นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Southern California เผย ความแปรผันของยีนมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของปอด รวมทั้งมีอิทธิพลต่ออันตรายที่จะได้รับจากการสูบบุหรี่มือสอง
แคร รี บรีทอน กล่าวในรายงานข่าวมหาวิทยาลัยว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของปอดมีหลายอย่าง ประกอบด้วย ปัจจัยด้านความแตกต่างทางพันธุกรรมและปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม เช่น ยาสูบ หรือมลพิษในอากาศ
ทีมวิจัยต้องการทราบว่าความแปรผันของยีน (gene variation) ใช้ทำนายการพัฒนาและการทำงานของปอดรวมทั้งพิษที่ได้รับจากควันบุหรี่มือสองได้หรือไม่
ยีนที่ทีมวิจัยสนใจคือ ยีนในกลุ่มต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า กลูตาไธโอนเอสทรานสเฟอเรสหรือจีเอสทียีน (glutathione-s transferase; GST) เนื่องจากพบว่าความแปรผันของยีนนี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ได้รับควันบุหรี่ขณะอยู่ในครรภ์มารดา
จากการวิเคราะห์การทำงานของปอดและเก็บข้อมูลจีโนไทป์ในเด็กจำนวน 2100 คน พบแฮโพไทป์ (haplotype) หรือรูปแบบความแปรผันของยีนที่สำคัญ 3 รูปแบบ ในยีน GSTM2, GSTM3 และ GSTM4 โดยคาดว่ารูปแบบความแปรผันที่พบนี้จะมีผลต่อการทำงานของปอด
ทีม วิจัยอธิบายว่าความแปรผันของยีนมิได้ส่งผลเสียต่อการพัฒนาของปอดแต่มีผลต่อ ความสามารถในการต่อสู้กับอนุมูลอิสระของปอด เช่น ในกรณีของคนสูบบุหรี่
ยีน GST เป็น ยีนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการล้างพิษจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจเป็นสารก่อมะเร็งหรือมลพิษในอากาศ เช่น ควันบุหรี่ คาดว่าความแปรผันทางพันธุกรรมที่พบจะทำให้ปอดไม่สามารถล้างพิษจากสารอันตราย ได้ อาการอักเสบอื่น ๆ ก็จะตามมา เช่น หลอดลมหดตัว (bronchial constriction) ภาวะหลอดลมไวเกิน (airway hyper-responsiveness) และมีอาการคล้ายหืดหอบ (asthma-like symptom)
บรี ทอน กล่าวว่า ในอนาคตจะทำการศึกษาต่อไปว่ายีนเหล่านี้ทำงานร่วมกับยีนชนิดอื่นอย่างไรจึง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของปอดได้ โดยจะศึกษาระยะเวลาที่หญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่และคุณภาพของยาสูบที่ใช้ร่วม กับการศึกษาความแปรผันของยีนหลายชนิดร่วมกันเพื่ออธิบายการพัฒนาปอดของทารก ในครรภ์
รายละเอียดสามารถหาอ่านได้จากวารสาร American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine ฉบับต้นเดือนเมษาครับ
ได้ความรู้ดีๆ ขอบคุณจ๊ะ