เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฐ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวปฏิบัติการจัดซื้อหนังสือเรียนให้แต่ละโรงเรียนว่า หลักสูตรที่ใช้ตำราเรียนในปี 2552 นั้น ยังคงเป็นหลักสูตร และตำราเรียนชุดปัจจุบัน แต่อาจเพิ่มเติมสาระเนื้อหาบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น วิชาสังคม ปีที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลถึง 3 ชุด เนื้อหาหลักสูตรอาจปรับไม่ทัน หรือรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งในตำราเรียน อาจไม่สอดคล้อง จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ไปปรับปรุงหลักสูตร หรือสอดแทรกเข้าไปในเนื้อหา รวมไปถึงได้ให้สพฐ.จัดเตรียมคณะกรรมการตรวจสอบตำราเรียน เพิ่มเติม จากเดิม 4-5 คณะ เป็น 6-10 คณะ เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบตำราเรียนของสำนักพิมพ์เอกชน ให้ตรงตามหลักสูตร
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่าสำหรับหลักสูตรใหม่ ที่จะเริ่มใช้กับทุกโรงเรียนในปีการศึกษา 2553 นั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้สพฐ.เป็นผู้ดูแล และเท่าที่ได้รับรายงานจากสพฐ. ยังไม่ได้อนุญาติให้มีการจัดพิมพ์ตำราเรียนหลักสูตรใหม่ ดังนั้น สำนักพิมพ์เอกชนไม่สามารถจัดพิมพ์ตำราเรียนหลักสูตรใหม่ที่จะใช้ในปี 2553 ได้ และในปีการศึกษา 2552 จะมีโรงเรียนนำร่อง 555โรงเท่านั้น ที่ใช้หลักสูตรใหม่ปี 2553
อย่างไรก็ตามหลักสูตรปัจจุบันที่ใช้อยู่ขณะนี้คือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2544 นี้ ไม่ได้แตกต่างจากปีหลักสูตรใหม่ที่จะใช้ในปี53 มากนัก เป็นเพียงการแบ่งช่วงชั้นให้ชัดเจนมากขึ้น จากเดิมใช้ระบบช่วงชั้น เปลี่ยนเป็นชั้นปี ส่วนเนื้อหาสาระยังคงเหมือนเดิมแต่มีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด
“ตำราเรียนที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ได้ให้สพฐ.เชิญ สำนักพิมพ์เอกชน เข้าหารือ ให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเนื้อหาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และหลักสูตรของศธ. ส่วนการตรวจสอบ สพฐ.จะหารือร่วมกับสำนักพิมพ์เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้ดำเนินการนอกเหนือจากหลักสูตร และหากสำนักพิมพ์แห่งไหน ทำนอกเหนือหลักสูตร หรือแนวทางการปฎิบัติ เป็นอำนาจหน้าที่ของสพฐ.ในการดำเนินการลงโทษ” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับนโยบายเรียนฟรี 15 ปี เรื่องตำราเรียน ศธ.ได้อนุมัติและมอบหมายให้สพฐ.เป็นผู้ดูแล คุณภาพของเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับมาตรฐาน