ก่อนที่จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการภาวนาที่ไปฝึกมา ผมอยากจะพูดเรื่องความหมายเป็นบันทึกสุดท้ายว่า . . . การภาวนาที่ว่านี้ ไม่ใช่เรื่องของ “การสวดภาวนา” อ้อนวอน (pray) อย่างที่บางคนเข้าใจ และก็ไม่ใช่ “การบังคับ” ให้จิตใจสงบนิ่งด้วยเช่นกัน
หากแต่เป็นกระบวนการที่สร้าง “การตื่นรู้” ฝึกให้ “รู้เนื้อรู้ตัว” ฝึกให้ “เปิด” ให้ “ยอมรับ” กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ให้สามารถเผชิญกับ “ความไม่รู้” และเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ “โดยไม่ตัดสิน” ให้อยู่กับมันได้อย่าง “รู้เนื้อรู้ตัว” เป็นการเดินทางเข้าสู่ข้างใน (เยี่ยงนักรบ “ชัมบาลา”)
เป็นการเปิดพื้นที่ของความเป็นไปได้ (Creating Possibilities) และพร้อมที่จะรับกับความไม่แน่นอน (Facing Uncertainties) อย่าง “ผ่อนคลาย” พร้อมที่จะ “หลอมละลาย” ไปกับสถานการณ์นั้นๆ ได้
ชาว สคส. และภาคีเครือข่าย
การสวดภาวนา ไม่ใช่การอธิษฐานขอในสิ่งที่เราหวังและอยากได้ เป็นการฝึกให้เรารู้สติไหมคะ
ตามความเข้าใจของผม "สวดภาวนา" กับ "การภาวนา" ไม่น่าจะเหมือนกันเดียว สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้อง "จับหลักสำคัญ" ของคำว่า "การภาวนา" ให้ได้
หลักใหญ่ก็คือ จะต้อง "รู้เนื้อ รู้ตัว" ถ้าเรามีชีวิตอยู่อย่าง "ตื่นรู้" อยู่อย่าง "เป็นปัจจุบัน" สิ่งต่างๆ เหล่านั้นก็คือ "การภาวนา"
ไม่ว่าเราจะเรียกมันว่า การฝึกสติ การทำสมาธิ การกินข้าว การขับถ่าย หรืออะไรก็ตาม ดังนั้นถ้า "การสวดภาวนา" เป็นไปตามหลักที่ว่า ก็ถือว่าเป็น "การภาวนา" เช่นกัีนครับ
นั่นเป็น "ความคิด" ของผมนะครับ "ผิดถูก" อย่างไร "ไม่รับรอง" ครับ
เห็นด้วยครับ
สวดภาวนา เป็น subset ของการภาวนา ทุกอริยาบท ถ้าฝึกให้มีสติ ก็เป็นการภาวนา ไม่ว่า จะ
ขอบคุณอาจารย์ "คนไร้กรอบ" ที่มอบความกระจ่างให้พวกเราครับ
เรียน ท่านอาจารย์
สวัสดีครับอาจารย์
สวัสดีปีใหม่ครับ
ปีที่แล้วได้มีโอกาสสมัครเข้าร่วมแบ่งปันกับท่านอาจารย์เช่นกันครับ จัดที่เชียงใหม่
เป็นช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้มากๆครับ สำคัญช่วงหนึ่งของชีวิต
ขอบคุณครับ...