สอนเด็ก (โต) ให้มี "ความฝัน"


วันนี้คุมสอบตั้งแต่ 8 โมงเช้า ยัน 8 โมงเย็น (2 ทุ่ม) ...

ช่วงเช้า นำงานชิ้นหนึ่งที่ยังตรวจไม่เสร็จมานั่งตรวจในระหว่างนักศึกษานั่งทำข้อสอบอยู่

งานชิ้นนี้ ผมสอดแทรกลงไปในการเรียนการสอนในวิชาที่ผมรับผิดชอบ

ในชั่วโมงสุดท้ายของการเรียน ผมเลือกนำวีดิทัศน์ที่บันทึกเทปรายการ คน ค้น คน ในชีวิตของ "เอกชัย วรรณแก้ว" มานำเสนอให้เด็กชม

 

(ภาพจาก ปกนิตยสาร ค.คน ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑)

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บันทึก จากความงามปลายพู่กัน สู่ความฝันบนสองเท้า ของ "เอกชัย วรรณแก้ว"

 

วิธีการสอนของผม คือ หลังจากที่เด็ก ๆ ดูวีดิทัศน์จบ ให้พวกเขาเขียนสิ่งที่ได้รับจากชีวิตการต่อสู้ของ "เอกชัย วรรณแก้ว" จำนวน 1 หน้ากระดาษ

ทำไมผมต้องนำวีดิทัศน์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชามาสอนพวกเขาในห้องเรียน แถมยังต้องมีการเก็บคะแนนจากงานชิ้นนี้อีก

ผมเป็นครูมหาวิทยาลัยที่กำลังนั่งมองชีวิตของเด็ก ๆ ที่เรียนในคณะผลิตครู อนาคตของพวกเขาคือ ครู (ถึงแม้หลาย ๆ คนไม่ได้มีเป้าหมายเช่นนั้น)

หลาย ๆ คนใช้ชีวิตเหมือนกับมาเรียนเพราะไม่ทราบว่าจะเรียนอะไร

หลาย ๆ คนไม่เคยทำความรู้จักตนเองเลยว่า ตนเองต้องการอะไร ต้องการทำอะไรในอนาคต

หลาย ๆ คนนั่งเรียนเหมือนซังกะตาย ไม่รู้ว่า ตนเองมานั่งทำอะไร เหมือนพ่อแม่บังคับให้มานั่งเรียน

ผมได้สัมผัสเด็กพวกนี้มาหลายปี พอจะสรุปจากความเชื่อของตนเองได้ว่า พวกเขาอาจจะหลงลืมอะไรบางอย่าง ในขณะที่เลือกเรียนในคณะผลิตครูนี้

ผมจึงเลือกกระตุ้นให้พวกเขาได้หันกลับมามองตนเองว่า "อะไรคือสิ่งที่เขาเคยฝันเอาไว้" หรือ "ความฝันของเขาคืออะไร" และจะทำอย่างไรให้เขาได้บรรลุความสำเร็จถึงความฝันนั้น

"ความฝัน" เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจของเราให้สามารถทำตามความฝันนั้นได้

ผมมีความเชื่อว่า "คนที่มีความฝัน ย่อมเลือกทำตามความฝันของตนเสมอ"

เขาจะรู้ตัวเองว่า ทำอย่างไร ดำเนินชีวิตอย่างไร เรียนอย่างไร จึงจะบรรลุความฝันนั้น

 

ถึงแม้ว่า เด็กหลายคนมาเรียนโดยไม่ได้มีใจรักชอบอาชีพครู แต่นั่นไม่สำคัญเลย

เขาอาจจะเลือกประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้ เขาก็ต้องมี "ความฝัน" เหมือนคนอื่น ๆ เช่นกัน

เลือกเรียนรู้ทักษะ หรือ ความรู้ด้านใดดี จึงจะตอบสนองอาชีพในอนาคตของเขาได้

รู้จักตนเอง รู้จักความฝันเสียแต่บัดนี้ จะเป็นประโยชน์กับพวกเขาเอง

 

ผมมีวิธีสอนที่ดูแปลกประหลาด ไม่ได้สอนเฉพาะเนื้อหาวิชาความรู้เท่านั้น หากแต่ชอบหา "มุมมองเกี่ยวกับเรื่องชีวิต" มาให้พวกเขาเสมอ ดั่งเช่น "เอกชัย วรรณแก้ว" สะท้อนความรู้สึกและใจของเด็ก ๆ พวกนี้มาก

"อย่าบอกตัวเองว่า ทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ" ... วลีหนึ่งของ "เอกชัย วรรณแก้ว"

ตรวจงานไป พบว่า ประโยคนี้ได้เข้าถึงเด็ก ๆ เกือบทุกคน ... แสดงถึง ความสำเร็จในการใช้สื่อการสอนชิ้นนี้ ครับ

ชีวิตของ "เอกชัย วรรณแก้ว" สามารถสร้างแรงบันดาลใจและจิตใจที่ต้องการต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง

ไม่ว่าจะเกเรแค่ไหน ไม่ตั้งใจเรียนแค่ไหน มีอันต้องสะดุ้งสะเทือนพอสมควร

ถึงแม้ว่า เขาจะคิดได้แค่เทอมนี้ พอเทอมต่อไปเขาลืม แต่ผมถือว่า เป้าหมายผมตั้งไว้แค่นี้ ก็พอใจแล้ว

แต่ผมเชื่อว่า ภาพของนักศึกษาที่มีไม่ครบคนหนึ่ง ใช้เท้าวาดภาพ ใช้เท้าสร้างความฝันให้กับตนเอง จะติดตราตรึงใจเขาไปตลอดชีวิต หากเขาเลือกภาพนี้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ของตนเอง ยามท้อแท้สิ้นหวัง เขาจะลุกขึ้นสู้ โดยผมไม่ต้องสอนอะไร พวกเขาแม้แต่คำเดียว

 

ชีวิตทุก ๆ คนต้องมีความฝัน มีความหวัง

มีคนบอกว่า "คนที่ไม่มีความฝัน คือ คนที่ตายไปแล้ว"

 

การสอนให้เด็ก ๆ ที่มาเรียนกับผม ได้รู้จัก "ความฝัน" ของตัวเขาเอง

ผมมีความสุขครับ ที่ผมได้สอนพวกเขาแบบนั้น

เพราะผมก็มี "ความฝัน" ไม่ต่างจากพวกเขาเลย

 

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ครับ

 

ป.ล. การถ่ายทอดด้วยการเขียน พรั่งพรูออกจากสมอง

โดยไม่ได้เรียบเรียงให้สวยงาม ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

หมายเลขบันทึก: 243421เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2009 10:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดบันทึกนะครับ แต่ ผมชอบคำว่า "ความฝัน" นะครับ

ความฝัน ทำให้โลกหมุน จินตนาการทำให้เรามีพลังที่จะก้าวเดินไป อย่างมีความหวัง

ฝันและลงมือทำตามฝัน ไม่ลดละ ..

ให้กำลังใจคนล่าฝันทุกท่านครับ :)

ปัญหาของเด็กประการหนึ่ง คือ ไม่เคยตั้งเป้าหมายชีวิต

จึงมักอ้างปัญหาต่างๆนานา เช่นอ้างหัวไม่ดี พ่อแม่ไม่เข้าใจ

ถ้ามีฝัน และ มุ่งมั่นไปให้ถึงฝัน ชีวิตจะก้าวไปด้วยดีครับ

"คนล่าฝัน" คล้าย ๆ สโลแกนของ AF นะครับ อิ อิ

ขอบคุณครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร :)

ใช่แล้วครับ ท่านรอง small man :)

เด็กมาเรียนมหาวิทยาลัย คณะผลิตครูแล้ว

ก็ยังไม่รู้จักตนเองว่า ตนเองต้องการอะไร

เป้าหมายไม่ทราบเลย

ดังนั้น การทำให้เขารู้จัก "ความฝัน" ซึ่งนำเขาไปสู่ "เป้าหมาย" ของเขาเองครับ

ขอบคุณครับ :)

  • ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
  • เด็กๆยุคนี้ ความรู้ไม่พอใช้ ก็เลยออกอาการเก้ๆกังๆ  ครับผม

สวัสดีค่ะ พี่อาจารย์ Wasawat Deemarn

เป็นจริงตามที่พี่อาจารย์ กล่าวมาทั้งหมดเลยค่ะ

และ ใบไม้ อยากจะขอเพิ่มเติมสิ่งที่ได้เคยเห็นมาค่ะ...........

มีนักศึกษาแพทย์ ที่เป็นปีสุดท้าย  ไม่เข้าใจ ความเจ็บปวดแบบ suffer ของคนไข้ รวมทั้งญาติมิตร ของคนไข้  เขาใช้เข็มทิ่มๆๆ  ตามตัวคนไข้ระยะสุดท้าย เหมือนกับกำลังจิ้ม กบ หรือ สัตว์ทดลอง  ต่อหน้าต่อตาญาติคนไข้..... ด้วยค่ะ

มาถึงวันนี้ ยังไม่เคยลืมเลย  และคิดว่า การผลิตบุคคลากร ที่จะต้องรองรับ การใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตคน  มีความจำเป็นที่ต้องเริ่มต้น นอกจากเด็กที่เก่งด้านความรู้ วิชาการแล้ว จะต้องให้มีความพร้อมทางจิตใจ และเข้าใจความพร้อมนี้..... ด้วยความรู้สึกจากจิตใจจริงๆ ไม่ใช่แค่อ่านหนังสือ แล้วรับรู้บนโต๊ะหนังสือ กระดาษสอบ..........

โลกนี้กว้างใหญ่นัก   เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่า  คนที่มีความทุกข์ ทางร่างกาย มากกว่า หรือ น้อยกว่า ความทุกข์ ทางจิตใจ สักเท่าไรน่ะค่ะ  และความทุกข์ทางจิตใจของคนเรา ก็ซับซ้อนกว่าทางร่างกาย มากมายนะคะ

(อิ อิ อิ  มาทิ้งรอยแล้วนะคะ พี่อาจารย์  แต่รู้สึกเรื่องจะลึกไปหน่อยนึงค่ะ..........)

ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ ศักดิ์พงษ์ หอมหวล ที่ได้เกียรติบันทึกนี้ :)

สวัสดีครับ น้อง ใบไม้ :)

ดีใจจังที่น้องได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ...

ครูผลิตคนที่ "มองโลกอย่างเข้าใจ" บวกกับ "การทำความฝันให้เป็นจริง" ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะครับ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ ที่ทำให้บันทึกนี้มีเนื้อหาที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น :)

โลกนี้ยังคงกว้างใหญ่อยู่เสมอ มนุษย์ตัวเท่าเม็ดทราย

สอนให้มี ความฝัน

เรียนรู้ด้วย ใจ 

ความสำเร็จ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

ขอบคุณ คุณครูจุฑารัตน์ ครับ :)

ความฝันเป็นแรงกระตุ้นที่จะให้เราทำให้ถึงฝัน เป็นแรงบันดาลใจ แต่ความฝันนั้นต้องเป็นฝันที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อาจารย์อย่าลืมสอนให้เขาฝันบนรากฐานของความเป็นจริงและความถูกต้องด้วยนะคะ ปล. เพิ่งกลับมาจากคุมสอบอ่าน NT ป.3 ค่ะ

สวัสดีครับคุณWasawat Deemarn

ชอบคนค้นคนตอนนี้มากเช่นกันครับ ยิ่งดูตอนคุณเอกชัย ดูแลตัวเองในห้องคนเดียวแล้วชื่นชมจริงๆ พลบค่ำก็เอางานออกขาย แล้วรู้สึกจะเดินสายบรรยายตามมหาวิทยาลัยด้วย เจ๋งครับ เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ :)

ชอบคำว่า ฝัน มากๆเช่นกันครับ :)

สวัสดีครับ

คนที่มีความฝัน ก็ย่อมทำความฝันของตัวเองให้ถึงฝัน

นักศึกษาที่เรียนคณะผลิตครูส่วนหนึ่งตามเพื่อน

เรียนเพื่อให้จบ ๆ ได้ใบปริญญา

สวัสดีครับ คุณครู ทรายชล :)

ผมเหลือคุมสอบภาคค่ำอีก 1 วิชา ครับ ... แรงตกเชียวแหละ สำหรับ Heat Wave เมืองเหนือ

"ความฝัน" น่าจะเป็นคนละคำกับคำว่า "ความเพ้อฝัน" อันไม่คำนึงถึงความเป็นจริงของชีวิตนะครับ อิ อิ

ขอบคุณครับ ร้อนจัง :)

ใช่เลยครับ คุณ adayday ... เป็นตอนนี้เลย ตอนที่ 1 ...

ขอบคุณมากครับ :)

สวัสดีครับ คุณ วัชรา ทองหยอด :)

เดินตามรอยทางความฝันของเพื่อน แต่ไม่ใช่ของตัวเอง เยอะเหมือนกันครับ :)

ขอบคุณครับ :)

งานชิ้นนี้ ทำให้ตัวเองเห็นโลกสวยงามขึ้นค่ะ (พยายามหาความงามของโลก ของชีวิตในทุกๆ วันเสมอ บางวันได้เยอะ บางวันได้น้อย แต่สำหรับวันนี้... - - > ขอบคุณค่ะ)

ขอบคุณมากครับ อาจารย์ ป้าต๊อก  :) ... โลกสวยด้วยมือครู

ดีใจที่ได้อ่านบันทึกนี้ อีกทั้งได้อ่านคหของหลายท่าน โยเฉพาะคห 6

อยากบอกมานานแล้ว แต่ยัง หาโอกาสไม่ได้

ประการแรก เพราะฝันไม่ต้องเสียสตางค์ ไงค่ะ เด็กยุคนี้น้อยคนนักจึงมีฝันยกเว้นฝันนั้นมันพาให้เขาล่องลอยไปในวิมาน

ขอบคุณอ.ที่เข้าใจถ่องแท้ว่าหัวใจของความเป็ฯครูต้องเกิดก่อนมาเป็นครู

เราจะได้ไม่เจอคณูไร้หัวใจ ขาดคุณธรรม และบ้าอำนาจข่มเหงลูกศิษย์ ข่มขู่อย่างไร้สติ  แหกปากตะโกนลั่นโรงเรียนเมื่อไม่สามารถสอนให้เด็กเข้าใจ และรับรูได้

อ.มหาวิทยาลัยโชคดีนะคะ ที่คุมสอบก็สามารถทำอย่างอื่นได้ ในขณะครูผู้สอนเด็กตามโรงเรียน ทั้งประถม และมัธยม มิอาจทำได้นอกจากคุมสอบ ขืนทำโดนวินัยร้ายแรง อิอิ

วันนี้ คุณ krutoi ได้บอกแล้วครับ :)

คุมสอบแล้วก็แอบ ๆ น่ะครับ อิ อิ ... เกิดความบกพร่องก็จะได้คุยกับคณบดีแทน อิ อิ

ขอบคุณครับ :)

เป็นเทคนิคการสอนที่น่าประทับใจของอาจารย์ และได้ผลครับ ไม่มากก็น้อย "ปั้นฝัน" เพื่อให้เขาเห็นเป้าหมายของชีวิต ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท