หยุดยาวหลายวันช่วงปีใหม่... ดูทีวีเสรี (ไม่ต้องจ่ายค่ารายการพิเศษ...จ่ายเฉพาะค่าไฟ ...แล้วถ้าใช้ไฟน้อยกว่าเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด ยังได้ใช้ไฟฟรีอีก...ในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด...ช้ำเลือดช้ำหนองแบบนี้.. อะไรที่ประหยัดได้..ก็ควรช่วยกันประหยัด..จะตะบี้ตะบันใช้อย่างเมื่อก่อน... ไม่แน่ใจว่า ...ตัวเองจะอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ ? ) มีรายการในวันพิเศษหลายรายการ... ดี ๆ ทั้งนั้น .. ก่อนจะเริ่มรายการเขาจะขึ้นตัวอักษณ " ท " แล้วมีเสียงในฟิล์มบอกว่า " รายการนี้เป็นรายการทั่วไป ดูได้ทุกเพศทุกวัย " ให้นึกสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า รายการที่ขึ้นตัว " ฉ " แล้วบอกว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำนั้น ... จะมีผู้ใหญ่ซักกี่คนที่จะมานั่งให้คำแนะนำ... หรือ แนะนำ...เด็กมันจะฟังหรือเปล่า ... ไม่แน่ใจ
ได้ดูโฆษณาขายทุกอย่างต่าง ๆ นา ๆ เรียกว่า ...ตั้งแต่สากกระเบือ ยันเรือรบ... ต้องยอมรับอย่างว่า...มันดึงดูดให้คนอยากใช้นักแล...แล้วดูโฆษณา ของ ไทยประกันชีวิต ชุด แม่ต้อย แล้วประทับใจมาก ... เรื่องมีอยู่ว่า.....แม่ต้อย ผู้หญิงที่ฐานะยากจน ...ผัวทิ้ง ... แต่เธอไม่ได้ทำให้ชีวิตของเธอด้อยค่าลงเพราะสถานภาพที่เธอเป็น ...เธอเก็บเด็กข้างถนน 3 คนมาเลี้ยง... ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็แทบเอาตัวไม่รอด...เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ( โฆษณาไม่ได้บอกว่า ... เธอเป็นมะเร็งที่อวัยวะส่วนใด ) หมอบอกว่า..เธอมีชีวิตอยู่ได้อีก 2 ปี .... ในช่วงระยะเวลาที่เหลือ...แม่ต้อยได้ทำให้ชีวิตคนอื่นมีคุณค่า... เธอให้โอกาสเด็กที่เป็นโปลิโอ ต้องใส่ขาเหล็ก ได้มีโอกาสเตะฟุตบอล ... เด็กคนนั้นเตะฟุตบอลเข้าประตูไป...แม่ต้อย ออกอาการดีใจสุด สุด ยังกับเธอเตะเข้าเสียเอง ...เธอสอนให้เด็ก ๆ รู้จักการแบ่งปัน... ( ตอนกินข้าว ) อย่ารังแกคนที่อ่อนแอกว่า....เธอหอบหิ้วพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวทะเล ...จากหนังโฆษณา...เราเห็นแววตาของแม่ต้อย และ เด็ก ๆ ตื่นเต้น...ดีใจแค่ไหน ที่มองเห็นทะเล... สงสัยจะไม่เคยเห็น ... ในโฆษณา...จะเห็นว่า เธอให้ความรัก..ความอบอุ่นแก่เด็ก ๆ 3 คนมากมายเท่าที่ผู้หญิงจน ๆ คนหนึ่งจะให้ได้... เด็กได้กินอิ่ม...นอนหลับ...ในบ้านหลังเล็ก ๆ ....จะดีแค่ไหน...ถ้าแม่ต้อยจะไม่ต้องจากโลกนี้ไป... เธอจะได้เห็นการเติบโตของเด็กทั้ง 3 คน เขาเหล่านั้นจะยังจำคำสอนของแม่ต้อยที่สอนว่า..." ชีวิตที่มีค่า ไม่ได้อยู่ที่ความร่ำรวย... มีเกียรติ หรือมีอายุยืนยาว...แต่ชีวิตที่มีค่า...อยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า...และทำให้ชีวิตคนอื่นมีคุณค่า...คนเราควรดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างกว้างขวาง...มากกว่าการดำรงชีวิตอยู่อย่างยืนยาว แต่จิตใจคับแคบ... " ในช่วงสุดท้ายของชิวิต...แม่ต้อยยังมอบความสุข...ให้กับคนไข้ในโรงพยาบาลที่ได้ยินเสียงกีตาร์ของเธอ... เด็ก 3 คน จะเป็นคนดีของสังคมหรือไม่ ? ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง... อย่างน้อยการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคม มีน้ำใจให้กับคนที่ด้อยโอกาสยังต้องการอีมากในสังคมไทย...
หนังโฆษณาชุดนี้ ดูแล้วหันกลับมามองดูตัว... มันให้ข้อคิดแก่หลายอย่าง...ประทับใจทั้งนั้น... ตั้งแต่ การเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่ ( อย่างแม่ต้อย ) ในภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ...ทุกคนต่างมีภาระมากน้อยแตกต่างกัน ... การแบ่งปันน้ำใจให้คนที่ด้อยโอกาส... เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ..ยกย่อง... ถึงคนอื่นจะไม่รู้...แต่ตัวเรารู้ดีกว่าใคร...การเป็นผู้ให้...ควรเริ่มที่ตัวเรา...
เห็นด้วย ทุกข้อค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะ
โฆษณามีทั้งสร้างสรรค์และสร้างผลเสีย โฆษณาดีๆทำให้ได้ข้อคิด ได้เห็นแง่มุมชีวิตที่เรามักมองข้ามด้วยความรีบเร่งในชีวิตนะคะ
โชคไม่ดีของบ้านเราโฆษณาหลายชิ้นมีความเน่าหลายอย่างในตัวเองนอกจากส่งเสริมให้คนฟุ้งเฟ้อ บางชิ้นยังทำแบบดูถูก แบ่งชนชั้นคน หรือดูถูกผู้หญิง ครีเอทีฟอาจใช้สมองครึ่งเดียวและขาดจริยธรรมด้วย
ขอบคุณนะคะที่ไปแวะที่บันทึก ยินดีที่ได้รู้จักกันค่ะ
ตอนนี้ รู้สึกจะออกมาเป็นหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คให้เราอ่านแล้วนะครับ ผมเองก็ชอบโมษณานี้ ชวนลูกๆ ดู และบอกกับเขาว่า ให้รู้จักแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้คนอื่นบ้าง..
ครับ, ..ไม่ว่าดี หรือร้าย ทุกอย่างเริ่มที่เราเสมอ
ดังนั้น การดูแลสังคม ก็เริ่มจากการดูแลตัวเองนี่แหละครับ แต่หากก้าวพ้นออกมาจากตัวเองได้ ซึ่งหมายถึงการก้าวไปสู่การวิถีแห่งการดุแลคนอื่น - สิ่งนี้ คือการให้ที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต ...
โดยส่วนตัวเองชอบครีเอทีฟ โฆษณา ไทยประกัน เพราะแทบทุกชุด ล้วนกระตุ้น จิตใต้สำนึกของคุณค่าการใช้ชีวิตครับ ปู่ชิว...แสงดาว ฯลฯ กลายเป็นแฟนโฆษณาไทยประกันชีวิตไปแล้ว และทางไทยประกันเองไม่ได้เน้นในส่วนของ ความเป็น brand เท่าไหร่นัก
มีเพียงไม่เกิน 5 วินาทีในช่วงท้ายเท่านั้น ส่วนที่เราล้วนที่สุดว่าเป็นโฆษณา อะไร
ซึ่งก็สำเร็จครับ
ดูทีไรก็เหมือนเตือนสติ ให้ไม่เขวตามกระแสสังคม ที่พลุกพล่าน
ย้อนดูตัวให้ดำเนินไปอย่างที่ ความสุขพึงมีครับ
มาทักทายครับ
มาชม
ผมว่าใช่เลยละ
ชีวิตที่มีคุณค่า...
เห็นด้วยทุกข้อครับ
ขอบคุณที่เข้าไปเม้นท์ในบล็อกของผมครับ
เพื่อนผมก็เป็นคนมหาสารคาม แต่อยู่ อ.บรบือครับผม
ชอบโฆษณาของ ไทยประกันฯ อยู่แล้วครับ ให้ข้อคิดดีๆ นำมาประยุกต์ใช้กับครอบครัวได้ด้วย แฟนก็ชอบดู ผมชอบปู่ชิวเป็นพิเศษ เป็นการรักษาสัญญาของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อคนที่เป็นที่รักของตนเอง (ดูครั้งแรกแอบน้ำตาคลอเบ้า) ถ้าทุกคนเป็นแบบปู่ชิวบ้าง สังคมไทยคงดีขึ้นกว่านี้เนอะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายในบล็อกของผมครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ตรีคูณ
อยากให้โฆษณาและสื่อต่างๆ เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อปรับค่านิยมไทยใหม่
... คนดีที่มีคุณค่า ควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และถือเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่ ...
ขอบคุณค่ะ