ความแตกต่างระหว่างเด็กนักศึกษาไทยและจีน


ความเป็นตัวเอง ความรู้เฉพาะด้าน การกล้าแสดงออก และการทำงานเป็นทีม ในความรู้สึก เด็กเราอ่อนด้อยกว่าเขามาก และเมื่อเปรียบเทียบพลเมือง 70 ล้านคน กับ 1,600 ล้านคน ก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ เมื่อยักษ์หลับตื่นขึ้นมา โลกต้องอลเวงแน่ ทำไงดีล่ะ คงต้องให้ผู้มีอำนาจต้องคิดหนักเป็นแน่แท้ ใช่ไหมครับ

มหาวิทยาลัยไทยและจีน มีความสัมพันธ์กันมานาน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็มีมาตลอด ลองไปดูมา 2-3 ครั้ง ก็ให้อนาถใจมากขึ้น คราวหน้าจะไม่ไปดูแล้ว เพราะเบื่อ และรู้สึกอับอายเขามาก เพราะของเราแบบเดิมๆ การรำฟ้อนที่โชว์ความสวยงามอย่างเดียว มิได้โชว์ศักยภาพที่เด่นชัดของเด็กแต่อย่างใด  ผิดกับเด็กจีน ที่มีการโชว์ศักยภาพของตนเอง ไม่ว่าการเล่นดนตรีจีน การเขียนอักษรจีนด้วยภู่กัน การร้องเพลงเดี่ยว และหมู่ทั้งชายหญิง  การรำที่มีความหมาย เช่นเก็บใบชา แต่ของไทยโชว์ความสวยงามของเสื้อผ้า การรำแบบเดิมๆ ที่ดูเป็น 1,000 ครั้งก็พอรู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อไรพวกอาจารย์ที่รับผิดชอบจะคัดสรรเด็กที่มีความสามารถจริงๆ โชว์เขาบ้าง มิใช่หน้าเดิมๆ รำเหมือนเดิม แถมมีอาจารย์บางคนเอากุหลาบมาแจกเด็กจีน แต่เด็กไทยเรานำกลับบ้านเฉยเลย พฤติกรรมที่ฟ้องความเห็นแก่ตัว การไม่ลงทุนสำหรับฝ่ายต้อนรับ จัดเมื่อใดก็อายเมื่อนั้น จริงหรือไม่

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 2551เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2005 16:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 16:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ผู้ใหญ่เราประหยัดมากๆ กระเช้าดอกไม้ก็ไม่มี ของขวัญก็ไม่มี เด็กๆเขาจะได้มีกำลังใจ และสนุกด้วย สงสัยว่าจะเบิกไม่ได้ และไม่กล้าควักกระเป๋าตนเอง กลัวจะหมดเปลือง ทีไปกินฟรี เที่ยวฟรีชอบไปกันนัก หมดสัก 100-200 บาทไม่ได้เชียวหรือ เฮ้อ !!!
ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยจีนมา เขาจะให้สอบภาษาอังกฤษ โดยเน้นพูดและสื่อสารให้รู้เรื่องด้วย จึงจะให้จบ ลองคิดเล่นๆดูว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจีน คัดสรรคน 1-2 ล้านคนที่มีความสามรถและรักจะไปอยู่ต่างประเทศ ฝึกภาษาในแต่ละเทศให้ชำนาญ และให้เงินทุนเข้าไปทำธุรกิจในประเทศนั้นๆ ไม่ต้องเสียเวลายกพลขึ้นบก ก็สามารถนำทรัพยากร และทรัพย์สินของประเทศนั้นๆ กลับมาพัฒนาเมืองจีนใหญ่ให้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ได้แล้ว ไปเมืองจีนทีไร เขาเจริญก้าวหน้าทุกที เมื่อไร ช้างไทยจะตื่นซะที มัวแต่หาเงินเข้าบริษัท และพรรคพวกอยู่นั่นแหล่ะ แล้วเมื่อไร พี่ไทยจะสู้ใครเขาได้กันล่ะ

ตอนนี้ประเทศจีนมีการพัฒนาประเทศจนมีศักยภาพพร้อมใน

ทุกๆด้าน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเยาวชนของจีนได้รับการศึกษาที่มี

คุณภาพ ผิดจากประเทศไทยที่ระบบการศึกษาไม่ว่าจะยุคสมัยใด

ก็ยังไม่ได้มาตราฐาน นักเรียนไม่มีระเบียบวินัย เรื่องนี้ต้องให้

ผู้ใหญ่ของประเทศคิดระบบการศึกษาที่ได้ผล

เพื่อประเทศไทยของเราที่ก้าวหน้า มิใช่ย่ำอยู่กับที่อย่างเช่นวันนี้

การศึกษาของไทยนั้น มุ่งเน้นแต่การศึกษาในห้องเรียนแข่งกันทำคะแนน แข่งกันทำเกรด เด็กจึงเรียน เรียน แล้วก็เรียน เพราะสังคมไทยตัดสินกันที่เกรด ศักยภาพด้านอื่นๆ จึงไม่มี การแสดงที่นำไปโชว์ นอกจากการรำที่ซ้ำซาก รำเหมือนเดิมทุกครั้ง น่าจะจัดการแสดงที่แสดงถึงการใช้ความคิดความสามารถเพื่อให้คนจีนได้รับรู้ว่าเด็กไทยมีความสามารถนอกเหนือจากเรื่องศิลปะการแสดง ระบบการศึกษาของไทยก็สอนให้ท่องจำ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ child center แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากไปกว่าให้นักเรียนออกมา present หน้าห้อง ให้นักเรียนไปค้นคว้าหาความรู้เอาเอง อาจารย์ก็สบายมากขึ้น ด้านภาษาอังกฤษก็เน้นแต่ไวยากรณ์ ทำให้เด็กไม่กล้าที่จะพูดเพราะกลัวเรียงประโยคผิด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีคุณภาพทัดเทียมต่างประเทศ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท