013 : น้ำตา...อภัย...ชะล้างจิตใจตามแบบวิถีพุทธ


การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมเป็นการปลูกต้นกล้าแห่งความดี ที่ใครๆต่างพากันหวังผลที่สวยสดงดงาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของสภาพแวดล้อมของตัวเด็ก

     วันนี้ขอเล่าเรื่องกิจกรรมเข้าค่ายธรรมะเพื่อปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของเด็กๆที่ใครๆต่างพากันหวังผลที่สวยสดงดงาม ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับบริบทของสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน และอาศัยการมีส่วนร่วมทั้ง บ้าน  วัด  โรงเรียน ในการจ้ดกิจกรรมดังกล่าวให้บรรลุตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้

    สังเกตเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงระหว่างฝึกปฏิบัติ  เด็กๆมีมารยาทที่งดงามเรียบร้อยตามแบบ       ที่เราอยากจะสร้างให้เขาเป็น อยากจะให้เขาเกิดการเรียนรู้  เกิดความรู้สึกที่ไม่อายที่จะแสดงออกและถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ ไม่ว่าจะเป็นด้านคำพูด  มารยาทในการอยู่ร่วมกันทางสังคม  พิธีกรรมทางพุทธศาสนา เด็กๆทุกคนสามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับโดยตรงเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

                                  ดูภาพแล้วเด็กๆของเราน่ารักแบบไทยๆน่าปลื้มใจนะคะ

 

เด็ก ๆ กำลังสารภาพกับตัวเองในความผิดและความไม่ดีที่ตนเองเคยกระทำ

   เด็กๆนำกระดาษที่เขียนสารภาพความผิดใส่บาตร  ประหนึ่งว่าพระได้ขอบิณฑบาตความไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงที่เด็กๆเคยทำไว้  เพื่อให้เด็กๆรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาวสะอาด  สิ่งใดที่เคยทำผิดมาไม่ว่าจะเป็นทางด้านกาย วาจา  ใจ  ทุกคนให้อภัยและพร้อมที่จะเริ่มต้นการดำเนินชีวิตใหม่แบบวิถีพุทธได้อย่างเหมาะสม  กิจกรรมนี้เด็กๆทุกคนซาบซึ้งถึงกลับร้องไห้ออกมา และเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางดีที่สังคมต้องการ  (ภาคภูมิใจในผลสำเร็จของกิจกรรมนี้มากเพราะกลับไปเด็กๆน่ารักพูดจาสุภาพ มารยาทเรียบร้อย  มีน้ำใจและไม่ดื้อเลยค่ะ)

 

                      เห็นน้ำตาศิษย์ไหลนองอาบสองแก้ม     เสมือนศิษย์ล้างแต่งแต้มจิตให้ใส

              คุณครูปลื้มศิษย์รักจากหัวใจ                        พร้อมอภัยให้เสมอเธอคนดี

              มาวันนี้กิริยาช่างน่ารัก                                ช่างงามนักทั้งกายใจไม่หมองศรี

              จะเดินนั่งพูดจามารยาทดี                            ภูมิใจที่ได้ปลูกฝังสั่งสอนมา   

++++++++++++++++++++

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 256802เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2009 19:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก G2K

ดีใจจังที่นำภาพลงไฟล์ได้แล้ว(เพิ่งลงได้สดๆร้อนๆเดี๋ยวนี้เองค่ะ)

ช่วยคอมเมนท์หน่อยนะคะ

ฝากขอบคุณ อ.ขจิต คุณดาวลูกไก่ และน้องต้อมที่ช่วยลุ้น

คิดว่าจะพยายามลงภาพประกอบกิจกรรมต่างๆมาแลกเปลี่ยนเพื่อนสมาชิกกันค่ะ

ขอบคุณหลายๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ

กิจกรรมตักบาตรความผิดแบบนี้ดีจังเลยครับ ช่วนกล่อมเกลาจิตใจเด็กให้อ่อนโยนและสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กๆด้วย

 

แต่กิจกรรมการนั่งสมาธิ ในโรงเรียนวิถีพุทธ ผมยังมองว่า ไม่ค่อยเหมาะสมกับเด็ก กับวัย และความสนใจ

หลายๆโรงเรียนที่ผมไปเก็บข้อมูล เป็นโรงเรียนวิถีพุทธส่วนใหญ่ไม่เน้นการนั่งสมาธิ แต่จะมีกิจกรรมสุนทรียศิลป์ต่างๆที่เด็กสนใจ มาให้เด็กได้ทำกิจกรรม

เช่น การตัดตุง ของภาคเหนือ การประดิษฐ์ดอกไม้ สำหรับ นร.หญิง เป็นต้นครับ

การนั่งสมาธิในเด็กเล็กๆ อาจทำให้เด็กหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา ที่แสดงถึงความเครียดที่เขาถูกบังคับให้นั่งนิ่งๆ ขัดกับวัยและความสนใจของเขาครับ

เป็นอีกหนึ่งมุมมองครับ :)

 

สวัสดีค่ะ

  • ก่อนอื่นขอยินดีด้วยค่ะ นำภาพลงไฟล์ได้ (แต่ติฉันยังทำไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวต้องศึกษาก่อน)
  • ขอแสดงความเห็นค่ะ :- ตอนเป็น นักศึกษา ก็เคยเข้าอบรมแบบนี้  แต่เมื่อเวลา และสิ่งแวดล้อมผ่านเข้ามา หลายครั้งที่เราลืมสิ่งที่เราได้อบรมหรือเขียนไว้ 
  • ฝากเป็นโจทย์ต่อว่าทำอย่างไร จะทำให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกแบบนี้และต่อเนื่องไปจนเขาโตค่ะ ?

      จากเด็กเคยเข้าค่าย

สวัสดีค่ะน้องเอก

ขอเรียกน้องเอกตามพี่ๆเค๊านะคะ

ขอบคุณสำหรับคำชมและข้อเสนอแนะ

พี่ดีใจมาก และจะพัฒนากิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กๆไปเรื่อยๆค่ะ

ถ้าน้องเอกมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆอีกก็แนะมาบ้างนะคะ

เป็นกิจกรรมที่น่าชื่นชมค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ..

พี่สาวเก่งค่ะ..ลงภาพได้แล้ว..

ครูอ้อ..ยังงมโข่งอยู่เลยอิอิ..

สวัสดีค่ะคุณหมูน้อย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม

ในกรณีที่จะปลูกฝังให้เด็กๆเกิดความรู้สึกอย่างนี้หรือมีพฤติกรรมเช่นนี้นานๆ

ต้องขึ้นอยู่กับบริบทสภาพแวดล้อมของเด็กๆ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน

ก็เป็นห่วงเหมือนกันว่า เมื่อเด็กๆ พ้นอัอมกอดของเราออกไปจะเป็นเช่นไร

ความผูกพันด้วยการกระตุ้นให้ทำความดีจากที่เคยได้รับจะถดถอยไปหรือไม่

พี่คิดว่าอยู่ที่สภาพจิตใจของเด็กและพื้นฐานครอบครัวอีกด้วยนะคะ

....ขอให้พลังแห่งความดี...เป็นพลังที่คงทนตลอดไป

มาให้คะแนนการลงภาพครับ ไม่รู้จะหักคะแนนตรงไหน (ขอหักตรงที่ไม่มีรูปครูยุ้ย) ภาพแห่งความทรงจำอันงดงาม จะยังคงตราตรึงตราบนิรันดร์ ขอบคุณมากครับ

เป็นกิจกรรมที่ดีนะคะ

เด็ก ๆจะได้รุ้ว่าทำผิดต้องยอมรับ สารภาพ แล้วจะได้รับการอภัย

สวัสดีค่ะผอ.บวร

หายเงียบไปไหนมาคะ

ครูยุ้ยดีใจบอกไม่ถูกเลยว่าย่อภาพลงไฟล์ได้แล้ว

เดี๋ยวจะได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผอ.ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณประกาย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ

เด็กๆ โชคดีจังเลยค่ะที่ได้ทำกิจกรรมนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ได้ชมภาพแล้วขนลุกซู่เลยค่ะ ผู้ใหญ่หลายๆ คนยังไม่มีโอกาสทำกิจกรรมแบบนี้เลย (ถ้าได้ทำกิจกรรมนี้ น่ากลัวดาวลูกไก่ต้องเอาโอ่งไปรองรับน้ำตาด้วยค่ะ)

แอบยิ้มก่อนเลยนะเนี่ย

แล้วค่อยทักทายว่า สวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่

ขำจัง...ที่บอกว่าเอาโอ่งไปรองน้ำตา

แต่ป้าบิ๊กจะเอาน้ำตาคุณดาวลูกไก่ไปทำน้ำปลา(ประหยัดดีมั๊ยคะ...อิอิอิ)

แต่คงยาก...เพราะคุณดาวลูกไก่น่ารัก สดใส มีแต่น้ำใจเต็มโอ่งเลย จริงมั๊ยคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท