็ ลงจากรถ คันดังกล่าว แล้วมาเริ่มต้นใหม่พยายามไปให้ถึงจุดหมาย แต่บางคนก็ขึ้นไปจนเกือบสุดสาย พึ่งรู้ว่าตนเองขึ้นรถผิด หากคุณต้องการขึ้นรถให้มันถูกต้องก็ต้องมาเริ่มตรงจุดเริ่มใหม่ แต่บางคนโชคดี อาจจะเป็นด้วยบุญวาสนาขึ้นรถถูกสายไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้

บางคนไปขึ้นรถที่ไม่ต้องการขึ้น แต่ถูกคนดันหลังให้ขึ้น พอขึ้นไปแล้วก็รู้ว่าขึ้นรถผิด ครั้นจะลงก็ลงไม่ได้ เพราะคนข้างล่างไม่ให้ลง กลัวจะเสียหน้าคนผลักดัน

ดูจากคนเลือกรถขึ้นกับคนถูกเลือกให้ขึ้นรถต่างต้องผจญกับผลของการเลือกบนรถที่ต้องนั่งไปตลอดทาง คนไหนนั่งไปร้องไห้ไปคนไหนนั่งไปร้องเพลงไป

ก็เป็นชะตากรรมที่เป็นคนเลือกเองกับถูกคนเขาเชียร์หรือผลักดันให้เลือก

ท่านอ่านแล้วท่านคิดอย่างไร

ท่านกำลังนั่งรถอยู่ในประเภทไหน

คนที่ยังไม่ได้ขึ้นรถท่านอยากนั่งรถประเภทไหน

เชิญวิสัชนาตามอัธยาศัย

คำสำคัญ (Tags): #การแต่งงาน
หมายเลขบันทึก: 260263เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2009 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (41)

เข้าใจเปรียบเทียบนะครับ

การแต่งงานเหมือนกับการรอรถเมล์ที่จะขึ้นไป

อย่ามาจ้างให้เสียเวลา

ก็ต้องรอรถที่เราต้องการขึ้นซีครับ

ผมว่าบันทึกนี้น่าจะเขียนให้หญิงสาวได้พิจารณาอ่านมากกว่าครับ

เป็นประโยชน์แก่สาวล้วนๆครับ

ประเภทรอคะ เป็นหญิงก็ต้องรอต้องเลือกนะคะ

รถจะมาช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรคะ ใจเย็นๆคะเรื่องแบบนี้ต้องใจเย็นๆ

เหมาะสำหรับผู้หญิงจริงๆนะคะ

ขอเพิ่มอีกหน่อยนะคะ

สมัยนี้ผู้หญิงเลือกที่จะรอ  มากกว่าขึ้นรถเลย

เพราะชีวิตมีงานทำและมีอิสระ  ไม่มีกรอบว่าเอ่อ 40 แล้วแก่แล้วแต่งได้แล้ว

โอ้ การแต่งงานเหมือนกับการขึ้นรถ

ว่าแล้วเชียว ทำไมเดี๋ยวนี้เขาถึงขึ้นเครื่องบินกันเยอะขึ้น อิอิ

อ่านแล้วรู้สึกว่าเปรียบเทียบได้กินใจมากค่ะ หมวยคงรอคันที่ถูกใจที่สุดค่ะ ยินดีที่จะรอค่ะ เพราะถ้าฝืนใจขึ้นคันที่ไม่ถูกใจคงเสียใจไปตลอดชีวิตค่ะ ถ้ารอแล้วยังไม่เจอคันที่ถูกใจคงยอมรอ เป็นโสดซะดีกว่าทนอยู่กะคนที่เราไม่ได้รักนะคะ

หมวยบูริน แต่งเรื่องสั้นไว้ด้วยนะคะ ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะว่าหมวย พอจะเป็นนักเขียนกะเขาได้รึเปล่า เรื่อง นักบัญชีชิวชิว ตอนที่ & 2.1

ค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ

รอรถคันที่ถูกใจคะ

น่าจะเพิ่มรถคันที่เรารอ คนขับเขาเอาใจดูแลเราตลอดเส้นทางด้วยนะคะ

นั่งรถถูกใจอย่างเดียว แต่คนขับดูแลไม่เก่งก็ไม่เอาคะ

วิธีคิดน่าสนใจนะคะ

แต่ก้อยยังไม่สนใจที่จะไปนั่งเลือกแบบไหน

เพราะเป้าหมายตอนนี้อยู่ที่การเรียนคะ

เมื่อตัดสินใจขึ้นรถมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคันไหน..หรือเหตุผลใด..ก็ตาม ย่อมหมายความว่า "เขาพร้อมที่ผจญภัยบนรถคันนั้น..." 
^_^ และหากผจญภัยโดยใช้สติปัญญาบวกความรักความเมตตา ความเข้าใจ...ฯลฯ เป็นแนวทางในการผจญภัยครั้งนี้
ก็ย่อมถึงจุดหมายปลายทาง...โดยสวัสดิภาพ
ก็คืออยู่ที่ใจค่ะ..ถ้าใจคิดว่าเลือกถูก ก็รู้สึกเป็นสุข
                  ..ถ้าใจคิดว่าเลือกผิด ก็เป็นทุกข์

ชอบขึ้นรถคันนี้คะ

รอขึ้นรถ 

1.บางคนก็รอไม่นาน รถที่ตนต้องการก็มาถึง

ถ้ารถที่ต้องการขึ้นไม่มาเลย ก็ช่างปะไร

ไม่ต้องขึ้นก็ได้ ตัวคนเดียวสบายใจกว่าครับ

คนเราก็มีวิธีคิดที่แปลกๆนะคะ นับถือคะ

แต่ไม่ขอเลือกนะคะ คิดอยู่ในใจคะ

อยู่ในประเภทไหนเหรอค่ะ ... อึมม...ย้อนคิดไปนานนิดหนึ่ง ตอนนั่นน่าจะอยู่ในประเภทรอรถ นะค่ะ .. แต่เครื่องบิน มา ..

ตัดสินใจเลือกรถคันเล็กๆนั่งได้แค่ 3 คน แรกๆก็สบายใจ แต่รถมักวิ่งแวะข้างทางบ่อยๆ จึงตัดสินใจ ลงดีกว่า

คุณ 1. ภัทร เทพวัชร

ใครใครก็อยากจะปีนป่ายขึ้นรถที่ถูกใจ

แต่งงานก็อยากแต่งกับคนที่รักและมีอุดมการณ์รักที่แน่วแน่

ถูกแล้วครับเราต้องรอรถที่เราต้องการขึ้น

เราต้องรอคนที่เราต้องการแต่งได้เช่นกันครับ

 

ใช้แล้วครับคุณ  ธีรเดช รัตนากร

ตั้งใจเป็นแง่คิดสำหรับหญิงในการตัดสินใจเรื่องการแต่งงานครับ

แต่งกับงานไปเรียบร้อยแล้วค่ะ 

อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก

อยู่สองครองสุขแสนสนุกแต่ไม่สบาย

ชีวิตเลือกได้ค่ะ

หลายคนคงต้องร้องเพลงรออยู่นานสองนาน

แต่สำหรับคุณ กรรณิการ์ จินดารมย์ คงไม่ใช่การรออย่างเดียว คงเป็นการเลือกด้วย

เลือกคนถูกใจไงครับ

คุณ ดุจดาว แสดงความเห็นได้น่ารัก

รอต่อไปดีกว่า ถ้ารถที่ต้องการยังไม่มา

การรอคือการเลือกครับ เลือกที่จะขึ้นรถที่เราต้องฝากชีวิตไว้ตลอดเส้นทาง

ถ้าไม่ใช่รถที่รอ ไม่ขึ้นเสียดีกว่าครับ

ตามความคิดของคุณ กอก้าน>>>ก้านกอ เปรียบยิ่งกว่าการขึ้นรถ คือการเลือกขึ้นเครื่องบิน

ตามนัยยะคนหน้าหวานแบบคุณ กอก้าน>>>ก้านกอ คงหมายถึงสาวสมัยใหม่ที่แต่งงานเร็ว ใช่ไหมครับ

 

  • แวะมาทักทายค่ะ
  • อ่านแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นแบบข้อที่ 5 ค่ะ
  • ฮ่าๆๆๆ
  • เขียนบันทึกอีกนะคะ แล้วจะเข้ามาติดตามค่ะ
  • ^_^

สวัสดีค่ะ

แวะมาขอบคุณที่ไปทักทายกันค่ะ

อ่านแล้วอมยิ้ม...โนคอมเม้นท์ดีกว่า...

ไม่รอขึ้นรถค่ะ  จะไปเครื่องบินดีกว่า...555555....

(^___^)

ไปอ่านบันทึกที่ Wanpen เลยตามมาค่ะ

อ่านแล้วสงสัยจะเป็นข้อ 5

เคยรอขึ้นรถ แต่ตอนนี้รู้สึกไม่สนใจจะรอแล้ว หาทางไปเองดีกว่า

แต่ก็กลัวๆอยู่ ว่าพอเราไม่รอ

รถมันดันจะมานีี้แหละ ฮ่าๆๆ

คุณหมวยบูริน Pinky [IP: 202.12.97.115] ตอบได้ถูกใจครับ เราเป็นผู้กำหนด เราเป็นผู้เลือกขึ้นรถ

เพราะรถที่เราจะขึ้นคือรถที่เราจะไปกับเขาตลอดชีวิต

ถ้าไม่ใช่คนที่ใช่ก็จะไม่ไปด้วย

และจะไม่ขึ้นรถใครเพื่อเอาใจใครที่เขาแนะนำ แม้คนแนะนำจะดีกับเราเพียงใด

เยี่ยมครับ

ในการเลือกคู่ครอง บางคนตั้งเงื่อนไขไว้มาก

รถคันที่ถูกใจกับคนขับที่ถูกใจก็คือสิ่งสิ่งเดียวกันครับคุณ ตรรกนันท์

ผมเย้าเล่นนะครับ

ขอบคุณมากครับที่แวะมาร่วมสนทนา

ดีครับคุณเมธินี (ก้อย) แสดงทีท่าที่ชัดเจน

การแสดงออกของคุณบอกถึงตัวตนที่ชายชื่นชมและชื่นชอบครับ

คุณครูใจดีสุ่มเสี่ยงหน่อยนะครับ ขึ้นรถต้องดูว่าเป็นรถที่เราต้องการ ใช่หรือไม่

ถ้าไม่ใช่อย่าขึ้นเชียวนะครับ เพราะขึ้นแล้วลงยาก เขาไม่ให้ลงครับ

ถ้าลงกลางทาง รถคันที่ตามมาไม่มีคันไหนอยากรับไปด้วยนะครับ เพราะไม่มีค่าพอครับ

คุณ รัชดาวัลย์ สว่างรัตน์ ขอเลือกและรอขึ้นรถ

ชัดเจนมาก เมื่อแต่งงานจะต้องแต่งกับคนที่รักเท่านั้น

ขอบคุณครับ

คุณชลิต แจ่มใส ใจเด็ดใจแข็งมาก ไม่มาก็ไม่เลือก

ผมไปอ่านเรื่องเสียวของคุณมาแล้ว คุณยังสนุกอยู่กับการผจญภัย เรื่องนี้จึงยังคงอีกไกลครับ

คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า  ตอนนี้ไม่คิดแล้วคะ แต่ก็อยากให้ข้อคิดว่า ถ้าตนเองเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็คงยอมขึ้นคานคะ

สวัสดี ครับ

มาชม...บันทึกของคุณ

P

แบบนี้ ...คงหาไม่ยาก นะครับ

ขึ้นอยู่ว่า...จะไปรถไฟขบวนไหน เท่านั้น

มีข้อคิด ครับว่า...มองแบบไหน ....

ชีวิตคู่...ต้องมีการเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน

ไม่มีสิ้นสุด แต่ก็อบอุ่นอยู่ในที

ขอบคุณ นะครับ

บางครั้งคนเราก็ปฏิเสธทางเลือกที่คนอื่นหยิบยื่นให้
คุณ วลัยลักษณ์ หญิง งามวิไล แสดงท่าทีที่ชัดเจน
อาจจะยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ในหัวใจก็ได้ครับในขณะนี้

ขอบคุณมากครับ

 

 

ยินดีที่คุณ NuiErnik มาร่วมแสดงความคิดเห็น

คุณอื่นเขารอรถมารับ

คุณ NuiErnik ไปกับเครื่องบินเลยนะครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ : )

ครู ป.1 นั่งเบียดกันมา 3 คน ใหม่ๆก็ดูดี พอไปๆมาๆ รถมักแวะข้างทางจึงขอลง

ไม่ทราบว่าเจ้าของรถเขายอมให้ลงหรือครับ : )

ครู ภาทิพ ครูนักกลอนสาวแต่แต่งงานแล้ว

ให้ข้อคิดน่าคิดนะครับ

อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก

อยู่สองครองสุขแสนสนุกแต่ไม่สบาย

อ่านแบบนี้แล้วเห็นทีหลายๆคนต้องรีบแต่งงานนะครับ

 

อ่านแล้วได้ข้อคิดเลือกการขึ้นรถ เอ้ย!! เลือกคู่แต่งงานค่ะ ไม่รู้จะอยู่ในข้อไหน สงสัยเป็นข้อนี้ค่ะ "บางคนก็รอ ร้อ รอ นานแสนนาน น้าน นาน รอจนไม่อยากรอ...แต่ก็ต้องรอต่อไป" แฮ่ๆๆๆ ต้องเลือกขึ้นรถจริง ๆ ค่ะ...อยากจะขึ้นไปนั่งร้องเพลงแบบพี่เบิร์ดค่ะ...สบาย ๆ

สำหรับผม รถที่มา ก็ไม่ถูกใจ รถที่ถูกใจ ก็ไม่มา

ต้องออกไปหารถเองครับ

สวัสดีครับ  คุณ สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ

ชีวิตของคุณน่าทึ่งมากครับ มีไฟฝันและมีชีวิตชีวาตลอดเวลา     คนที่อยู่ใกล้ๆ หรือรอบข้างพลอยได้รับอนิสงฆ์ตามไปด้วย

ผมไปอ่านในประวัติคุณ ประทับใจมากครับ...

 

.... เป็นคนรักการเรียนรู้  มีความมุ่งมั่น ใฝ่หา ไม่หยุดอยู่กับที่ วาดฝัน และจะมุ่งมั่นไปตามที่ฝันไว้  แต่ไม่ไกลเกินตัว  ที่ฝันและมุ่งมั่นนั้น ไม่ใช่อะไร  เพราะชีวิตคนเราถ้ามีเป้าหมายหรือวาดฝันไว้ ย่อมจะมีแรงส่ง เป็นแรงผลักดันหรือพลังที่จะก้าว ก้าวไปเพื่อสิ่งนั้น คิดว่าถ้าไม่มีเป้าหมายหรือวาดฝันไว้ ก็จะเป็นคนจืดชืด ปล่อยชีวิตไปวันๆ ไม่มีหลัก ไม่มีเป้าหมายในชีวิต

 

สวัสดีครับคุณ Vij
 
หายไปนานเช่นกันนะครับ
ช่วงเวลาที่ผ่าน การรอรถคงจะคลี่คลายลงไม่มากก็น้อย
ขออวยพรให้สำเร็จการศึกษา ป.เอก สมประสงค์นะครับ

 

ใช่ครับท่านรองฯ   small man

เมื่อไม่มีรถถูกใจมา ก็ต้องเดินไปหารถเอง แต่รถที่ต้องการคงไม่จอดนะครับ ถ้าไม่ใช่ป้ายจอด

ยืนรอที่ป้ายจอดนะครับ

จากการอ่านย้อนหลังท่านพบกับคนที่พรหมลิขิตมากแล้วนะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท