ขมิ้นกับปูน


ทำให้ผมหวนนึกถึง ละครทีวีในอดีต เรื่อง "ขมิ้นกับปูน" ที่สมัยนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายชีวิตจากแบบท่านขุนมูลนายไปเป็นแบบค้าขาย หนังได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต 2 แบบ คือ แบบเจ้าขุนมูลนายเดิมที่มองว่าการค้าขายเป็นงานที่ไม่มีเกียรติยอมตายที่จะไปขายของกิน (หัวหน้าครอบครับเป็นท่านขุนอะไรสักอย่าง นำแสดงโดย จรัญ มโนเพ็ชร) ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัวคนจีนที่ทำมาค้าขายเก่ง (หัวหน้าครอบครัวนำแสดงโดยมนตรี เจนอักษร)
  • มื้อเที่ยงวันนี้ เป็นก๋วยเตี๋ยว ชามอร่อย ที่ร้านในซอย ๆ แห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากธนาคาร ผมจำได้ว่า ผมมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นานมาแล้ว ในครั้งนั้นผมถูกลัดคิว และไม่ประทับใจในการบริการของร้านเท่าที่ควร และเข้าใจว่า เป็นเหตุให้ผมไม่ไปกินร้านดังกล่าวนานมาจนถึงวันนี้
  • แต่วันนี้แตกต่างออกไป เพราะได้ศึกษาปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น ทำให้สติ สมาธิดีขึ้น ปัญญาก็ดูจะมากขึ้นตามไปด้วย  
  • การให้บริการยังใช้ไม่ได้เหมือนเดิม สัญญาหรือความจำได้หมายรู้เดิม ๆ ของผมเริ่มผลุดขึ้นมา แต่คราวนี้ สติ สมาธิ ปัญญา ของผมดีกว่าครั้งก่อน ๆ ผมไม่รีบร้อน
  • ระหว่างที่นั่งรอ ผมมองข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม สังเกตุเห็นว่า บ้านเรือนคนแถวนี้ไม่ธรรมดา ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านทรงทันสมัยนัก แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของถนนสายนี้
  • ทำให้ผมหวนนึกถึง ละครทีวีในอดีต เรื่อง "ขมิ้นกับปูน" ที่สมัยนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายชีวิตจากแบบท่านขุนมูลนายไปเป็นแบบค้าขาย หนังได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต 2 แบบ คือ แบบเจ้าขุนมูลนายเดิมที่มองว่าการค้าขายเป็นงานที่ไม่มีเกียรติยอมตายที่จะไปขายของกิน (หัวหน้าครอบครับเป็นท่านขุนอะไรสักอย่าง นำแสดงโดย จรัญ มโนเพ็ชร) ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัวคนจีนที่ทำมาค้าขายเก่ง (หัวหน้าครอบครัวนำแสดงโดยมนตรี เจนอักษร)
  • ยิ่งตอนที่ผมเดินกลับมาที่รถ และสังเกตุบ้านเรือน 2 ข้างทาง ยิ่งทำให้สัมผัสและรับรู้ถึงความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของชุมชนถนนซอยนี้ คือ มีบ้านเรือนแบบเดิม ๆ ที่ดูเหมือนเคยยิ่งใหญ่แบบโบราณ อยู่ปะปนกันไปกลับบ้านเรือนสมัยใหม่ แลดูหลายบ้านยังคงชีวิตแบบเดิม และหลายบ้านได้ปรับเปลี่ยนตัวเองไปค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
  • ในปัจจุบันซอยนั้นเป็นซอยเล็ก ๆ แบบวันเวย์ ผู้คนสัญจรไปมาไม่มาก จะมากก็เฉพาะตอนเที่ยง คือ ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้น เท่านั้นเอง
คำสำคัญ (Tags): #ขมิ้นกับปูน
หมายเลขบันทึก: 234119เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2009 14:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 19:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 เมื่อก่อนผมไปทานอาหาร  ถ้ามีการลัดคิวเมื่อไร  ผมลุกหนีทันทีครับ

    เดี๋ยวนี้  พอทำใจเข้าใจเจ้าของร้านได้บ้างแล้วครับ

             ชักแก่ตัวลง

  • ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดียว
  • สามารถสอนสัจจะธรรมบางอย่างได้นะครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านรองฯ

P

 

  • แต่ก่อนเป็นเหมือนกันเลยครับ คือไม่ชอบถูกลัดคิว กับโกงตาชั่ง ผมจะไม่กลับไปใช้บริการร้านนั้นอีกเลยครับ
  • แต่เมื่อวานนี้แตกต่างออกไป คือ ผมสังเกตุว่า คนที่มากินร้านนั้นเป็นคนในชุมชน(ดูจากการทักทายและการแต่งตัว) และเป็นลูค้าประจำ และผมเข้าใจว่า ร้านดังกล่าวคงเป็นร้านเก่าแก่ของชุมชนนั้น ทำให้เขาบริการลูกค้าประจำหรือคนคุ้นเคยก่อนครับ
  • บางทีถ้าเราไม่รีบร้อนเกินไปนัก เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น เสียสละเวลาบ้างนิด ๆ หน่อย ตัวเราก็จะเป็นทุกข์น้อยลงครับ
  • ขอบพระคุณครับ

 

 

 

สวัสดียามเช้าค่ะ ขอให้มีความสุขค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์

P

 

  • จริง ๆ ตั้งใจจะเขียนสัจจะธรรมที่เกิดขึ้นแบบสด ๆ จากร้านก๋วยเตี๋ยว แต่เขียนไม่ออกและเขียนไม่จบครับอาจารย์ ก็เลยห้วน ๆ อย่างที่เห็น แต่ก็เป็นโกอานให้ไปคิดต่อได้ตามใจชอบครับ อิ อิ
  • ในส่วนของ "ขมิ้นกับปูน" เป็นสัจจะธรรมที่ควรตระหนักมากในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ อย่างนี้ครับ ในหนังครอบครัวท่านขุนมูลนาย ไม่ยอมปรับตัว หรือปรับตัวช้า สุดท้ายครอบครัวก็ไปไม่รอดครับ
  • ขอบคุณครับ

อรุณสวัสดิ์ครับ

P

 

  • ขอให้มีความสุข ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นนะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท