“หากพรุ่งนี้ไม่มี......แม่ ?”


 

   วันนี้ลูกๆหลายคนอาจจะกำลังอยู่กับพ่อกับแม่ในครอบครัวที่แสนสุข ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่ ในการเลี้ยงดูเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากแม่ อยากได้อะไรมีแม่คอยจัดหาให้ อยากกินอะไรมีแม่คอยหามาให้กิน อยากเที่ยวที่ไหนแม่ก็พาไปเที่ยว อยากเรียนอะไรแม่ก็ส่งเสียให้เรียน อยากทำอะไรแม่ก็คอยส่งเสริมสนับสนุนให้ทำอยู่ตลอดมา ลูกๆหลายคนได้รับความสุข สะดวก สบาย สมบูรณ์พูนสุขในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เงินทองที่ใช้จ่ายได้ตามใจปรารถนา พร้อมทั้งการศึกษาที่ดีในสถาบันที่มีชื่อเสียง ความสมบูรณ์ ความสุขสบายที่ลูกได้รับอย่างสุขเกษมเปรมปรีดฺ์ทุกวันนี้ได้มาจากใคร..................?

วันนี้ยังมีลูกๆหลายคนไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ในครอบครัวที่อบอุ่น ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กเร่ร่อน เป็นเด็กจรจัด นอนตามป้ายรถเมล์ เร่ขอทานเก็บเศษอาหารประทังชีวิตไปวันๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน เดียวดายไร้ความอบอุ่นหว้าเหว่ห่อเหี่ยวในหัวใจขาดที่พึ่งพาอาศัยต้องตะเกียกตะกายต่อสู้ในโลกที่โหดร้ายมีแต่แก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เล่นพรรคเล่นพวก คิดเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อให้มีชีวิตอยู่ไปวันๆ

หากพรุ่งนี้ไม่มี.......แม่? โบราณว่า "ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก"

ชีวิตของลูกคงกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ไร้อนาคต ไร้การศึกษา กลายเป็นเด็กมีปัญหา เป็นภาระของสังคม คงต้องทุกข์ทรมานอย่างหาประมาณมิได้ หากเปรียบชีวิตเหมือนการข้ามฝั่งในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน ซึ่งต้องอาศัยแพและไม้ถ่อข้ามฝั่ง เพื่อไปสู่เป้าหมายอย่างปลอดภัย หากเปรียบไปก็เหมือนพ่อกับแม่ ถ่อเปรียบเสมือนพ่อ แพเปรียบเสมือนแม่ ถ้าถ่อหักก็ยังสามารถใช้มือหรือเท้าพายแทน แต่ก็ต้องทุลักทุเลพอควร มีโอกาสถึงฝั่ง 50-50 แต่หากแพต้องแตกหรืออับปางกลางแม่น้ำ โอกาสที่จะถึงฝั่งก็คงลางเลือนและริบหรี่เต็มประดา อาจต้องจมน้ำตาย หรือเป็นอาหารของสัตว์ร้ายได้

เปลวเทียนละลายแท่ง เพื่อเปล่งเเสงอันอำไพ ชีวิตมะลายไป เหลือสิ่งใดไว้ทดแทน หากเปรียบเทียนที่จุดขึ้นเหมือนกับชีวิตแม่ของเรา เทียนเล่มนี้มันส่องแสงให้มากเท่าใด ลำเทียนเองก็จะสั้นลง ๆ คล้ายดังชีวิตแม่ที่ให้ลูกมากแค่ไหน อายุของแม่ก็จะสั้นลง ๆ อายุที่ได้มาก็คือเวลาที่เสียไป ยิ่งลูกมีความเจริญรุ่งโรจน์มากขึ้นเท่าใด ชีวิตแม่ก็ยิ่งแก่ลงและหดหายลงไปเท่านั้น บางครั้งเทียนมันก็ลุกโชติช่วงชัชวาล บางครั้งก็ริบหรี่หรือไม่ก็ดับ แล้วน้ำตาเทียนก็ไหลหยดย้อยเหมือนหยาดน้ำตาของผู้เป็นแม่ของเรา ในที่สุดเทียนที่จุดขึ้นก็จะเหลือเพียงไส้ดำ ๆ วาระสุดท้ายของแม่เราก็จะเป็นอย่างนี้ แม่จะเหลือเพียงกระดูกที่เป็นเถ้าถ่าน ให้ลูกน้อยไปรับที่เชิงตะกอน

                                        

หากพรุ่งนี้ไม่มี........แม่?

แม่ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูก แม่ผู้ยอมอด เพื่อให้ลูกอิ่ม แม่ผู้ที่ยอมทุกข์เพื่อให้ลูกสุข แม่ผู้ที่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบาย แม่ผู้ที่ยอมตายเพื่อให้ลูกมีชีวิตอยู่
แม่ผู้ที่รักเป็นห่วงเป็นใยและเฝ้าถามลูกอยู่เสมอ เหนื่อยไหมลูก? หิวไหมลูก? ลูกอยากทานอะไร? ลูกอยากได้อะไรบอกแม่มา...แม่จัดให้? แล้วลูกละ เคยถามแม่บ้างหรือเปล่า?

ลูกบางคน ยามแม่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยเลยที่จะรักษาน้ำใจท่าน ไม่เคยเลยที่จะเลี้ยงดูใจท่าน ทำให้ท่านสบายอกสบายใจ ท่านได้เรามาเป็นลูกรู้ไหมท่านดีใจมากขนาดไหน?

ลูกวัวลูกควายซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีคุณธรรมน้อย เมื่อโตขึ้นเลิกกินนมแม่ วิ่งเล่นไปมาเอาลำตัวถูไถคลอเคลียแม่มันเล่น แล้วก็เดินจากไป เราอาจสรุปว่า ลูกวัวตัวนั้นไม่ดี ไม่มีความกตัญญู สู้ลูกคนไม่ได้

แต่ร้อยทั้งร้อยของเจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้เมื่อมันโตขึ้นและทิ้งแม่ไป มันจะไม่เถียงแม่ ไม่ตวาดแม่ ไม่ตีแม่ ไม่กระทืบเท้าใส่แม่ และที่สำคัญมันจะไม่ขยี้หัวใจแม่ของมัน.....

แต่ลูกคนบางคนกลับมีแต่คอยสร้างความทุกข์ใจให้แก่ท่าน มีแม่หลายคนที่ระทมขมขื่นเสียใจเพราะลูก ต้องแอบร้องให้ประจำ ถึงแม้แม่จะได้รับความทุกข์ทรมานจากลูกเพียงใด แม่ก็ยังรัก แม้บางครั้งมีใครบอกว่า ลูกของแม่ชั่ว ลูกของแม่เลว แม่ก็จะไม่เชื่อ ลูกของฉันไม่เป็นอย่างนั้น ลูกของฉันเป็นคนดี ดีชั่วก็ลูก ผิดถูกก็เลือด จะเฉือนจะเชือดได้อย่างไรกัน

บางคนเอาแต่สนุก เชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อแม่ รักแฟนมากกว่ารักแม่ เคารพเมียมากกว่าเคารพแม่ เลี้ยงเพื่อนฝูงมากกว่าเลี้ยงแม่ โทรหาแฟนมากกว่าโทรหาแม่ คุยกับแฟนทั้งวันทั้งคืน แต่คุยกับแม่แป๊บเดียวตอนขอตังค์ แม่หลายคนช่างโชคร้ายนักเลี้ยงลูกมาตั้งหลายคน แต่ลูกเหล่านั้นไม่สามารถที่จะเลี้ยงพ่อแม่ได้เลย ปล่อยให้แม่ไปอยู่ตามบ้านพักคนชรา สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ทิ้งไว้ตามวัดบ้าง ปล่อยแม่ไว้กับหมากับแมว ไม่เคยดูแลไม่เคยสนใจ ขนมซักชิ้นหนึ่ง น้ำสักแก้วหนึ่ง เงินสักบาทไม่เคยเลย ที่จะให้แม่ มีแต่จะเอา ทรัพย์สิน มรดก เงินประกัน บางคนถึงขนาดแช่งให้แม่ตายเร็วๆเพื่อตัวเองจะได้มรดก

หากพรุ่งนี้ไม่มี.....แม่?

ถ้าเย็นนี้คุณแม่ตายไปคุณแม่จะได้อะไรจะได้เพียงแต่ข้าวต้มถ้วยเดียวและน้ำเปล่าครึ่งแก้ว ใส่ถาดเอาไปวางไว้ข้างโลงศพเท่านั้นหรือ แล้วลูกชายลูกหญิงผู้โง่เขลาก็จะไปเคาะข้างโลง
พร้อมกับพูดว่า "แม่จ๋าลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ
แม่จ๋าลุกขึ้นมากินน้ำเถอะ
แม่จ๋าพระมาแล้วฟังสวดนะแม่นะ"

แต่ในขณะที่แม่มีชีวิตอยู่ เราจะได้ยินแต่คำว่า
"ลูกจ๋าลูกหิวหรือเปล่า ?
ลูกต้องการอะไรหรือเปล่า?
ลูกจ๋าลูกไม่สบายหรือเปล่า?"

จะมีลูกซักกี่คนที่จะถามแม่เช่นนั้น หรือจะรอให้แม่ตายไปซะก่อนแล้วค่อยถามอย่างนั้นหรือ เรารักสิ่งใด เราจะถนอมสิ่งนั้น รักษาสิ่งนั้น แล้วมันจะอยู่กับเรานาน ถ้าเรารักแม่ ต้องถนอมน้ำใจท่าน รักษาใจท่าน ถามท่านต้องการอะไร? ท่านอยากไปไหน? ท่านอยากทานอะไร? ท่านเจ็บตรงไหนปวดที่ใด?

ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ไม่เคยสนใจท่านเลย แต่พอคุณแม่ตายลงนำร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ไปใส่โลงทองอย่างดี เอาไปไว้วัดแล้วนิมนต์พระมาสวด 7 วัน 7 คืน หวังว่าดวงวิญญาณของแม่จะไปสู่สุขคติโลกสวรรค์ นี่หรือคือสิ่งที่เรามอบให้แม่

จัดห้องนอนให้แม่ ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่แม้ครั้งเดียว ยังดีกว่าจัดงานศพใหญ่โตเมื่อแม่สิ้นชีวิต

มอบดอกไม้สักดอกให้แม่ ตอนมีชีวิตอยู่ มีค่ากว่าพวงหรีดหลายร้อยพวงที่ประดับข้างโลงศพแม่

หาน้ำเย็นๆให้แม่ดื่ม ทำอาหารดีๆให้แม่กิน มีค่ากว่าจัดอาหารอันประณีตไปวางข้างโลงศพท่าน

โทรศัพท์หรือจดหมาย ไปถามไถ่ท่านบ้าง ดีกว่าจัดงานบุญใหญ่โตอุทิศให้ท่าน
ทำความดีมีความกตัญญูต่อแม่ ขณะมีชีวิตอยู่ ประเสริฐกว่าการสำนึกบุญคุณได้เมื่อท่านตายจากแล้ว


หากพรุ่งนี้ไม่มี......แม่

ใครจะมาดูแลเรา มาสนใจรักเรา มาเป็นห่วงเป็นใยเราเท่ากับคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีอีกแล้วในโลกนี้ รักใดไหนเล่าเท่าแม่รัก เป็นรักที่บริสุทธิ์ใจ เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ เป็นรักที่แท้จริง

อันรักใดไหนเล่าเท่ารักลูก จิตพันผูกสายเลือดสืบเชื่อสาย เป็นความรักบริสุทธิ์ดุจใจกาย เป็นเครื่องหมายประจักษ์รักซื่อตรง

     อ่านบทความนี้จบแล้วเย็นนี้ไปกราบตักท่าน ไปดูดวงตาท่านสิว่าท่านมีความสุขหรือมีความทุกข์ ไม่ ต้องอายในการทำความดี มีอะไรช่วยท่านได้ช่วยเลยอย่านิ่งดูดาย ถ้าวันนี้ไม่แสดงความกตัญญูต่อท่าน อาจจะไม่มีโอกาส ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ แล้วจะไปอ้อนวอนตอนที่แม่มีแต่ร่างซึ่งไร้วิญญาณแล้วคงไม่มีความหมาย น้ำเย็นๆสักแก้วเอาไปให้ท่านดื่ม เสื้อผ้าดีๆสักชุด เป็นลูกที่ดีสักคน สามารถต่อชีวิตแม่ได้เป็นปี ๆ อย่าเอาไปให้ท่านดื่มตอนที่ท่านไม่มีชีวิตแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไร

ให้ของขวัญแก่แม่นับแต่นี้ ด้วยทำดีต่อพ่อแม่ตอนแก่เฒ่า
ให้ท่านได้ประจักษ์รักของเรา ดีกว่าเฝ้าทำบุญให้เมื่อวายชนม์

อย่าให้ความสำคัญกับแม่ผู้มีพระคุณเฉพาะในวันแม่ 12 สิงหาคม เท่านั้น แต่จงทำทุกวันให้เป็นวันแม่ เหมือนกับความรักที่แม่มีให้ลูกทุกๆวันตั้งเกิดจนตาย หมั่นดูแลรักษาจิตใจของท่านให้ดี เพราะเราสามารถมีแม่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกนี้

อย่าปล่อยให้หญิงแก่ๆ คนหนึ่งที่รักเรามากที่สุดในโลก ต้องอยู่ในความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาที่โหดร้าย ต้องตรมใจตายเพราะลูกๆที่เธอรักแต่ไม่รัก

เธอ..................หากพรุ่งนี้ไม่มี...........แม่?

ขอบูชาและเทิดทูนพระคุณแม่ของแผ่นดิน ขออุทิศความดีจากบทความนี้ให้แด่คุณแม่ทุกๆคน

 

อนุโมทนาขอบพระคุณ

                                                    บทความธรรมะ..โดยพระมหาประดิษฐ์ จิตฺตสํวโร

อนุโมทนาขอบคุณภาพประกอบจาก

คำสำคัญ (Tags): #พระปิยธรรม#แม่
หมายเลขบันทึก: 252621เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2009 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

กราบนมัสการพระคุณท่าน

อ่านแล้วน้ำตาร่วงค่ะ..

วันนี้ไม่มีแม่แล้วค่ะ..

แต่ก็ดีใจที่ผ่านมาได้ดูแลและปรนนิบัติท่านจนสุดใจ

รักแม่เกินคำบรรยายค่ะ

ธรรมสวัสดีโยมครูadd

ขอให้ลูกและคุณแม่ทุกคนจงมี

แต่ความสุข..สาธุกับความกตัญญู

ของโยมครูadd คนดีตกน้ำไม่ไหล

ตกไฟไม่ไหม้..ธรรมรักษา

นมัสการพระคุณเจ้า

ตอนนี้แม่อายุ 81 ปี ค่ะ จะต้องหาเวลาไปนอนเล่นกับแม่ค่ะ

 

ธรรมสวัสด๊โยมแก้ว

ตื่นเช้าดีจัง..สาธุ

ขอให้มีความสุข

ความเจริญ

ธรรมรักษา

นมัสการพระคุณเจ้า...

น้ำตาฃึมกับบทความดีๆที่ท่านกรุณานำมาถ่ายทอดนี้ค่ะ...

ดิฉันเป็นคนหนึ่งฃึ่งรักและปฏิบัติต่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยหัวใจแห่งความกตัญญูรู้พระคุณ

มาตลอดไม่เคยห่าง...รักและเทิดทูนท่านทั้ง2ยิ่งชีวิต...

ในวันเกิดของตัวเองทุกปี..ดิฉันไม่เคยเสียเงินในการเลี้ยงฉลอง

แต่เลือกที่จะฃื้อพวงมาลัยไปกราบแทบเท้าท่านและใส่บาตรร่วมกัน..

ทานข้าวด้วยกันและคืนก่อนหน้าวันเกิด..ดิฉันจะพยายามกลับไปนอนใกล้ๆท่าน

ในทุกปี..และจะล้อท่านทั้ง 2เหมือนกันทุกปีว่า...ได้เวลาเจ็บท้องหรือยัง..ใกล้เวลาคลอดหรือยัง...ทั้งคุณพ่อและคุณแม่จะแข่งกันระลึกถึงความหลังแย่งกันเล่า...

พ่อทำนั่น..แม่เป็นงั้นแม่เป็นงี้...ดิฉันมีความสุขยิ่งกว่าอะไร...ท่านทั้ง2ก็คงมีความสุข...

ดิฉันสอนน้องและหลานให้คิดถึงพ่อและแม่ในวันเกิดตัวเอง..และพวกเรายึดถือปฏิบัติกันทั้งครอบครัว....

พระคุณท่านนั้นสุดที่จะหาที่เปรียบได้...ยิ่งท่านอายุมากขึ้นเท่าไร...เหมือนนับถอยหลังฃึ่งแม้เราจะไม่อยากให้ถึงวันนั้น....แต่มนุษย์เราไม่สามารถหลีกพ้นธรรมชาติได้..ดิฉันภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกท่าน...กราบเท้าแม่และพ่อทีไรน้ำตาไหลอาบแก้มทุกที..ก็ไม่เพราะเท้าทั้งสองบวกสองเป็นสี่นี้หรอกหรือที่เดินทางมาทั้งชีวิตเพื่อเสาะหาเงินมาเลี้ยงดูพวกเรา...เท้าท่านเหี่ยวย่นลงทุกปี...เล็กลงเรื่อยๆ...หมองคล้ำ..

ดิฉันจูบเท่าพ่อกับแม่ทุกปีๆละ3-4 หน..ทุกวันเกิดเราและวันเกิดท่าน..วันพ่อวันแม่..ปีใหม่..สงกรานต์...

อ่านเรื่องของท่านแล้วย้อนกับมาดูตัวเราก็ได้คิดว่า..ทำเท่าไรก็ไม่พอ..ถ้าทำเพื่อท่านทั้ง2....เดี๋ยวจะหมั่นไปหาท่านให้มากกว่าวันที่กล่าวมา...ด้วยการเตือนสติจากบทความนี้ค่ะ

ขอบคุณพระคุณเจ้ากับเรื่องราวดีๆค่ะ...ดิฉันศรัทธาในตัวพระคุณท่านด้วยค่ะ...

ที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่ดิฉันจะกราบไหว้ได้สนิทใจ

ธรรมสวัสดีโยมใบเฟิร์น

อนุโมทนาสาธุกับความเห็น

ธรรมรักษา

  • กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ
  • อ่านแล้วน้ำตาพาลจะไหล
  • ไม่อยากจะคิดเลยเจ้าค่ะ
  • ขอเทิดทูนพระคุณแม่ฝากไว้ในบันทึกนี้ด้วยค่ะ
  • กราบขอบพระคุณค่ะ

ธรรมสวัสดีโยมคุณครู วรางค์ภรณ์

สาธุๆ อนุโมทนาสาธุ

ขอให้มีความสุข ความเจริญ

ธรรมรักษา

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

***กำลังดูแลแม่ให้มีความสุขในช่วงปัจฉิมวัยค่ะ แม้ไม่พร้อมและลำบากก็ไม่เป็นไรเพราะเราจำกัดเวลาไม่ได้ใช่ไหมคะ

***กราบนมัสการที่เปิดโอกาสให้ได้อ่านบันทึกดีๆค่ะ

ธรรมสวัสดีโยม.. กิตติยา

สาธุ..อนุโมทนาสาธุ

ขอให้มีความสุข..ความเจริญ

ธรรมรักษา...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท