หลายเดือนมานี้ มีงานใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นเคย กับการเรียนรู้ที่จะมองเห็นและยอมรับความชราของผู้สูงวัยสองท่านที่บ้าน ความเข้าใจค่อยๆ เกิดช้าๆ กับแม่ที่มีอาการป่วยของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทเรื้อรัง คำพูดของอจ.หมอที่ศิริราชท่านหนึ่งบอกให้ทำใจตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อนว่า "แม่คุณอายุเท่านี้แล้ว คุณจะเสี่ยงผ่าตัดไปทำไม" นั่นยังไม่ทำให้หยุดคิด เพราะแม่ทรมาน กลับมาหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดท่านก็ถามกลับหลังจากที่ได้ยินเราเล่าคำพูดของอจ.ท่านนั้นให้ฟังให้ฟังว่า "อาจารย์พูดอย่างนี้แล้ว คุณยังจะให้ผมทำยังไงอีก" บางทีคำพูดอธิบายสั้นๆ ของแพทย์ที่จะบอกให้ผู้รับบริการหรือญาติที่เป็นบุคลากรสาธารณสุขเข้าใจและยอมรับนั้น เหมือนไม่น่าจะยาก แต่กว่าจะเข้าใจได้ก็นานพอสมควร สองสามเดือนนี้ แม่ซึมเศร้า กังวล นอนไม่หลับ หงุดหงิด อย่างชัดเจน บางครั้งอยากทำร้ายตัวเอง วิทยายุทธ์ทั้งหลายที่เรียนมาแทบหายไปในสายลม สุดท้าย คือ วิชาของแม่นั่นแหละเรื่องบาปบุญ คงช่วยประคับประคองไปได้ระยะหนึ่ง พร้อมบอกน้องที่ดูแลว่า อย่าให้คลาดสายตาโดยเด็ดขาด
อีกเรื่องหนึ่ง คือ อาการความจำเสื่อมที่ค่อยๆ เป็นอย่างช้าๆ ของพ่อ ทำให้เราคิดว่าคงเป็นไปตามวัย พ่อดูร่าเริง แจ่มใส ในสายตาของทุกคน นั่นเป็นเพราะพ่อกำลังต่อสู้กับความชราหรือเปล่า หลายครั้งที่พ่อจำอะไรไม่ได้แต่ยังไม่รบกวนทั้งตัวเองและคนรอบข้างมากนัก แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราไปทานข้าวกัน สมาชิกในโต๊ะไม่มีใครสั่งต้มยำ แต่เด็กยกต้มยำมาให้ คุณแม่ก็ตักทันที ก็เลยลุกไปถาม เขาบอกว่ามีคนมาสั่ง คุณพ่อนั่นแหละค่ะ ย้ำถามว่าพ่อแกล้งหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาพ่อชอบแกล้งทำเป็นเฉไฉ ล้อเล่นกับคนในบ้าน พ่อบอกว่า "ลืมจริงๆ" ทำให้เมื่อวานพาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลจิตเวช พ่อได้ยามาสองถุง ยาลดอาการเสื่อมของสมอง และยานอนหลับ พร้อมกับคำแนะนำให้พาไปตรวจกับหมออายุรกรรมประสาท เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่นๆ ด้วย
ภาพที่เปลี่ยนไป............จากเดิม...............
เริ่มมองเห็น.................เส้นทางข้างหน้าที่กำลังจะก้าวเข้าไป..............เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจ
อยากจดจำ...............ภาพที่งดงาม...............ประทับไว้............ในใจ..............รักและขอบคุณ
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย
แต่ความรู้สึกเรายังรับไม่ทัน ยัีงไงหนูขอร่วมเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
สวัสดีคะ มัทตามพี่หมอนนท์มาค่ะ : )
เท่าที่อ่านดู มัทไม่ห่วงคุณสกุลรัตนเท่าไหร่นักเพราะมีทั้งวิชาพยาบาลและวิชาธรรมมาช่วยให้ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้
มัทมาให้กำลังใจค่ะ
แล้วก็มาเตือนให้พี่ดูแลตัวเองด้วย
ความชรา และ สภาวะโรคสมองเสื่อมนั้น เมื่อเป็นแล้วมันไม่ได้ดิ่งลงเหวแย่ลงเสมอไปนะคะ วันนี้ไม่ดี พรุ่งนี้อาจจะดี มีเข้าๆออกๆ มีอะไรให้เราเซอร์ไพร์สได้เรื่อยๆค่ะ ขอให้เรามีกำลังใจเป็นพอ แล้วก็อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้าว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าอดคิดไม่ได้ก็ให้ดักคอตัวเองว่า มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้นี่นา ใครจะไปรู้อนาคตจริงมั้ยค่ะ
คุณภาพชีวิตของคุณพ่อคุณแม่นั้น ท่านตัดสินเอง เราคอยดูแลท่านให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง หลายๆครั้งที่เราทุกข์เพราะเราเอาไม้บรรทัดเราเองไปวัด ไปคาดว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่มีความสุข (เพราะอะไรๆมันไม่เหมือนเดิม) ต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ถึงจะดีกว่า หรือบางคนก็กลัวว่าตัวเองยังไม่ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุด (ตามบรรทัดฐานของเราไม่ใช่ของท่าน) ทั้งๆที่จริงๆท่านอาจจะไม่ได้กังวลเท่าตัวเราเองก็ได้ค่ะ
แค่อยู่กับท่านให้มาก ฟังท่านให้มาก (ถึงแม่ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งอาจสื่อสารลำบาก) ให้คอยสังเกตสัญญาณที่ท่านส่งมา เท่านี้ก็มีค่ามากสำหรับท่านแล้วค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้และขอให้ความรักความเข้าใจที่คุณสกุลรัตนมีให้คุณพ่อคุณแม่เป็นน้ำมันเติมแรงให้เดินต่ิอไปได้อย่างมีความสุขนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกคืนวัน ทุกเวลามีความหมายยิ่งใหญ่ เป็นกำลังใจเสมอ
สวัสดีค่ะ น้องอาร์ม
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ คุณหมอมัทนา
สวัสดีค่ะคุณ Bad Angle
สวัสดีครับคุณ รตน
อยู่บุญดึกครับ มารับปัญาให้อาหารสมองกับการแลกเปลี่ยนครับ
ขอบคุณและยินดี มีศูนย์อนามัยให้รู้จักเพิ่มขึ้นครับ
จำได้ว่าแดงเคยเข้ามาทักทายใน Blogของพี่ แต่พี่ไม่ได้ตามไปทักทายน้องเลย
วันนี้เข้ามาเห็นแล้วอยากให้กำลังใจ
พี่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณหมอมัทนาที่บอกว่าคุณภาพชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ ท่านเป็นคนตัดสินเอง ด้วยเหตุผลที่ท่านคิดแล้วว่าดีที่สุดสำหรับท่าน (ไม้บรรทัดของพ่อ,แม่) ดูแค่เรื่องฟันปลอมเมื่อแม่บอกว่ายังใช้ได้อยู่ แม่จึงไม่ยอมไปหาหมอ ต่อเมื่อท่านเห็นแล้วว่าไม่ไหว ท่านก็เสนอเองว่าควรไปได้แล้ว
สิ่งที่เราทำได้ คือ ฟังท่านให้มากที่สุด ว่าท่านมีเหตุผลอย่างไรจึงคิดและทำอย่างนั้น (บางอย่างอาจไม่ถูกใจเราอย่างที่คุณหมอมัทนาบอก ลองวางไม้บรรทัดของเราลง แล้วใช้ไม้บรรทัดของเขาดูบ้าง) จากนั้นค่อยๆคิดว่าควรจะช่วยท่านทำอย่างไร จึงจะช่วยท่านได้โดยไม่ขัดกับสิ่งที่ท่านต้องการ
และลองใช้สิ่งที่แดงได้มีโอกาสเรียนรู้กับคนไข้อื่น ที่ไม่ใช่พ่อแม่ของเราดูบ้างนะจ๊ะ พี่คิดว่าพวกเขาคงไม่ต่างจากพ่อแม่ของเราหรอกจ้ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้ความรักความเข้าใจ และประสบกรณ์การเรียนรู้ที่ทรงคุณค่าของแดง จงเป็นพลังในการดูแลคุณพ่อคุณแม่และทุกคนให้มีความสุขนะจ๊ะ
ความจริงแล้ว อาการลืม เนี่ย มันต้องแยะจากโรคอื่นๆด้วย ไม่ใช่ว่า จะเป็นโรคความจำเสื่อมอย่างเดียว เห็นด้วยว่าน่าจะต้องพาไปให้แพทย์อายุรกรรมประสาท ดูเพิ่มเติม เพราะ บางครั้ง อาจเป็น โรคเนื้องอกสมอง(ทำให้กลัวไปรึเปล่า) โรคซึมเศร้า ..........
แต่ถ้าพาไปตรวจแล้วก็ ดีแล้วล่ะ จะได้สบายใจ เอาใจช่วยนะจ๊ะ คุณป้าแดง...งงงงงงงง