เพลงซอ..ที่รอสี


 

 

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

๐ ศัพท์แสงแสดงทิฐิวิกฤต
ระบุมิจฉะมากมาย
ลูบคลำพระธรรมะอภิปราย
ระบุหมายเสมือนเห็น

๐ กาลามะสูตระประการ
พระ-ประทานเสมอเป็น
หลัดยึดประพฤติทศะประเด็น
ฤจะเร้นจะเลือนสูญ

๐ เขาว่า..เพาะสาวกะสภาพ
ประลุคาบทวีคูณ
เหนี่ยวรั้งพลังฐิติวิทูร
กละกูณฑะมอดเชื้อ

๐ เกรงว่าจะหายนะพระศาสน์
เพราะประภาษะคลุมเครือ
ลุ่มหลงพะวงภพะอะเคื้อ
อรรถะเพรื่อสิพร่ำเผย

๐ ไพศาลประการอริยะวาท
จะปลาตะล่วงเลย
เกรงเขลาคละเคล้าบทะเฉลย
นยะเปรยจะปลอมปน

๐ ยากเย็นประเด็นอริยะสัจจ์
ภวะวัฏฏะเวียนวน
เสกสรรคะคันถะอนุสน-
ธิวิกลวิการเขียน

๐ กำจายสยายบุพะลิขิต
สุตะนิจะจำเนียร
เก่ากรรมะนำผลเสถียร
บ่จะเปลี่ยนจะปัดหาย

๐ เห็นไกลกระไรนัยนะทิพย์
กระแดะหยิบมุบรรยาย
เกรงว่าจะพาขยะขจาย
มรรคะปลายจะเปล่าเปลือง

๐ เหตุต้นเพาะผลกรรมะกระทบ
ถิระภพะรองเรือง
สัมผัสกระหวัดรสะเมลือง
ทะนุเนื่องเขษมสันต์

๐ การณ์เหตุและเจตนะผจง
อุปสงคะร่วมกัน
ก่อกรรมะนำทุกระทัณ-
ฑะผชันเผชิญชนม์

๐ กรรมเหตุและเดชะจะสลาย
ก็เพราะคลายระดับ..ตน..
รู้วัตรขจัดอดุระผล
ละกมละพ้นหมอง

๐ เพียงคุมผชุมจิตะสมา-
ธิสภาวะตามตรอง
ใคร่ครวญชนวนมุหะละออง
เฉพาะต้องจะตัดเตียน

๐ ติดหล่มเพราะสมมุติพิการ
วิญญาณะจำเนียร
สิ้นร่างบ่ร้างภวะเสถียร
จะผละเปลี่ยนและเวียนไป

๐ ดวงเดียวจะเหนี่ยวอมระภาค
กระแหนะพากย์เพราะอำไพ
ลอยลิบกระพริบบทะไสว
ภพะใหม่ตะบึงมอง

๐ แห่ตามเพราะพราหมณะประสิทธิ์
นิรมิตะรับรอง
อวลอรรถเพาะปรัชญะสนอง
ผิวะต้องก็เป็นตาย

๐ กาลล่วงก็ห่วงธรรมะพิสุทธิ์
ทิฐิพุทธจะเปล่าดาย
แผกผันเพาะคันถะอภิปราย
อธิบายะเบี่ยงเบน

๐ หลงมุขะยุคอุปนิษัท
พิเคราะห์อรรถะโอนเอน
หลงรสประพจน์อุตริเถร
ดละเวระแฝงไว้

๐ แยบคายอุบายมุสะประโยค
ระบุโลกะครรไล
พรางปมเพาะสมมุติพิสัย
ระบุให้พิกลเห็น

๐ แปลกตอนสะท้อนรหัสะวา-
กยะพาหะแผกเพ็ญ
ข้ามภพบ่จบประทุษะเข็ญ
ตละ"เป็น"เพราะกรรมปรุง

๐ เหตุนำเพราะคัมภิระกถา
อรรถะราชะอำรุง
ภาษปวงพระร่วงลิขิตะฟุ้ง
กละรุ้งจรัสเหลือ

๐ ต้นเงื่อนเสมือน….วิสุทธิ์มรรค
เพราะประจักษะจุนเจือ
คลี่คลายสยายภพะอะเคื้อ
ตละเหยื่อก็พร้อมยิน

๐ เหตุร้อนณก่อนมรณะกาล
ฤจะผ่านทลายภินท์
ย้อนสางมล้างภวะอจิน-
ตยะสิ้นจะได้หรือ

๐ เมื่อเหตุเภทดละประภพ
ฤจะกลบซะด้วยมือ
รูปนามฤข้ามภพะกระพือ
ประลุรื้ออดีตกรรม

๐ การณ์ใดกระไรดละเพราะเหตุ
บริเฉทะเนื่องนำ
ส่งผลทุรนอดุระล้ำ
ฤจะห้ำปหัตหาย

๐ ความดับระงับฤจะประสพ
ผิวะภพะวอดวาย
หนทางจะล้างทุระสลาย
ฤจะหมายจะมองไหน

๐ เหตุ-ผล ณ บนระยะระหว่าง
ภพะต่างจะอย่างไร
หรือเพียงเผดียงทิฐิพิสัย
ระบุไว้เพราะสับสน

๐ มืดมัวสลัวรัฐะไผท
มติไหนก็จำนน
แซ่ศัพท์สดับจิตะฉงน
เสนาะพ้นวิหคไพร...

คำสำคัญ (Tags): #คำประพันธ์
หมายเลขบันทึก: 246842เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 06:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เพราะค่ะพี่ชาย

มีเวลาแต่งบล๊อกนะคะ

พิมลงโค๊ดและวิธีลงให้แล้วค่ะ

ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ

 

@ มาต้อนรับกวีที่นับถือ

ฝากคำล้ำรสอันเลื่องลือ

น้ำมือเฉียบขาดบาดคอกลอนฯ

...คน ละแม

ไพเราะเสนาะจับใจ..มากเลยค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณสดายุ

ไพเราะเช่นเดิมค่ะ (และก็ยาวมาก อ่านตาแฉะเช่นเดิม ^^)

สวัสดีค่ะ...พิมน้อง

ขอบคุณนะคะที่เป็นธุระให้พี่

คนละแม...

ไม่นึกว่าจะเจอกันอีกที่นี่

นานหนักหนาที่ไม่ได้เจอ

สบายดีนะครับ

ผมอยู่ที่นี่ครับ...ว่างๆมีเวลาแวะไปคุยได้นะครับ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2009&group=2&date=17&gblog=65

ครูแป๋ม...

ชื่นใจจัง..เขียนแล้วมีคนชม...อิๆๆ

ทำไมเปลี่ยนรูปเสียล่ะครับ

ผมว่ารูปเดิมน่ารักครับ..

ขอโทษนะครับที่พุดตรงไปหน่อย

น้องอัล...

แหม..เรียกเสียเต็มยศ

ค่ะ...พี่ชอบเขียนยาวๆ..

ไม่งั้นไม่พอจะรำพันสิ่งที่คิด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท