หลักการและเหตุผลที่ต้องกำหนดทิศทางการเข้าค่ายคุณธรรมแบบ Active learning ผมมีเหตุผลของผม โดยศึกษาจากหนังสือพุทธวิธีในการสอนของท่านพระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยุตโต) ท่านให้ข้อคิดว่า
ภารกิจสำคัญของการศึกษา ก็คือ การฝึกอบรมบุคคลให้พัฒนาปัญญา ให้เกิดความรู้ความเข้าใจในข้อเท็จจริงและสภาวะของสิ่งทั้งหลาย...มีข้อควรกำหนดคือ
ปัญญา…
ปัญญาเป็นความรู้ความเข้าใจที่เกิดขึ้นในตัวบุคคลนั้นเองเท่านั้น ผู้อื่นจะนำมายัดเยียดหรือบังคับให้รับเข้าไว้ไม่ได้
ครู...
ผู้สอนที่ดีที่สุด คือ ผู้ตั้งใจช่วยเหลือ พยายามสรรหาอุบาย กลวิธี และ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมาช่วยผู้เรียนให้เข้าถึงปัญญาอย่างได้ผลดีที่สุด
ผู้เรียน...
ผู้เรียนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สร้างปัญญาให้เกิดแก่ตน จึงต้องเป็นผู้มีส่วนร่วมและเป็นผู้ลงมือกระทำให้มากที่สุด โดยนัยนี้ ความสามารถ ความถนัด อุปนิสัยต่างๆ ของผู้เรียน จึงเป็นสิ่งที่ผู้สอนจะต้องคำนึงถึงอย่างสำคัญ เพื่อจัดสภาพการเรียนการสอนและกลวิธีสอนต่างๆ ให้ผู้เรียนเรียนอย่างได้ผลดีที่สุด
การเรียนการสอน…
เมื่อปัญญาเป็นของยัดเยียดบังคับให้รับเอาไม่ได้ การเรียนการสอนจึงต้องใช้วิธีแห่งปัญญา คือ ผู้เรียนต้องเป็นอิสระในการใช้ความคิด และ ในการที่จะซักถาม โต้ตอบ สืบเสาะ ค้นหาความจริงต่างๆ ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจขึ้นในตน
ด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าว ในปีนี้ ผมจึงถือโอกาสนำcแนวคิดมาเป็นแนวปฏิบัติในการเข้าค่ายคุณธรรมของทุกศูนย์ ฯ ทั้ง 19 ศูนย์ ฯ ครับ
จากเดิมที่นิยมเข้าค่ายคุณธรรมแบบ Passive learning ผมขอปรับกิจกรรมมาเป็น Active learning เพื่อให้สอดคล้องกับพุทธวิธีในการสอนครับ
สวัสดีค่ะ ท่านรองฯ
ครูลี่ครับ
ค่ายคุณธรรมActive learning เด็กโตหน่อยก็ดีครับ
นอกจากพัฒนาเด็กแล้ว คุณครูยังได้พัฒนาตัวเองได้ครับ จากที่เมื่อก่อนโยนภาระไปให้พระหมด ปัจจุบัน คุณครูต้องช่วยกันคิดกิจกรรมเพื่อช่วยให้เด็กเกิดปัญญาครับ
คุณครูหลายท่าน มีกิจกรรมดีๆ ให้เด็กคิดครับ
ขอบคุณมากครับ