หลังจากที่ชาวบ้านศรีนาป่าน-ตาแวนได้ทดลองการแปรรูปชามาระยะหนึ่งแล้ว จึงได้ทดลดงวิธีการตัดแต่งกิ่งเมี่ยง เพื่อให้สะดวกในการเก็บ เนื่องจากต้นเมี่ยงบางต้นจะสูงมาก นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มยอดชาให้มากขึ้น และทำให้ยอดชาอ้วนมีน้ำหนักมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการตัดแต่งกิ่งเมี่ยงนี้ ทำให้สามารถเก็บได้ทั้งยอดมาทำชา และใบมาทำเมี่ยงอมก็ได้
การตัดแต่งกิ่งเมี่ยงมี ๒ วิธีการ คือ
วิธีที่ ๑ การตัดหนัก (ตัดในช่วงปลาย พ.ย. – ธ.ค. เท่านั้น หลังจากนั้นประมาณ ๒ เดือนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้)
อุปกรณ์ในการตัดแต่งกิ่งเมี่ยง
• เลื่อย
• กรรไกรขนาดใหญ่-ขนาดเล็ก
• มีดพร้า
• จอบ
วิธีการตัดหนัก
๑. สังเกตลำต้นเมี่ยงก่อน หากลำต้นใดที่ติดเชื้อราหรือเน่า ให้ตัดใต้แผลเน่าลงมา ประมาณ ๑๐ เซนติเมตร หากต้นใดที่สมบูรณ์ ให้วัดความยาวตั้งแต่โคนต้นขึ้นไป ประมาณ ๗๐-๑๒๐ เซนติเมตร แล้วถึงตัด
๒. ให้ใช้เลื่อยที่คมตัดเฉียง ๔๕ องศาเซลเซียล อย่าให้ลำต้นแตก หรือฉีก หากแผลฉีกขาดจะทำให้เน่า เมี่ยงจะแตกกิ่งใหม่ช้า อาจใช้เวลา ประมาณ ๒ เดือน แต่หากแผลที่ตัดดี ไม่มีฉีกขาด กิ่งเมี่ยงจะแตกกิ่งใหม่ได้รวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ ๑ เดือน โดยจะแตกกิ่งรอบใต้แผลที่ตัดลงมาประมาณ ๕ เซนติเมตร
๓. หลังจากตัดเสร็จแล้วให้ตัดแต่งกิ่งรอบลำต้น เพื่อให้ดูสวยงาม เป็นทรงพุ่ม
|
|
<p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt 54pt;"> </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt 54pt;">การตัดกิ่งที่ถูกวิธี</p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt 54pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt 54pt;">การตัดกิ่งไม่ถูกวิธี </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"> </p>
วิธีที่ ๒ การตัดเบา (เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแบ่งพื้นที่ทั้งตัดหนัก และตัดเบา โดยตัดไปทีละขั้น เพื่อให้เก็บผลผลิตได้ต่อเนื่อง ซึ่งการตัดเบานี้สามารถเก็บผลผลิตได้ภายใน ๑ เดือน)
วิธีการตัดเบา
เป็นการตัดแต่งกิ่งเมี่ยงเล็กๆ ที่อยู่โดยรอบเพื่อให้ต้นเมี่ยงออกยอดได้เร็วขึ้น
การดูแลรักษาต้นเมี่ยง
๑. ดายหญ้ารอบลำต้น
เพื่อป้องกันไม่ให้มีวัชพืช หรือเถาวัลย์ขึ้นพันตามต้นเมี่ยง ซึ่งจะทำให้ต้นเมี่ยงเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และอาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่จะเกิดกับต้นเมี่ยงอีกด้วย
๒. ขุดหลุมรอบลำต้นลึกประมาณ ๑๐-๑๕ ซ.ม.
เป็นการดักจับปุ๋ยธรรมชาติ ซึ่งมาจากใบไหม้ของต้นไม้ใหญ่ที่หล่นลงมาทับถมกันเป็นเวลานาน เวลาที่ฝนตกลงมาปุ๋ยเหล่านี้จะถูกพัดไหลลงมาตามพื้นที่ลาดเอียงลงมาหาหลุมที่ขุดรอบลำต้นเมี่ยงไว้ วิธีนี้ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องไปหาปุ๋ยมาใส่เอง
๒. การตัดแต่งกิ่ง
เป็นการตัดแต่งกิ่งเมี่ยงที่หัก กิ่งเน่า กิ่งที่เกิดการติดเชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นเมี่ยงติดเชื้อรา นอกจากนั้นยังทำให้ยอดเมี่ยงออกเยอะ มียอดที่อ้วน และน้ำหนักดี
๓. การใส่ปุ๋ย ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ชีวภาพ หรือปุ๋ยจากธรรมชาติเท่านั้น จะใช้ปุ๋ยเคมีไม่ได้ แต่สำหรับชาวบ้านบางคนไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเลย หากมีสวนเมี่ยงอยู่ในป่าใหญ่ เนื่องจากอาศัยปุ๋ยธรรมชาติจากใบไม้แห้งที่หล่นมาทับถมกันนั่นเอง
ขอขอบพระคุณ : แกนนำศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลเรือง ทุกท่าน และทีมมูลนิธิฮักเมืองน่านทุกคน
ไม่มีความเห็น