หลายคนมองข้ามการยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่หารู้ไม่ว่า"รอยยิ้ม" ทำให้คุณเป็นต่อในหลาย ๆ เรื่องเลยทีเดียวนะค่ะ
เรื่องแรก "มีเสน่ห์"
ไม่ใช่ว่าทุกคนอยู่เฉย ๆก็มีเสน่ห์นะค่ะ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้สวยจัดหล่อจัด หากหน้าหงิกหน้างอ หรือใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีความรู้สึกอะไร ก็จะจมหายไปกับฝูงชนอันดาษดื่นที่มีอยู่เป็นจำนวนมหาศาลบนโลกใบนี้ หลายคนแม้ไม่ได้สวยจัดหล่อจัดอย่างทีว่าไปแล้วนี่แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ก็เหมือนกับว่าโลกทั้งโลกสว่างไสวไปกับรอยยิ้มของเขา หลายคนไม่รู้ตัวหรอกว่ายิ้มสวยแค่ใหนต้องลองยิ้มกับกระจกและสำรวจดูบ้าง หรือสังเกตจากปฏิกิริยาของคนรอบข้างเวลาที่คุณส่งยิ้มให้เขาก็ได้ การเป็นคนมีเสน่ห์นั้นหลายคนคงนึกออกแล้วใช่มั้ยค่ะ
"มีมิตรมากกว่าศัตรู"
รอยยิ้มที่จริงใจและถูกกาลเทศะจะสร้างมิตรมากกว่าศัตรู ว่ากันว่ารอยยิ้มคือเครื่องมือกระทาะกำแพงน้ำแข็งหรือความเย็นชาแปลกหน้าที่ผู้คนมีต่อกันได้เป็นอย่างดี คนเราเมื่อไม่มีความระแวงหรือเย็นชาต่อกันแล้วก็ย่อมพร้อมที่จะสานสัมพันธ์อันดีต่อกัน กระทั่งสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นมิตรแท้ในภายภาคหน้าได้ ใครจะรู้รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ส่งให้กันในวันนี้ อาจนำพาเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตมาให้เราก็ได้ คุณต้องการหรือเปล่าเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตน่ะ การมีมิตรมาก ๆ ย่อมดีกว่าการมีศัตรู คุณว่าจริงมั้ยค่ะ
"มีความสดชื่น"
รอยยิ้มเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ที่สดชื่น เหมือนกับความสดชื่นนั่นคือดอกไม้นั่นแหละค่ะ อารมณ์และสุขภาพจิตของคนเรา ปลูกต้นอะไรไว้ก็ย่อมออกดอกเป็นสิ่งนั้น คนที่จิตใจมีแต่ความกลัดกลุ้ม เครียด แค้น ทุกข์ เศร้า เขาก็ไม่สามารถผลิยิ้มที่สดใสออกมาได้ ลำพังแต่ยิ้มธรรมดา ๆ ก็มิใช่ว่าจะง่ายหรอกนะคะ
"มีกำลัง"
หลายคนบอกว่า เมื่อเผชิญกับปัญหา ความทุกข์หรือความยากลำบาก ให้ยิ้มเข้าไว้ จะทำให้มีเรี่ยวแรงกำลังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะว่ารอยยิ้ม คือกำลังของชีวิตอย่างหนึ่ง เขาถึงบอกว่า ยิ้มกันเข้าไว้ ยิ้มให้เริงร่า
"มีมุมมองที่ดี"
ทุกคนทุกสำนักความรู้ ต่างอธิบายไว้คล้ายคลึงกันว่าคนที่มีอุปนิสัยยิ้มแย้ม จะเป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้ในเวลาที่มีปัญหา ก็จะยิ้มสู้ และพลิกปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นให้กลายเป็นโอกาสขึ้นมา หลายคนเป็นทุกข์ และไม่เห็นทางแก้ทุกข์ เพระมองโลกแต่เพียงด้านเดียว โดยเฉพาะในด้านที่เลวร้ายหรือหนทางที่ตีบตัน เกิดมาเป็นคนแล้วนั้น ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองให้มองได้กว้าง คิดให้ไกล และใฝ่ให้ดี
ยิ้มเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน เริ่มจากเปิดโอกาสให้ตนเองและผู้อื่น ไม่รีบร้อนด่วนสรุปหรือตัดสินคน ตัดสินปัญหา แต่ให้โอกาส ให้เวลาที่จะได้ครุ่นคิดพิจารณา มีจิตใจที่รู้แพ้ รู้ชนะ รุ้อภัย ตื่นมาทุกเช้าให้ยิ้มให้กับตนเอง แล้วบอกกับตนเองว่า "วันนี้ดีจัง" จากยิ้มกับกระจก เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับความสุข เดินออกจากบ้านด้วยรอยยิ้ม ยิ้มให้กับคนรอบ ๆ ข้าง ตามสมควร สนิทสนมก็ยิ้มกว้างทักทาย สนิทน้อยหน่อยก็ส่งยิ้มเล็ก ๆให้
ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า ยิ้มจะทำให้คุณสวยขึ้น หล่อขึ้น และมีโอกาสที่ดียิ่งขึ้นตามที่ได้กล่าวมาทั้งหมด
ขอให้โชคดี และมีรอยยิ้มเป็นเหมือนเครื่องประดับที่สูงค่าอยู่บนใบหน้าและประกายตาเสมอ ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อคิดดี ๆ จากสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ John Robert Powers
ปกติ..เป้นคนที่ยิ้มและหัวเราะทุกวัน...เลยรู้สึกดีมั่กๆ
อยากให้เป็นโลกแห่งรอยยิ้ม
คงมีความสุขกันมากค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ สำหรับข้อมูล ดีดี ที่มาเล่าสู่กันฟัง
สวัสดีครับ
ยิ้มให้ถูกคน ถูกโอกาสด้วยนะครับ...
เพราะมันอาจเป็นปัญหาครอบครัว...หรือเป็นปัญหาสังคมได้นะครับ
หรือเป็นยิ้มสังหารไป...
อยากให้คนไทยหันมายิ้มให้กัน สมกับคำกล่าวที่ว่า ''เมืองไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม'' ...
เด๋วนี้มีแต่คนหน้าตาเคร่งเครียด
ยิ้มๆๆๆๆก็ดีเหมือนกัน
โลกจะได้น่าอยู่ขึ้นค่ะ
อืม ถ้างานทั้งหลายเสร็จ
ก็คงยิ้ม เบิกบานเนอะ 55
จะพยายามค่ะ
ยิ้มมมม(o_o)
ปกติก็จะย้มทุกวัน
แต่บางครั้งเมื่อมีความทุกข์ก็จะไม่ยิ้ม
จากนี้ไปคงจะยิ้มตลอดแล้วแหละ
ฮ่าๆ ๆ ๆ ไม่ใช่เเค่ยิ้มนะ
เรายังหัวเราะได้ตลอดเวลาด้วย รับรองได้ว่าสุขตลอดปี เเฮปปี้ตลอดชาติเลยเเน่ๆ
อ่ะนะ
ยิ้มและหัวเราะเข้าไว้โลกจะสดใส
ยิ้มได้ก็เศร้าเป็น ฮา ฮา ฮา
แล้วจงยิ้มให้ความเศร้า... ฮา ฮา ฮา