ไร้บ้าน ไร้ราก ไร้ตัวตน หรือ ไร้รัก ??


นไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่ง สิ่งที่ขาดที่แท้จริงหาใช้วัถุภายนอกหากแต่ เขาขาดสิ่งที่อยู่ภายใน และปัจจัยเสริมพลังที่จะประคับประคองเขาให้ พร้อมที่จะสู้ต่อเพื่อตัวเขาเองและสังคมที่อยู่แวดล้อมเขา แล้วคุณล่ะพร้อมที่จะเป็นกลไกในการช่วยเขาหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว แค่ ไม่แสดงอาการรังเกียจเมื่อพบเจอพวกเขา เท่านี้ ก็มากพอแล้ว ...

ฅนสนามหลวง หรือที่หลาย ๆคนรู้จักกันในนาม คนไร้บ้าน คนเร่ร่อน คนเร่ร่อนไร้บ้าน .. คนที่รับรู้เรื่องราวผ่านตา ผ่านสื่อ อาจจะสงสัยว่า คนเหล่านี้ ทำไมไม่ไปไหน ทำไมไม่กลับบ้าน เป็นคนขี้เกียจสันหลังยาวอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจหรือเปล่า ?? คำตอบง่ายที่ ที่คุณจะสามารถหาได้ในเวลาไม่นานนัก คือ ลองหาเวลามาคลุกคลี ใช้ชีวิตร่วมกับเขาเหล่านี้ 1-2 วันคุณจะรับทราบเรื่องราวเพิ่มมากขึ้นในทันที แต่หากไม่มีเวลามากขนาดนั้น อิสรชน จะลองเล่าให้ฟังผ่านเรื่องราวที่เรา สัมผัสชีวิตคนที่สนามหลวงมาเกือบ 5 ปี ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ ?

คนเราทุกคนต้องมีบ้านมีที่เกิดมีที่มา มีหัวนอน(พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย)มีปลายเท้า(ลูก หลาน พี่น้อง) ฅนสนามหลวงก็เช่นกัน เขาก็มีสิ่งเหล่านี้ไม่แตกต่างจากพวกคุณ .. แต่สิ่งที่เขาขาดจริง ๆ ในใจของเขานั้น เห็นจะเป็น ความรัก ความยอมรับ ที่เขาปรารถนาจากครอบครัวจากคนที่เขารักเสียมากกว่า เขาไม่ได้ไร้บ้าน เขาไม่ไร้ราก เขามีตัวตน แต่ที่เขาขาดอย่างมาก คือความรักต่างหาก ??

ความรักที่ใครต่อใครหลาย ๆ คนมองข้ามผ่านและคิดไม่ถึง มาตรการความช่วยเหลือจากภาครัฐที่จะละเลยละเว้นไปเสียไม่ได้ คือการฟื้นฟูสภาพจิตใจ นอกเหนือจากการแสวงหาที่พักพิงที่อยู่ให้เขาอยู่กัน การรวมตัวกันเพื่อสร้างชุมชนในแง่งามของคนไร้บ้าน หรือไร้ที่พึ่งสุดแล้วแต่จะเรียกขาน ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงใจและเข้มแข็งทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาทำงานกับคนกลุ่มนี้ อย่ามัวแต่หลงทางไปกับการวิ่งหาสิ่งปรนเปรนทางกายภาพ อย่ามัวแต่สร้างที่อยู่ใหม่เพื่อรองรับคนที่โดนผลักไสออกมาจากบ้านที่เคยอยู่อู่ที่เคยนอน แต่ต้องหาวิธีเยียวยาและคืนสภาพส่งกลับให้เขาอยู่กับรากเหง้าได้อย่างมีความสุขและไม่อดตาย ???

ใครก็ตามที่พยายามจะบอกต่อมวลชนว่า คนไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่งต้องการบ้านที่พักพิง อาจจะต้องหยุดคิดแล้วหมุนตัวกลับมา เพิ่มมูลค่าแห่งต้นทุนที่ คนไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่งมีอยู่เดิม แล้วทำงานให้หนักขึ้นแบบไม่มีธงตั้งไว้ล่วงหน้าว่า ต้องหาที่อยู่ให้เขา เพราะเขาอาจจะไม่ได้ต้องการที่อยู่ถาวรแห่งใหม่ แต่เขาเพียงต้องการที่พักพิง ที่มีใครอีกหลาย ๆ คน เอาไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนระบาย ให้คำปรึกษาให้กำลังใจ เพื่อที่เขาจะฮึกเหิมฮึดสู้ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง และพร้อมที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคม มากกว่าที่จะยอมรับตัวเองวา เป็นภาระของสังคม????

สังคมโดยรวมเองก็ต้องเปิดใจ เปิดโลกทัศน์ ปรับกระบวนทรรศ์เสียใหม่ และให้โอกาสแก่คนทุกคนในสังคมอย่างทั่วถึง เพียงพอ และเท่าเทียม เพื่อสร้างพลังใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในสังคม

คนไร้บ้าน คนไร้ที่พึ่ง สิ่งที่ขาดที่แท้จริงหาใช้วัถุภายนอกหากแต่ เขาขาดสิ่งที่อยู่ภายใน และปัจจัยเสริมพลังที่จะประคับประคองเขาให้ พร้อมที่จะสู้ต่อเพื่อตัวเขาเองและสังคมที่อยู่แวดล้อมเขา แล้วคุณล่ะพร้อมที่จะเป็นกลไกในการช่วยเขาหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว แค่ ไม่แสดงอาการรังเกียจเมื่อพบเจอพวกเขา เท่านี้ ก็มากพอแล้ว ...

 

หมายเลขบันทึก: 250041เขียนเมื่อ 21 มีนาคม 2009 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พักนี้ผมเดินทางไปเยี่ยมค่ายอาสาพัฒนาของชมรมต่างๆ ..มีไม่น้อยกว่า 20 โครงการเลยทีเดียวครับ..

พ่อฮักแม่ฮักของนิสิตชาวค่าย..บอกเล่าให้ฟังว่า  นิสิตช่วยให้เขาคลายความคิดถึงลูกๆ ที่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดลงได้บ้าง  ...

ผมเองก็กำลังจะกลับบ้านในพรุ่งนี้ครับ.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท