ซ.ซวง
นาย นพรัตน์ รัตนพงศ์ผาสุข

“หยุดโลก” ให้ได้ก่อนสิ “วิถีแห่งพลัง” กำลังรออยู่


เมื่อ "หยุดโลก" ได้ เขาจะได้สัมผัสกับโลกในแบบที่ต่างออกไป เป็นการสัมผัสตรงไปที่แก่นแท้ของสรรพสิ่ง

ผมจะขอเล่าความประทับใจที่มีต่อหนังสือในดวงใจผมตลอดกาล 2 เล่มครับ

 

หยุดโลก: บทเรียนชีวิตจากดอนฮวน (Journey to Ixtlan : The Lessons of Don Juan ,1972)

 

วิถีแห่งพลัง : หนทางแห่งปรีชาญาณของดอนฮวน  (Tales of Power,1974) 

 

ทั้งสองเล่มคือเรื่องเล่าที่บันทึกวิถีแห่งการฝึกตนในวิถีทางของชนเผ่าอินเดียนแดงเผ่า Yaqui ในเม็กซิโก

ผู้เขียน คือ คาร์ลอส คาสตาเนดา  (Carlos Castaneda)

ผู้ซึ่งในขณะนั้นกำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกทางด้านมนุษย์วิทยา

ได้เข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของอินเดียนแดงเผ่าดังกล่าว

ซึ่งได้นำเขาไปพบกับ "ครู" ของเขาซึ่งเป็น "หมอผี"

ซึ่งจริงๆ แล้วอาจเรียกได้ว่าเป็น "ผู้รู้แจ้ง"  ของชาวอินเดียนแดง อันมีนามว่า

ดอน ฮวน  (Don Juan)  ซึ่งไม่ใช่นักรักบันลือโลกอย่างที่คนส่วนใหญ่รู้จักนะครับ

แต่เป็นหมอผีรุ่นสุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังจากที่ถูกคนขาวรุกราน

ซึ่ง ดอน ฮวน กับเพื่อนของเขาอีกคนหนึ่งคือ ดอน เกนาโร

ทั้งสองได้ร่วมกันสั่งสอนคาร์ลอส ตามวิถีที่พวกเขาได้รับการถ่ายทอดมา

 

ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี หลังจากที่คาร์ลอสทำวิทยานิพนธ์เสร็จ

เขาได้แวะเวียนไปหาดอนฮวนเพื่อฝึกวิชา

โดยในขั้นต้นเขาจะต้องเรียนรู้การทำตัวเป็น "นายพราน"

ต่อจากนั้นจะพัฒนาเป็น "นักรบ" 

และในขั้นสุดท้ายซึ่งยากมากที่นักรบจะมาเข้าสู่ความเป็น "ผู้รู้แจ้ง" ได้

 

วิถีการฝึกฝนตามแนวทางที่คาร์ลอส ได้บันทึกไว้ในหนังสือของเขา อยู่บนหลักการที่ว่า

 

มนุษย์ทุกคนล้วนอยูใน "โลก" ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือกระแสแห่งการแปลความความหมาย

เราล้วนรับรู้ความจริงผ่านชั้นบางๆ  ที่ดอน ฮวน เรียกว่า "ฟองแห่งการประจักษ์"

ซึ่งเปรียบเสมือนโลกทัศน์ ที่ทำให้เราถูกยึดโยงเข้ากับ "คำบรรยายโลก"  แบบใดแบบหนึ่ง

อาจเป็นคำบรรยายโลกแบบ พุทธ คริสต์ อิสลาม แบบนักวิทยาศาสตร์   หรือแบบหมอผีอินเดียนแดง

 

วิถีของการฝึกตนตามแนวทางของอินเดียนแดงก็คือ

จะต้องฝึกฝนเพื่อที่จะ "หยุด" กระแสการแปลความ  ตามคำบรรยายโลกทุกๆ แบบ

ด้วยการกระทำที่เรียกว่า  "หยุดการสนทนาภายใน"   --  "หยุดโลก" นั่นเอง

เมื่อ "หยุดโลก" ได้ เขาจะได้สัมผัสกับโลกในแบบที่ต่างออกไป

เป็นการสัมผัสตรงถึง "แก่นแท้" ของสรรพสิ่ง

 

และเมื่อ "หยุดโลก" ได้แล้ว เขาก็จะเข้าสู่วิถีแห่งนักรบ  -- "วิถีแห่งพลัง"

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักรบ จะต้องสะสม "พลังส่วนตัว" 

ให้มากพอ และจะต้องผ่านการทดสอบอันโหดหิน และเสี่ยงตายอย่างที่สุด

 

และเมื่อครูประเมินว่าเขาพร้อม  

ก็จะถูกนำเข้าสู่บทเรียนขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะกลายเป็น "ผู้รู้แจ้ง"

ก็คือ "การเดินทางเข้าสู่ความตาย" 

อันเป็นวิธีการอันแปลกประหลาดสุดพรรณา และยากจะจินตนาการถึง

เป็นการเดินทางเข้าไปสู่ความตายอย่างมีขั้นตอนเฉพาะ

ความยากของการเป็นผู้รู้แจ้งก็คือ 

มีนักรบหลายคนที่หลังจากพบกับสภาวะนี้แล้ว

ไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตบนโลกอีกต่อไป

ซึ่งล้วนขึ้นกับ "เจตน์จำนง" ภายในของนักรบแต่ละคน

ว่าปรารถนาจะดำรงอยู่ในสภาวะอันเป็นนิรันดร์แห่งสรรพสิ่ง

หรือจะกลับมาโลดแล่นบนโลกใบนี้อีก

 

สิ่งที่ประทับใจผมที่สุดก็คือตอนจบของเรื่อง

ตอนที่คาร์ลอสกำลังเตรียมตัวเข้าสู่บทเรียนสุดท้าย

ซึ่งหลังจากนี้ไปพวกเขาโลดแล่นไปตามวิถีของแต่ละคน

และจะไม่ได้พบกันอีกตลอดชีวิต

พวกเขาได้ร่ำลากันครั้งสุดท้าย และดอนฮวน กับดอนเกนาโร

ได้เปิดเผยให้คาร์ลอสได้ล่วงรู้ถึง "ความลับ" สุดท้ายของพวกเขาดังนี้

 

"แต่ก่อนที่เราจะลาจากไปตามทางของแต่ละคน

ผมต้องบอกคุณเป็นประการสุดท้าย

ผมจะสำแดงให้คุณเห็นความลับของนักรบ

คุณอาจเรียกได้ว่าเป็นความรักของนักรบ"

 

เขาหันมากล่าวแก่ผมโดยเฉพาะและพูดว่าครั้งหนึ่งผมเคยบอกเขาว่าชีวิตของนักรบ

เป็นชีวิตที่เย็นชาเปล่าเปลี่ยวและไร้ความรู้สึก 

เขาถึงกับเสริมว่าตอนนั้นผมปักใจว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

               

"ชีวิตของนักรบไม่มีทางเย็นชา เปล่าเปลี่ยว และปราศจากความรู้สึกได้

เพราะมันเป็นชีวิตที่วางอยู่บนความรัก ความเสียสละและการอุทิศตนแด่สิ่งที่เขารัก

คุณอาจถามว่าแล้วใครล่ะ คือที่รักของเขา? ผมจะสำแดงให้คุณเห็นบัดนี้"

 

ดอนเกนาโร หยัดกายยืน และสาวท้าวแช่มช้าไปที่พื้นราบสนิทตรงหน้าเราพอดี

ห่างไปราวสิบฟุต เขาทำท่วงท่าประหลาด 

ตวัดมือทั้งสองราวกับปัดฝุ่นจากหน้าอกและหน้าท้อง

ครั้งแล้วสิ่งพิสดารพลันอุบัติขึ้น ประกายแสงที่เกือบมองไม่เห็นแล่นแวบผ่านร่างเขา

มันพุ่งขึ้นจากธรณีและดูประหนึ่งจะจุดผกายให้แก่ทั้งร่าง 

เขาทำเหมือนจิกเท้าหมุนตัวไปข้างหลัง

หรือพูดให้ถูกคือตีลังกาดำไปข้างหลังมากกว่า และลงสู่พื้นด้วยหน้าอกกับแขน

การเคลื่อนไหวนั้นทำด้วยความแม่นยำชำนิชำนาญจนดูราวเป็นร่างไร้น้ำหนัก

ประดุจสิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนที่พลิกตัว เมื่อแตะพื้นแล้ว เขาแสดงการเคลื่อนไหว

อันพิสดารเร้นลับโดยลำดับ เขาไถลร่อนเหนือพื้นเพียงสองสามนิ้ว หรือกลิ้งตัวบนพื้น

ราวกับนอนบนฟันเฟือง หรือว่ายวนเป็นพื้นวงกลมและเลี้ยววนด้วยความว่องไว

ดุจปลาไหลแหวกว่ายในมหาสมุทร

  ชั่วขณะหนึ่งสายตาผมเริ่มไขว้กัน และโดยที่ไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ผมกลับมองเห็นลูกกลมเปล่งแสงเรืองรองกลิ้งไปไถลมาบนอะไรบางอย่าง

ที่ดูคล้ายเป็นพื้นของโรงสะเก็ตน้ำแข็งอันมีแสงพร่างพรายทอสะท้อนออกมา

               

ภาพที่ปรากฏนั้นงามเลิศ ครั้นแล้วลูกไฟนั้นยังหยุดแน่วนิ่ง

สุ้มเสียงหนึ่งสั่นไหว ขับไล่สมาธิกระเจิดกระเจิง ดอนฮวนนั่นเองเป็นคนพูด

หะแรกผมไม่ทันเข้าใจว่าเขาพูดอะไร หันกลับไปมองลูกไฟนั่นอีกครั้ง

ก็เห็นแต่ดอน เกนาโรนอนพังพาบแขนขาแผ่หราบนพื้น

           

สุ้มเสียงของดอน ฮวนแจ่มกระจ่างมาก ดูเหมือนมันลั่นไกอะไรสักอย่างในตัวผม

และผมลงมือเขียน

"ความรักของเกนาโรคือโลก"  ดอนฮวนกล่าว 

"เมื่อกี้เขาพยายามโอบกอดโลกอันมหึมาใบนี้

ทว่าเขาตัวเล็กจ้อยจนทำได้แค่แหวกว่ายอยู่ในโลก แต่ผืนพิภพรู้ว่าเกนาโรรักมัน

และมันจึงเอื้ออาทรแก่เขา นั่นทำให้ชีวิตของเกนาโรเต็มเปี่ยมจนล้นปรี่

และสภาวะของเขาไม่ว่าจะอยู่แห่งหนไหนย่อมเพียบพร้อมบริบูรณ์

เกนาโรรอนแรมอยู่บนมรรคาแห่งความรัก และไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน

เขาย่อมพร้อมมูล"               

ดอนฮวนนั่งยองๆ เบื้องหน้าเรา เขาลูบคลำพื้นดินอย่างนุ่มนวล

            

"นี่คือความรักของสองนักรบ  ปฐพีนี้ โลกใบนี้ สำหรับนักรบ

ไม่อาจมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว  ขอเพียงเรารักโลกนี้อย่างซาบซึ้งมิกลับกลาย

เราก็อาจปลดเปลื้องความทุกข์เทวษให้สิ้นไปได้  นักรบชื่นบานเสมอเพราะความรักของเขา

ไม่มีวันแปรเปลี่ยน และสิ่งที่เขารักคือโลกใบนี้ที่โอบกอดเขาไว้และประสาทพรที่นึกไม่ถึง

ความโศกเศร้าย่อมเกิดแก่เฉพาะคนที่เกลียดชังสิ่งที่ให้ร่มเงาแก่ชีวิตของตน"

ดอน ฮวนลูบไล้พื้นดินด้วยความอ่อนโยนอีกครา

           

"สิ่งมีชีวิตที่น่ารักนี้ซึ่งเปี่ยมชีวิตชีวาจนถึงซอกมุมที่เร้นลึกที่สุด

ทั้งยังเข้าอกเข้าใจทุกความรู้สึก มันปลอบประโลมผม เยียวยาความเจ็บร้าว

และในที่สุดเมื่อเข้าใจความรักที่มีต่อมันอย่างถ่องแท้ มันได้สอนให้ผมรู้จักเสรีภาพ"

               

"มีเพียงความรักต่อสิ่งมีชีวิตอันเจิดจำรัสนี้เท่านั้นที่อาจยังเสรีภาพให้เกิดแก่

จิตวิญญาณของนักรบได้ และเสรีภาพคือความแช่มชื่นเบิกบาน ความแข็งขัน

และละวางเบื้องหน้าอุปสรรคทั้งหลาย นั่นแหละคือบทเรียนสุดท้าย

มันจะเหลือทิ้งไว้กับชั่วขณะที่เป็นอวสานที่สุดเสมอ 

ชั่วขณะอันสันโดษเอกา เมื่อคนเผชิญหน้ากับความตาย และความโดดเดี่ยวของตน

จนเมื่อนั้นแหละบทเรียนสุดท้ายนี้จึงมีความหมาย"

 

 

เมื่อผมอ่านมาถึงตรงนี้ ผมเกิดความทึ่ง และประทับใจมากครับ

ไม่คิดว่าเรื่องราวแห่งการฝึกฝนอันยากลำบากต่างๆ นานา

แถมยังต้องเสี่ยงชีวิตหลายครั้งหลายครา

จะมีบทสรุปที่คาดไม่ถึง แต่ก็งดงาม และซาบซึ้งกินใจยิ่งนัก

 

เรื่องราวของคาร์ลอส  ดอน ฮวน และดอน เกนาโร

ยังคงประทับใจผมตลอดสิบกว่าปี นับตั้งแต่ได้อ่านเรื่องราวของพวกเขา

และนั่นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมออกท่องเที่ยวตามป่า ศึกษาธรรมชาติ

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยชอบ และไม่เคยคิดว่าจะทำ

ต่อมาผมได้สมัครเป็นพี่เลี้ยงค่ายเยาวชนของชมรมนักนิยมธรรมชาติ

ซึ่งก็ได้ทำให้ผมได้พบกับภรรยาผมที่นั่น

และได้ร่วมสร้างครอบครัวที่อบอุ่น พร้อมกับลูกๆ ที่น่ารักอีกสองคน

 

ผมตระหนักดีว่า ชีวิตผมขณะนี้ ห่างไกลมากจากวิถีแห่งนักรบของพวกเขา

แต่ผมก็ยังเชื่อในสิ่งที่ดอน ฮวน บอกกับคาร์ลอสว่า

 

"จงวางใจในพลังส่วนตัว  แม้มันจะมีอยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม"

 

ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า สักวันหนึ่งผมคงจะสามารถเข้าสู่

"วิถีแห่งพลัง" ในแบบฉบับของผมได้บ้าง

มันอาจไม่ได้เป็นวิถีที่แนบชิดกับธรรมชาติเหมือนพวกเขา

แต่มันอาจเป็นวิถีที่ผมกำลังดำเนินอยู่ก็เป็นได้

และผมก็รู้สึกว่า การเข้ามาเป็นสมาชิกใน gotoknow นี้

อาจนำผมเข้าสู่วิถีแห่งพลังได้เหมือนกัน

 

ไม่แน่เหมือนกันนะว่า พลังเดียวกันนี้แหละที่ชักนำให้คุณเข้ามาอ่านเรื่องนี้

หรือมันอาจมีนัยยะใดแอบแฝงที่รอการค้นหา และเปิดเผยต่อไป

เพื่อให้เราได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เพื่อแสวงหา "พลัง"  ด้วยกัน

  

และนี่ก็คือปฐมบทของการเดินทางเพื่อแสวงหา "พลัง" ของผมครับ

หมายเลขบันทึก: 234401เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2009 23:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)

- สวัสดีตอนเช้าค่ะ มารับ "พลัง" บริสุทธิ์

- ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณณภัทร๙

อ่านบันทึกนี้แล้วถูกใจมาก..

ใบไม้ย้อนแสงเคยอ่านเรื่อง "หยุดโลก" เมื่อนานมาแล้ว เกิน 10 ปีแล้วกระมัง แต่ในตอนนั้นยังเข้าไม่ถึงสาระเท่าใดนัก

วันนี้ได้มาอ่านบันทึกนี้ของคุณณภัทร๙ ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมาก เกิดความคิดว่าต้องไปค้นหนังสือเล่มนี้กลับมาอ่านอีกสักรอบ ดูว่าวันเวลาที่เปลี่ยนไป ทำให้เราเข้าใจความหมายผ่านตัวอักษรต่างไปอย่างไร

ขอบคุณมากนะคะที่เขียนบันทึกที่เปี่ยมด้วยสาระอันลึกซึ้งเช่นนี้ให้อ่าน

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ขอให้ "พลัง" จงอยู่คู่กับท่านตลอดไป  ..^__^..

ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับ

สิ่งดีๆ ที่ทั้งคุณ Sila Phu-Chaya

และคุณใบไม้ย้อนแสงมอบให้เป็นครั้งที่สอง

 

ดีใจมากครับที่คุณใบไม้ย้อนแสงเคยอ่านมาแล้ว

หากได้กลับไปอ่านใหม่แล้วมีประเด็นอะไร

ที่อยากแลกเปลี่ยนก็ยินดีเสมอครับ

 

ขอฝากคำขอบคุณจากใจ ไปยังท่านผู้แปลทั้งสองท่านด้วยครับ

เพราะหากไม่มีพวกท่าน

ชีวิตผมคงไม่สามารถเดินมาถึงจุดนี้

และคงไม่มีโอกาสมาเขียนบันทึกไว้ที่นี่

 

เอ...หรือว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นเจตนาของ "พลัง" กันนะ

 

ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องค้นหากันต่อไป

สักวันนึงเราอาจจะได้เจอ...

สวัสดีค่ะ ... สนใจค่ะ ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ แค่ฟังเล่าก็รู้สึกประทับใจค่ะ

ยินดีที่รู้จัก ครับ คุณพอลล่าที่ปรึกษา "หน้าตาดี"

เป็นเรื่องบังเอิญมากครับที่เมื่อกี๊ พึ่งจะตอบข้อความของ

ครูปู "หน้าตาดี" ที่สุด ที่มาแวะเยี่ยมเยียน

ไม่ทราบว่าอยู่แก๊งค์ "หน้าตาดี" ด้วยกันหรือเปล่าครับ

ว่างๆ จะขอสมัครเข้าแก๊งค์ด้วยคนครับ

แต่ไม่รู้ว่าจะ qualify ผ่านหรือเปล่า

ขอบคุณครับ

ยินดี รับสมัคร ค่ะ เข้าค่ายทุกประการ

หน้าตาดี มีเมตตา เฮฮาทุกที่ เต็มปรี่ ด้วยคุณภาพ ค่ะ ปรัชญาของเราค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณพี่ ณภัทร ..พี่มีหลายบล็อกนะคะ แต่มีไม่มีบันทึก อิอิ แซวๆๆๆๆ ค่ะ

สวัสดีเช่นกันครับ คุณพอลล่าผู้น่ารัก (และหน้าตาดี)

ช่วงนี้ยอมรับว่าเป็นช่วงเริ่มสร้างหลักปักฐานครับ
หลายๆ อย่าง ในตัวมันยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจนพอ
คงต้องรอเวลาอีกสักพัก
รอบิวท์อารมณ์ ความรู้สึกให้สุกงอมอีกหน่อย
ก็จะทยอยนำมาลงตามกำลัง และเวลาว่างที่มีครับ

ในเวลานี้เลยต้องทำตัวเหมือน ผีเสื้อตัวน้อย
บินโฉบเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ในหมู่พฤกษานานาพันธุ์
ณ ทุ่งดอกไม้แห่งนี้
เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำหวานกินไปพรางๆ ครับ

ได้เห็นบล็อกของ คุณพอลล่าแล้วอิจฉาจัง
ว่างๆ คงต้องรบกวนสอบถามเทคนิคการตกแต่ง
เพิ่มสีสัน ให้บล็อกดูสดใสขึ้นครับ
อย่างน้อยแม้ ตอนนี้จะไม่ได้ร่วมแก๊งค์ "หน้าตาดี"
ก็ขอมีบล็อก "หน้าตาดี" ก่อนก็แล้วกัน

ขอบคุณอีกครั้งที่มาเยี่ยมเยียนครับ

มาทักทายผีเสื้อหนุ่มหน้าตาดีค่ะ เพื่อรับพลังบริสุทธิ์ หลังจากหยุดโลกอยู่ใน G2K นานเกินไป (จนจะไม่ได้ทำมาหาทานอยู่แล้ว) ก็เลยแวะมาร่ำลา ก่อนออกไปทำการงานต่อ

แล้ววันหลังจะโบยบินโฉบไปโฉบมาด้วยคนค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • มาทักทายและมาบอกขอบพระคุณที่กรุณาไปทักทายให้กำลังใจแก่เด็ก ๆ
  • ทุกคนได้อ่านบันทึกแล้วนะคะ แต่ไม่มีโอกาสตอบ เพราะคนใหม่ใช้เครื่องสร้างบล็อกค่ะ
  • รับพลัง..อ่านกลับไปกลับมา 2 -3 เที่ยวค่ะ
  • ขอขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ

ขอบคุณครับพี่ศิลาฯ

สำหรับการมาโฉบเฉี่ยวรอบสอง

ขอบคุณครับ พี่ครูคิม

ลืมบอกไปครับว่าเรื่องนี้ห้ามอ่านเกินวันละสองเที่ยว
เดี๋ยว "พลัง" จะล้นจนธาตุไฟเข้าแทรกครับ

ผมก็ชอบอ่านเรื่องของคุณครูเช่นกัน
อ่านแล้วรู้สึกมี "พลังชีวิต" เพิ่มขึ้นครับ

สวัสดีค่ะ

มาเรียนรู้ด้วยคนค่ะ ขอคุณสำหรับเรื่องราวดีๆๆนะค่ะ

ก่อนอื่นยินดีด้วยนะคะกับประสบการณ์ในการเข้าค่ายนักนิยมธรรมชาติ

พี่เห็นโปรแกรมแล้วยังคิดหนักเลยค่ะ ...

... กำลังจะถามเชียวค่ะว่า น้องณภัทร ถึงระดับไหนแล้ว

 "นายพราน"    หรือ "นักรบ"  

พี่รู้จัก นายพราน คนนึง และ นักรบ ท่านหนึ่ง อิ อิ :)

ความรักของนายพราน และ นักรบ คงแตกต่างกัน ?

" น้องคิดว่า ความรักของนักรบส่วนใหญ่ เป็นอย่างไรคะ "

...

เป็นกำลังใจกับการค้นหา พลัง แห่ง ชีวิต ด้วยกันค่ะ

 

 

ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมเยียน

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จากเลขาฯหน้าตาดี เช่นกันครับ

<h4><span style="color: #0000ff;">"จงวางใจในพลังส่วนตัว&nbsp; แม้มันจะมีอยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม"</span></h4>

<h4><span style="color: #000080;">ชีวิตที่ผ่านพบ&nbsp;&nbsp; มีลบก็มีเพิ่ม&nbsp; ขอเพียงให้เหมือนเดิม...</span></h4>

<h4><span style="color: #000080;">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style="color: #ff00ff;"><span style="background-color: #ccffcc;">&nbsp; กำลังใจ</span></span></span></h4>

<h4><span style="color: #0000ff;">&nbsp;&nbsp;&nbsp; </span></h4>

ขอบคุณครับ พี่ poo

ตัวผมเองยังไม่ถึงระดับไหนเลยครับ

อยู่แค่ระดับ "ผู้ฝึกฝน" เท่านั้น
(เป็นระดับแรกสุด ก่อนจะพัฒนาเป็น "พรานล่าพลัง"
ขออภัยที่ลืมกล่าวถึงไว้)

ถ้ามีโอกาส ช่วยแนะนำให้ผมได้รู้จักกับ "พราน" และ "นักรบ"
ที่ว่าด้วยนะครับ

สำหรับเรื่อง "ความรัก" ของทั้ง พราน และ นักรบ
คงตอบไม่ได้ในขณะนี้ครับ
เพราะยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ

ก็ได้แต่หวังว่าวันนึงจะมีโอกาสตอบคำถามของพี่ได้
ตอนนี้ก็ทำได้เพียงสะสมพลังส่วนตัวไปทีละนิด
เท่าที่พอจะทำได้ 


ผมยังคงเชื่อเช่นที่ ดอน ฮวน สอน คาร์ลอสอยู่เสมอว่า

"จงวางใจในพลังส่วนตัว  แม้มันจะมีอยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม"

"จงปล่อยให้พลังนำทางเจ้าไป"

โห...บันทึกยาวมาก ๆ

แล้วพี่ผู้ชายเล็กเม้นว่าอะไร

แปลกมาก

อ่านจบแล้วค่ะ

ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย

แต่อ่านแล้วทำให้นึกถึงตำรวจกับทหารบ้านเราจังเลย

มีคนชอบว่าตำรวจทหารกันหลาย ๆ อย่าง

แต่ที่เค้าดี ๆ น่าสงสารจัง

เฮ้อ....

"จงวางใจในพลังส่วนตัว  แม้มันจะมีอยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม"

"ชีวิตที่ผ่านพบ มีลบย่อมมีเพิ่ม ขอเพียงให้เหมือนเดิม"

ขอบคุณครับ ท่านรองฯ สำหรับ "กำลังใจ"

พลังส่วนตัวของเรามีขีดจำกัดไหมคะ

ขอบคุณครับ คุณใยมดฯ

ว่าแต่ว่า...รู้จักแต่ใยแมงมุมครับ
เอาไว้ว่างๆ ช่วยส่งรูป "ใยมด" มาให้ดูหน่อยนะครับ
อยากเห็นเป็นบุญตา

ส่วนที่ที่คุณใยมดฯ บอกว่า อ่านแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องน่ะ
ผมคิดว่าเป็นปกติครับ

สิบกว่าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ผมอ่านเรื่องนี้
ผมก็ยังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
เพียงแต่ "ประทับใจ" เท่านั้นเอง
และก็อาศัยเจ้าความประทับใจนี่แหละ
มาสร้างเป็น "แรงบันดาลใจ"
ให้ดั้นด้นค้นหา "พลัง" ครับผม

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะเจอหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตนี้
มีสีสัน มีเสน่ห์ มีเรื่องให้ชวนพิศวง งงงวย ตลอดเวลา

ตอบเสียยืดยาวและอาจจะวกวนไปหน่อย ขอสรุปสั้นๆ ว่า

มีความสุข และตื่นเต้นครับ ที่ได้เดินตามหา "วิถีแห่งพลัง"
แม้ว่ามันอาจจะไม่มีอยู่จริงๆ ก็ตาม
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงจะเศร้าน่าดูนะ

ขอบคุณครับ พี่ศิลาฯ กับการมาเป็นครั้งที่สาม

ผมคิดว่า...

ขีดจำกัดของพลังส่วนตัวน่าจะอยู่ที่ "ใจ" ของเราเองครับ

อ่านใหม่อีกรอบนึงแล้วค่ะ

เพราะมันงงตรงนี้

ครูของเขาซึ่งเป็น หมอผี

ไม่มีอะไรค่ะ

นึกไม่ออกว่าจะถามอะไร

เดี๋ยวค่อยอ่านใหม่อีกรอบนึงค่ะ

บันทึกนี้เขียนดีน่ะค่ะ แต่อ่านยากมาก

อ๋อ...รู้แล้ว

โดยในขั้นต้นเขาจะต้องเรียนรู้การทำตัวเป็น "นายพราน"

ต่อจากนั้นจะพัฒนาเป็น "นักรบ" 

และในขั้นสุดท้ายซึ่งยากมากที่นักรบจะมาเข้าสู่ความเป็น "ผู้รู้แจ้ง"

นี่ไง..ตรงนี้เลย เริ่มแรกมีนายพราน

ไม่ใช่นางหรือนางสาวพราน แสดงว่า ต้องเป็นผู้ชายค่ะ อันนี้ถูกต้มแน่นอน เย้ๆๆๆๆๆ

ต่อจากนั้นก็พัฒนาเป็นนักรบ แสดงว่านักรบก็ต้องเป็นผู้ชาย อันนี้ก็ถูกต้มอีก เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ต่อมาขั้นสุดท้ายซึ่งยากมากที่นักรบจะเข้าสู้ความเป็น ผู้รู้แจ้ง

ใช่แล้วค่ะ อันนี้ยากมาก ก็เป็นนายพรานอยู่ดี ๆ พัฒนามาเป็นนักรบ ขั้นสุดท้ายก็ต้องเป็นผู้ชายรู้แจ้ง แต่อันนี้ไม่ได้บอก บอกแค่ว่า ผู้รู้แจ้ง

แบบนี้ทำไงค่ะ ไม่รู้จะเป็นหญิงหรือเป็นชาย ลำบากมากเลยค่ะ

อิอิ ใยมดแซวเล่นน่ะค่ะ

เพราะว่าอ่านแล้วงง เลยมั่วแล้ว

สรุปว่า ผู้ชายเป็นนักรบ ผู้หญิงเป็นผู้หญิงรู้แจ้ง

แต่หากผู้ชายจะรู้แจ้งด้วย ก็ต้องให้ผู้หญิง เป็นนางพรานด้วย

แหะแหะ มั่วใหญ่

ขอบคุณค่ะ

ซาบซึ้งใจในความพยายามของคุณใยมดครับ
ที่ได้พยายามอ่านอีกรอบ

คำว่า "หมอผี" น่าจะแปลมาจากคำว่า Shaman หรือ Sorcerer
ซึ่งเข้าใจว่าทางผู้แปลเองก็คงกระอักกระอ่วนใจมากเช่นกัน
ที่ต้องเลือกใช้คำนี้ เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด

แต่โดยบริบทของชาวอินเดียนแดงแล้ว "หมอผี"
ก็คือ "ผู้รู้แจ้ง" หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น
 "ปราชญ์อินเดียนแดง" ก็ได้ครับ

ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ "ขั้นเทพ" หรือ "ขั้นเซียน" นั่นเองครับ

หวังว่าคงพอให้กระจ่างขึ้นบ้างนะครับ

 

สวัสดีค่ะ

มาอ่านอีกครั้ง หลังจากไม่ได้คอมเม้นท์ไว้เมื่อครั้งก่อน

ชอบมากตรงนี้ค่ะ....

ชั่วขณะอันสันโดษเอกา เมื่อคนเผชิญหน้ากับความตาย และความโดดเดี่ยวของตน

จนเมื่อนั้นแหละบทเรียนสุดท้ายนี้จึงมีความหมาย"

ความจริงเราทุกคนล้วนเป็น "นักรบ" ที่มีลีลา มรรคา เป้าหมายที่แตกต่าง หลากหลายกันไป ก็เพื่อตามค้นหา...ความหมายอันแท้จริงของชีวิต...จริงไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

 

 

ขอบคุณอีกครั้งครับ คุณใยมด

ต้องขออภัยอย่างแรงที่ทำให้ "งง"

จริงๆ แล้วในหนังสือมีตัวละครอีกตัวหนึ่ง
ที่เป็นนักรบหญิงอินเดียนแดง

และที่สำคัญดอนฮวนพูดได้กล่าวไว้ว่า

"ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศ ในวิถีแห่งพลัง"

ทั้ง พราน นักรบ และผู้รู้แจ้ง สามารถเป็นได้ทั้งชายและหญิง
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ "พลังส่วนตัว" ของแต่ละคน

เหมือนทางศาสนาพุทธเราก็เช่นกัน
พระอรหันต์ที่เป็นหญิงก็มีไม่ใช่น้อย ใช่ไหมครับ

แต่มีเรื่องที่น่าเศร้าที่ผมไม่อยากจะเปิดเผยเลยนะ...

ครั้งหนึ่งจำได้ว่าเคย Search google เพื่อตามอ่าน
คำสอนของคาร์ลอส คาสตาเนด้า ใน web site คำสอนของเขา

ผมไปเจอบทความตอนหนึ่ง
ซึ่งทำให้ผม "ช็อค" ไปเลยครับ


ข้อความตอนนั้นได้บอกว่า


"สำหรับคนที่แต่งงาน และมีลูกแล้ว จะไม่สามารถเข้าสู่
วิถีแห่งพลังได้อย่างสมบูรณ์..."


ความรู้สึกในขณะนั้นมันเหมือนโลกได้พลังทลายลง
สิ่งที่เป็น ความใฝ่ฝันอันงดงามได้เลือนหายวับไปต่อหน้าต่อตา

 

แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้วครับ
ผมพยายามทำใจ "ไม่เชื่อ" ในคำกล่าวนั้น

จนถึงวันนี้ ผมขอเลือก "เชื่อ"
ว่าผมยังสามารถตามหา "วิถีแห่งพลัง" ของผมได้

ทำไมรู้มั๊ยครับ

เพราะผมเริ่มตระหนักว่า

"ความเชื่อ" คือจุดเริ่มต้นของ "พลัง"  นั่นเอง

ขอบคุณครับ คุณคนไม่มีราก

ยินดีมากครับที่ได้เป็น "กัลยาณมิตร" กันเพื่อร่วมค้นหา

"ความหมายอันแท้จริงของชีวิต"

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

ใยมดจะบอกว่า ผุ้หญิง หรือผู้ชาย เค้าก็ใช้คำว่าผู้ แล้วต่อด้วยผู้รู้แจ้ง

อิอิ ไม่เข้าใจเนื้อหาในบันทึกเท่าไหร่

แต่เข้าใจว่าคุณณภัทรเก้า

คงศรัทธาใน วิถีแห่งพลังมากเลยน่ะค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ

ใยมดว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย

แต่งงานมีครอบครัวแล้วน่ะสิยิ่งดี

จะได้มีวิถีแห่งพลังที่มาก ๆ

นอกจากจะทำให้คุณณภัทรคนเดียวแล้ว ยังทำให้ครอบครัวคุณณภัทรมีวิถีที่ดีด้วยน่ะค่ะ

คงจะส่งผลถึงลูกต่อไปด้วยค่ะ

ยังไงก็ เชื่อในความดีที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้ทุกเวลา และสร้างให้คนอื่นได้และรับความดีของคนอื่นเสมอ ทุก ๆ วันน่ะค่ะ

จบแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะที่ให้ได้เรียนรู้

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆไปแย้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โชคดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณครับ

P 

ขอบคุณครับคูณตูน

ผมก็กำลังทำอย่างที่ดอนฮวนพูดอยู่ครับ

ตอนนี้ลำบากมากครับ แต่ก็อีกไม่นาน

ขอบคุณคุณตูนมากนะครับสำหรับ ดอนฮวน

ขอให้คุณตูนมีความสุข

ดีใจจังได้เจอกลุ่มคนที่รักหนังสือชุดนี้แล้ว สิบกว่าปีแล้วสินะผมยังนึกถึงคำสอนของ ดอน ฮวน อยู่เสมอ 2 อาทิตย์ก่อน"ความตาย"ก็เพิ่งจะแสดงตัวตนต่อหน้าผม มันมาทางด้านซ้ายจริงๆและเฉียบขาดมากจนสะเทือนใจผมอยู่นาน วันนั้นคือวันที่น้องชายผมหัวใจวายกะทันหันระหว่างนั่งคุยกันธรรมดาๆในบ่ายที่งดงามวันหนึ่ง ผมพยายามที่จะไม่เศร้า แต่มันก็ยาก ขอบคุณgoogleจริงๆที่ชักนำมาให้ได้อ่านblogของคุณและระลึกได้ว่า ผมห่างหายจากคุรุทั้งสอง ดอน ฮวน และ ดอน เกนาโร ไปนานเหลือเกิน

ผมชอบหนังสือ " หยุดโลก " มากครับ อยากอ่านเล่ม2 " วิถีแห่งพลัง " แต่ไม่รู้จะหาได้ที่ไหน ใครรู้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

" ขอบคุณสำหรับพลังดีดีที่ทำให้รู้จักคนที่ชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกัน "

" ใครรู้ช่วยบอกมาที่เมล์ด้วยนะครับ " [email protected]

บอกด้วยครับว่าหาซื้อได้ที่ไหนอยากได้มากเช่นกัน ทั้งสองเล่มเลย สำนักพิมพ์ไรครับ

เรียนคุณ praprakarn

ลองไปหาที่บู๊ทของสำนักพิมพ์เคล็ดไทย

ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติช่วงนี้ดูก็ได้นะครับ

เผื่อจะยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง

ถ้าตามร้านทั่วไปไม่น่าจะมีแล้วครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท