เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ


โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ใครๆ ที่ได้อ่านข่าว (พ.ต.ท.) ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทมส์ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านไปแล้ว คงมีความรู้สึกไม่ต่างกับผม

คือรู้สึกว่า ถ้า (พ.ต.ท.) ทักษิณไม่มีความรู้เลยในเรื่องระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (พ.ต.ท.) ทักษิณก็คงจะไร้เดียงสา หรือโง่ หรือบ้า หรือมีเจตนาที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ก่อนที่จะอ่านเรื่องนี้ต่อไป ผมขอชี้แจงว่า ที่ผมใส่วงเล็บไว้หน้าและหลังคำ "พ.ต.ท." หน้าชื่อ "ทักษิณ" ในการเขียนเรื่องนี้ ก็เพราะผมรู้สึกกระดากมือและกระดากใจที่จะใส่ยศเข้าไปเต็มๆ ที่หน้าชื่อ "ทักษิณ" เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณได้ทำความเสียหายและอับอายขายหน้าอย่างเหลือเกินให้แก่ราชการตำรวจ ด้วยการหนีโทษตามคำพิพากษาของศาล แล้วยังเป็นผู้ยุยงส่งเสริมให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศ จนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาอีกด้วย จึงไม่สมควรจะมีหรือใช้ยศตำรวจ และควรจะถูกถอดยศได้แล้ว แต่เมื่อยังมียศอยู่ ผมก็จะใช้ยศนั้นในวงเล็บไปพลางก่อน เมื่อใดที่ถูกถอดยศแล้ว เมื่อนั้นผมจึงจะเรียกว่านายทักษิณ

เรื่องเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณนั้น เดี๋ยวนี้ผมไม่อยากเขียน เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณพูดเพ้อเจ้อและโกหกมดเท็จทุกครั้ง การเขียนและพิมพ์เรื่องการให้สัมภาษณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณจึงไร้ประโยชน์ และกลายเป็นช่วยแพร่การเพ้อเจ้อและโกหกมดเท็จ แต่เมื่อทั้งสื่อเทศและสื่อไทยยังเผยแพร่การโกหกมดเท็จนั้นอยู่ และเมื่อการโกหกมดเท็จของ (พ.ต.ท.) ทักษิณอาจกระทบกระเทือนและเสียหายร้ายแรงต่อบ้านเมือง ผมก็ถือเป็นหน้าที่ของผม ที่จะต้องตอบโต้หรือคัดค้าน

ข่าวการให้สัมภาษณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณคราวนี้ ปรากฏในหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทมส์ ฉบับวันที่ 20 เมษายน 2552 (พ.ต.ท.) ทักษิณให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น สองคน คือนายรอบิน วิกเกิลสเวอร์ธ (Robin Wigglesworth) ในนครดูไบ และนางสาว (หรือนาง) เซรีนา ทาร์ลิงก์ (Serena Tarling) ในนครลอนดอน (พ.ต.ท.) ทักษิณบอกว่า ก่อนที่จะเกิดรัฐประหารขึ้นในเดือนกันยายน 2549 นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี (ในขณะนั้น) และองคมนตรีอีกผู้หนึ่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และผู้ที่เข้าเฝ้าฯ ได้กราบบังคมทูลว่า จะกำจัด (พ.ต.ท.) ทักษิณ ถวาย เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณไม่จงรักภักดีต่อฝ่าละอองธุลีพระบาท (they will do a favour for him by getting me because I am not loyal to the king) (พ.ต.ท.) ทักษิณบอกด้วยว่า หลังจากนั้น เมื่อตนพยายามจะปราบปรามการประท้วงที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลก็ไม่มีผู้ใดร่วมมือ เพราะมีบางคนส่งเสริมอยู่เบื้องหลัง (there is someone boosting behind them)

(พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างว่า ตนทราบเรื่องนี้จาก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี

ก่อนอื่นควรทราบว่า การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทมิใช่เป็นเรื่องง่าย แม้จะเป็นเรื่องสำคัญหรือเร่งด่วนที่สุด และแม้ผู้ขอเฝ้าฯ จะเป็นประธานองคมนตรีหรือองคมนตรีก็ตาม การขอเฝ้าฯ มีขั้นตอนของการปฏิบัติที่ทุกคนต้องทำตาม และต้องผ่านเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะสำนักราชเลขาธิการ และเมื่อเสด็จลงให้เฝ้าฯ ก็มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเฝ้าฯ ปฏิบัติหน้าที่ถวายอยู่ในที่ประทับด้วยเสมอ

ผู้อ่านที่มีสติสัมปชัญญะและมีเหตุผลย่อมรู้และเข้าใจทันทีเมื่อได้อ่านข่าวนี้ว่า หากมีการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและกราบบังคมทูล ดังที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างว่าทราบจาก พล.อ.พัลลภ พล.อ.พัลลภก็ต้องรู้เรื่องการเฝ้าฯ นั้นจากคนอื่น และ "คนอื่น" นั้นจะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก พล.อ.เปรม หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ หรือองคมนตรีอีกผู้หนึ่ง (ที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างว่าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ด้วย) หรือเจ้าหน้าที่ที่โดยหน้าที่จะต้องเฝ้าฯ อยู่ในที่ประทับ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งในที่นั้นก็คือสมุหราชองครักษ์

คงรู้และจำกันได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพระองค์อยู่ในฐานะพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ไม่เคยปรากฏว่าเคยทรงล่วงพระราชอำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เมื่อมีวิกฤตการณ์บ้านเมืองไม่ว่าครั้งใด ทรงถือว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลจะต้องแก้ไขปัดเป่า ต่อเมื่อเป็นที่เห็นชัดว่า วิกฤตการณ์ลุกลามร้ายแรง เช่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงจะทรงพระกรุณาระงับวิกฤตการณ์ แต่ก็ด้วยการพระราชทานคำแนะนำแก่รัฐบาลเท่านั้น

องคมนตรีทุกคนทราบดีว่า รัฐบาลชุดที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีและชุดอื่นๆ ทุกชุด เป็นรัฐบาลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นไปได้หรือที่ พล.อ.เปรม หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ หรือองคมนตรีคนไหนก็ตาม จะเข้าไปเฝ้าฯ กราบบังคมทูลว่า ตนเองจะละเมิดกฎหมายละเมิดรัฐธรรมนูญถวาย ด้วยการกำจัด (พ.ต.ท.) ทักษิณ นายกรัฐมนตรีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง?

การให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบเรื่องรัฐประหารก่อนเช่นนั้น เป็นการปรักปรำหรือกล่าวหาฝ่าละอองธุลีพระบาทโดยตรงและอย่างเปิดเผย ว่าทรงอนุญาตหรือทรงอนุโลมให้เกิดรัฐประหาร แสดงว่า (พ.ต.ท.) ทักษิณไม่เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ และจงใจหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ ผมยังไม่เห็นหรือได้ยินประกาศหรือแถลงการณ์ของส่วนราชการใด ปฏิเสธการปรักปรำกล่าวหาของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ แต่ผมเห็นว่าคนไทยที่เคารพสักการะพระมหากษัตริย์และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่จำเป็นต้องคอยทางราชการต่อไปอีกแล้ว แต่ควรตระหนักกันเสียทีว่า พฤติการณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณแสดงชัดแล้วว่า (พ.ต.ท.) ทักษิณไม่ต้องการระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมุ่งทำลายพระมหากษัตริย์อย่างแน่นอน

ตลอดเวลา 62 ปีที่ทรงครองราชย์มา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงแสดงให้ประจักษ์ด้วยพระราชกรณียกิจทั้งน้อยและใหญ่นานัปการ ว่าทรงอุทิศพระวรกายให้แก่ประชาชนและบ้านเมือง โดยปราศจากเงื่อนไข ทรงตรากตรำพระวรกาย จนพระพลานามัยไม่สมบูรณ์และทรงพระประชวร แม้กระนั้นก็ยังไม่ทรงหยุด ยังทรงตั้งพระทัยทำงานเพื่อคนไทยและเมืองไทยต่อไป

เรารู้ด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงติดยึดกับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ ทรงทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และทรงถือเอาความสำเร็จของพระราชภารกิจเป็นสำคัญ ทั้งยังทรงยึดมั่นในขันติธรรม การให้ร้ายและแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพระมหากษัตริย์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณหรือของใครก็ตาม ไม่เคยทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสะทกสะท้านหรือหวั่นไหว หรือกริ้ว หรือน้อยพระราชหฤทัย

เพราะฉะนั้น จึงถึงเวลาแล้ว ที่คนไทยที่ตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณ เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะต้องพิจารณาตัดสินใจว่า จะควรทำอย่างไร กับผู้ที่ไม่แต่จะจาบจ้วงลบหลู่ดูหมิ่นและหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพสักการะของเราเท่านั้น แต่ยังพยายามที่จะล้มระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย

(ที่มา : มติชนออนไลน์ ,28 เมษายน 2552)

หมายเลขบันทึก: 258088เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2009 09:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กันยายน 2015 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท