“มึงหลอกกูไม่ได้อีกแล้ว”


“มึงหลอกกูไม่ได้อีกแล้ว”

มึงหลอกกูไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องเล่าจาก    นางอรทัย  บรมสุข  อสม.ดีเด่น สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค

 

คำพูดประโยคนี้ถ้าคนบ้านบางป่าได้ยิน  คงจะไม่เชื่อเป็นแน่   ว่าเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจของ  นางอรทัย   บรมสุข  ภรรยาของ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบางป่า 4 สมัย    เพราะครอบครัวนี้ไม่มีความกดดันใด ๆ ในครอบครัวเป็นแน่  เพราะสามีผู้เป็นผู้นำครอบครัวเป็นคนรักภรรยา  รักลูก ๆ มาก ขยันทำมาหากิน   หรือจะเป็นคำพูดที่แม่ ดุด่า ว่าลูกสาว   แต่เป็นไปไม่ได้  เพราะลูกสาวบ้านนี้เป็นเด็กดี  ที่คนในหมู่บ้านแอบอิจฉา  เพราะเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย  ปัจจุบันก็ใกล้จะจบ คณะวิศวกรรมศาสตร์  จากมหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว 

หรือจะเป็นลูกคนรอง  ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้อีก  เพราะลูกคนนี้เป็นถึงประธานนักเรียนของโรงเรียนประจำจังหวัดราชบุรี  ที่ยังมีตำแหน่งเป็น อย .น้อยดีเด่นควบรวมมาด้วย 

เพราะพี่ อรทัยเป็นคนเสียสละของหมู่บ้าน  มีบางครั้งก็เกินไปถึงขั้นชาวบ้านเคยพูดว่า  อรทัยมันบ้า  เป็น  อสม .เงินเดือนก็ไม่ได้  บางครั้งไปตรวจร้านอาหาร  เจ้าของร้านก็ว่าให้   แถมไม่ได้อย่างใจ  ยังไปซื้อตะกร้าผักให้เขาเปลี่ยนฟรีอีก   หมวก , ผ้ากันเปื้อน  มันก็หามาให้  เนี่ยมันบอกว่า เดี๋ยวจะเอารูปล้างมือ 7 ขั้นตอนมาให้ฉันอีก  ฉันเห็นความพยายามของมัน  ฉันก็เลยต้องยอมเปลี่ยนตะกร้าผัก  หัดล้างมือใหม่    เสียงเจ้น้อยเจ้าของร้านจำหน่ายอาหารสด  และก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวของหมู่บ้าน  กล่าวถึง อรทัย 

อรทัย   ไม่ชอบทำงานบ้าน  เพราะทำมาตั้งแต่เด็ก  เบื่องานสวน  เมื่อสมัยที่ลูก ๆ ยังเล็ก 

ลูก ๆ เคยพูดแซวแม่  ประหนึ่งจะตัดพ้อที่แม่  ชอบงานช่วยเหลือสังคม  ในยามที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเสมอว่า  แม่เนี่ย ไม่เสียชาติเกิด จริง ๆ ที่เป็นลูกหลานตระกูลของผู้นำชุมชน ปู่ ย่า ตา ยายเป็นกำนัน  แม่ถ้าเป็นผู้ชาย  ก็คงจะสมัครกำนันกับเขาไปแล้ว  พี่อรทัยก็จะตอบลูกในวัยที่ยังไม่เข้าใจในความตั้งใจของแม่ ว่า หลักยึดเหนี่ยวในการครองตนของตนเองว่า  เพราะแม่อยากให้ครอบครัวดี  มีความสุข  แม่จึงต้องทำแบบนี้  คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง  ถ้ามีแต่ความรักให้เฉพาะคนในบ้าน  เราก็คงจะมีเฉพาะคนในบ้านเท่านั้นที่รักเรา  แต่ถ้าเรามีความรักให้เพื่อนบ้าน  ส่วนรวมบ้าง หมู่บ้านของเรา ก็จะได้น่าอยู่ขึ้น  ดูในหลวงซิ  หนูรักในหลวงมั้ย

สมัยก่อนพี่อรทัยเล่าว่า  ในหมู่บ้านไม่มีถนน  จะประชุม อสม. ครั้งหนึ่ง จะต้องเดิน 2 - 3 กิโล  เพื่อน อสม .หลายคน บ่นและอยากลาออก  แต่ฉันไม่ออก  เพราะใจฉันรัก  ฉันผูกพันมาตั้งแต่พ่อ ที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน  ฉันเห็นพ่อทำงานเพื่อส่วนรวม  10กว่าปีมานี้  เขาว่าฉันบ้า  มีบ้างที่ฉันทำงานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว ท้อแท้  ฉันโดนคนที่ใช้ครีมลอกฝ้าคนหนึ่งเขาว่า  จะมายุ่งอะไรกับหน้าเขา  หรือบางทีไปตรวจลูกชิ้นให้เขา  เขาก็บ่นว่า เขากินมาหลายปีไม่เห็นตาย  จะมาตรวจทำไม   แต่ก็มาเปลี่ยนใจ   คิดอยู่ในใจอย่างเดียวว่า  ชาวบ้านเขาไม่รู้เหมือนเรา  เราต้องค่อย ๆบอกไป  หลอกล่อบ้างเป็นบางครั้ง  ถ้าเขาไม่ชอบหน้าเรา  เราก็ใช้ทีมงานของเราเข้าไปแทน 

  ใช้หลักคิด  น้ำขุ่นอยู่ใน  น้ำใสอยู่นอก   ถ้าเขาไม่มีเวลา  เราก็ช่วยจัดหาให้เขา  เดี๋ยวเขาละอาย  ก็คงเห็นความจริงใจของเราบ้างหล่ะ  อย่างน้อย ทำเพื่อลูก  เพราะลูกเราก็ชอบมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้   และชาวบ้านแทบทั้งหมู่บ้าน ก็ต้องมากินด้วยเช่นกัน  เราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี ไตไม่วายเร็ว

พี่อรทัยเคยสอนลูก ๆให้รู้จักแบ่งปัน ด้วยคำพูด ให้ทานเขากิน  วันหลังเขาจะมาช่วยเรา  ในวันที่เพื่อนบ้านมาขอผักปลอดสารพิษที่ พี่อรทัยและลูก ๆ ช่วยกันปลูก ใกล้ ๆ กับศูนย์เรียนรู้ การปลูกพืชด้วยวิธี  อินทรีย์ชีวภาพ  บนเนื้อที่ของบ้านตนเอง  พี่อรทัยบอกว่า  ผลที่ได้รับคือ ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเสียสตางค์ไปซื้อสารเคมี  มากิน  ทำร้ายตัวเองไปทุกวัน  จากผักที่เขาฉีดยาฆ่าแมลง  แต่กลับได้สุขภาพและความสามัคคีกัน  ช่วยเหลือกันกลับมา   พี่อรทัยใช้หลักของในหลวง  คือ พออยู่  พอกิน  พอประมาณ  แบ่งปันเพื่อนบ้าน  ช่วยให้เขามีสวนครัวปลูกผักไว้กินเอง

หรือแม้แต่การรวมกลุ่มกันทำขนมทองม้วน  หมี่กรอบ  จนได้เป็นวิสาหกิจชุมชน  โดยมีพี่อรทัย  เป็นประธานกลุ่ม  ก็ส่งผลให้คนจน ได้มีอาชีพ  และชาวบ้านได้มีขนมคุณภาพไว้กินในหมู่บ้าน  เด็กได้เรียนรู้วิชาชีพ

พี่อรทัยเล่าว่า  มาวันนี้เพื่อนบ้านที่ เป็นภรรยา  ทหาร  ที่ฉันเคยเรียกว่าคุณนาย  เคยดูหมิ่นฉันเพราะฉันไม่มีเงินเดือนกินเหมือนเขา  และเขาก็ไม่ต้องออกทำงานเหมือนฉัน  โทรศัพท์มาขอคำ ปรึกษาฉันเสมอ  เขามักจะทำตามการดำเนินชีวิตจากฉันในช่วงหลัง  เพราะลูกคนโตของเขาไม่โชคดี  เหมือนลูกฉัน  เขาบอกว่าเขาอยากให้ครอบครัวเขาดีเหมือนครอบครัวของฉัน  มีอะไรก็ให้แนะนำเขาบ้าง   ฉันก็ได้แต่บอกเขาว่า  ที่ผ่านมา  เป็นเพราะอานิสงค์ของการทำความดีของฉันที่ไม่ทอดทิ้งสังคม  ฉันจึงได้ผลดีตอบแทนในวันนี้  แม้จะต้องใช้เวลานับยี่สิบปีก็ตามที  ทุกอย่าง พระบอกว่า  ถ้ากระทำออกมาจากความนึกคิดที่ดี และจริงใจ  สักวันผลดีก็จะกลับมาหาเรา ไม่ช้าก็เร็ว  วันนี้ฉันรู้สึกพอใจแล้ว  กับสิ่งที่ฉันได้รับ  ลูก ๆ เห็นการกระทำของฉัน  สักวันเขาคงได้ดีเหมือนฉัน  จากกรรมดีที่เขาเพียรพยายามลอกเลียนแบบจากฉัน

ฉันทำงานทุกวันด้วยความเต็มใจ  ตั้งใจ  และเสียสละ  เพราะอยากเห็นคนในชุมชนมีสุขภาพที่ดี  แม้ฉันจะไม่มีเงินเดือน  เหมือนหมอ  แต่ฉันอยากให้กำลังใจหมอนะ  ฉันจึงแต่งกลอนให้หมอลองอ่านดูนะ ฉันเขียนหนังสือไม่เก่ง เพราะฉันจบ ป 4  ถ้าฉันสะกดผิด  หมอก็ช่วยแก้ให้ฉันด้วยนะ

 

 

 

 

 

เหนื่อยไหม  ทุกท่าน  ที่อาสา

เหนื่อยไหม   ที่มา     ในวันนี้

แล้วจะเหนื่อย  ต่อไป  อีกกี่ปี

คำตอบมี  ในใจ  เราทุกคน

ขอเพียง  ให้พี่น้อง  มีความสุข

ขอเพียงหมอ  ความทุกข์  ลดขัดสน

ขอเพียงให้  สุขภาพดี  กันทุกคน

ภูมิใจตน   จิตอาสา  ข้าแผ่นดิน

 

เอาละนะ  ฉันจะไปตรวจร้านขายของชำต่อ  ยังมีอีกหนึ่งร้านที่เพื่อน ๆ อสม .รอฉันอยู่  วันนี้ฉันจะไปสอนวิธี     สังเกตุ อย .ของจริง     ต่างกับ อย .ปลอมอย่างไร  เพราะฉันพึ่งจะไปอบรมมาวันนี้หล่ะ    อย .ปลอมเอ๋ย  มึงหลอกกูไม่ได้อีกแล้ว

   

สมศรี  จังโสพานิช    ผู้ถ่ายทอดและบันทึกเรื่องเล่า

หมายเลขบันทึก: 252226เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2009 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม 2012 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เข้ามาอ่านและเรียนรู้เรื่องราวดีๆ จากจังหวัดราชบุรีครับ...

ขอบคุณที่มีคนอย่างคุณอรทัย มีเยอะๆประเทศไทยมั่นคงแน่

อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกดีมากที่ อสม. เป็นผู้เสียสละอย่างมาก ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะคะ พี่อรทัย พ่ีแน่มากค่ะ

ขอชื่นชมกับผู้เป็นพลังของแผ่นดินครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท