ไปเป็นนักเรียนเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ของเบาหวาน
ไปเป็นผู้ป่วยที่ได้รับคำแนะนำให้รู้ทันเบาหวาน
ไปเป็นผู้มีประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าค่ายแบบนี้ แต่ต่างวันเวลา และสถานที่
กำหนดการการเข้าค่ายครั้งนี้เปลี่ยนแปลงเพื่อให้การทำงานประสบผลดังเป้าหมาย ฉันเข้าใจเองนะคะ เพราะแรกนั้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะมีการเข้าค่ายเบาหวานครั้งที่ 2 ที่บ้านท้ายหาดจังหวัดสมุทรสงคราม และได้เลื่อนกำหนด และเปลี่ยนสถานที่เป็นวันที่ 7-9 มกราคม 2552 ณ เลกาซี่ สแคว ค่ำคืนนี้ ฉันเตรียมตัวไปเข้าค่าย เตรียมอุปกรณ์เข้าค่ายเหมือนนักเรียนไปเข้าค่ย พร้อมเสื้อกันหนาว ยาประจำตัวที่จะขาดไม่ได้ ดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆ โดยเฉพาะการสำรวจร่างกายตัวเอง เช่น เล็บ ผม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือถุงเท้าต้องเตรียมไปสัก 6 คู่ รวมทั้งถุงเท้าใส่นอนด้วยฉันก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย กับการเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้
เวลา 8.00น.ฉันจะไปพร้อมกันที่ ตึกอำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร
8.30น.กิจกรรมบอกเล่าเก้าสิบ
9.30น. เรียนรู้"การตรวจเบาหวาน"
10.30น.เรียนรู้"เบาหวานลด ได้ไม่ยาก"
13.00น.คุยคุ้ยข่าว อาหารป้องกันเบาหวาน
15.00น. ออกเดินทางสู่..ที่หมาย กาญจนบุรี
18.00-21.00น.กิจกรรมใครเป็นใคร สไตล์DM Camp
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม 2552
06.00-07.00น.ยืดเส้นยืดสายรับอรุณโยคะ
08.30น. เรียนรูเรื่องยาเบาหวาน
10.30น. กิจกรรมเบาหวานหรรษา
13.30น. การดูแลสุขภาพเท้า
18.00น. ละครหรรษา "เบาหวาน"
วันศุกร์ที่ 9 มกราคม 2552
06.00-07.00น. ออกกำลังกายรับวันใหม่
8.30น. กิจกรรมการดูแลเท้า
10.30น. ปักธงลดเบาหวาน
13.00น. เดินทางกลับโรงพยาบาลสมุทรสาคร
3วัน 2 คืน กับกิจกรรมดูแลเบาหวานของตัวเอง อย่างใกล้ชิดแพทย์ เหมือนนักเรียนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณครูเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดกำลังใจ เกิดความมั่นใจ สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตนเองอย่างสง่างาม ด้วยสุขภาพที่ดีโดยวิถีทางเลือกใหม่ เรียนรู้ธรรมชาติของโรค ฝึกลมหายใจ เรียนรู้ และปฎิบัตการเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ได้พูดคุยอย่างเปิดอกกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาแบบพึ่งยาที่มาเข้าค่ายก็จะได้รับคำแนะนำในการรับประทานยา
การฝึกจิตใจให้รู้จักยับยั้ง โดยใช้ปัญญากำกับความคิดให้ระลึกรู้ถึงอันตราย ที่มาอย่างเงียบๆ หากไม่รักตัวเอง การนำพาตัวเองให้ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมีความสุข และมีความหมายจึงเป็นเป็หมายที่คุณหมอต้องการให้ผู้ป่วยอย่างฉันมีความสามารถ และสามารถปฏิบัติได้อย่างสร้างสรรค์
1 ปีที่ผ่านมากับการเรียนรู้การดูแลตัวเองเมื่อครั้งที่ได้ไปเข้าค่ายเบาหวานครั้งแรกกับโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ฉันพบว่าค่ายเบาหวานเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพที่ได้ผลจริงๆ ที่สำคัญเป็นการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและสามารถชะลอความรุนแรงของโรคเบาหวานได้ดีกว่าการรับประทานเบาหวานเสียอีก
ฉันพบความแตกต่างของผู้ป่วยเบาหวานที่รักษาโดยใช้ยา กับผู้ป่วยที่ผ่านการเข้าค่ายโดยเปรียบเทียบสภาพทั่วไป ความรู้สึก สมรรถภาพร่างกายของกลุ่ม กลุ่มเพื่อนครู และผู้ปกครองที่เป็นเบาหวาน แต่รักษาโดยยา กับกลุ่มของฉันที่รักษาโดยแพทย์ทางเลือกใหม่มีความแตกต่างกันในเรื่องการเลือกรับประทานอาหาร ผู้ป่วยกลุ่มแรกไม่นิยมคัดเลือกและวางแผนการรับประทานอาหาร ด้วยเชื่อมั่นว่า ยาจะทำให้ปัญหาที่ตามมาหมดไปโดยไว ต่างกับผู้ป่วยที่มีความรู้ทางโภชนาการ ที่สามารถควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีกว่า ความคงทนต่อการออกกำลังกาย เป็นอีกประเด็นที่เห็นได้ชัด
ผู้ป่วยที่ออกกำลังกายตามคำแนะนำของหมอ จะมีความแข็งแรง กว่าผู้ป่วยที่อาศัยยาอย่าเดียว และ เมื่อเล่นกีฬาด้วยกัน ผู้ป่วยที่ออกกำลังกายทุกวัน มีความคงทนต่อการออกกำลังกายสูงกว่า กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้ดีกว่า และมีความหย่อนยานของกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ป่วยที่พึ่งยา
ปัญหาของผู้ป่วยที่ไม่เห็นความสำคัญเรื่องการออกกำลังกาย ไม่ใส่ใจ ไม่ชอบจะมีสภาพจิตใจ ท้อถอย ปล่อยตามเวร ตามกรรม กลับยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอ ขาดวัฒนธรรมการดูแลตนเอง ต้องพึ่งยาตลอดเป็นผลให้อวัยวะที่เกี่ยวข้องทั้งปวงเสื่อมสภาพ โรคต่างๆ ก็จะเดินทางมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่เว้นแต่ละเพลา
ไปด้วยๆๆๆๆๆๆ
ตามไปดูแล้วค่ะ ขอแสงความยินดีด้วยค่ะ
และขอชื่นชมน้าอึ่งอ๊อบด้วยค่ะที่เมตตาเด็กๆให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน
-บังเอิญพี่เป็นผู้ป่วยที่เข้าตากรรมการ
-ไปด้วยกันไหมคะน้องนุข
-วันแรกๆที่เคยถูกควบคุมอย่างมีเทคนิค โดยนักโภชนาการ
-รู้สึกหิวเหมือนกัน
-แต่คุณหมอได้ให้คำอธิบายว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้อดอาหารเลย
-เราควบคุมไม่ให้ทานเกินกว่าที่ร่างกายต้องการเท่านั้นเอง
-หากทานมากไปร่างกายต้องทำงานหนัก
-และสารอาหารเหลือ ก็แปลสภาพได้ เป็นแป้ง เป็นไขมัน
-สะสมให้เราแฟ๊ทค่ะ
น้องป้าแดงมั่นใจมากเลยนะ
เดี๋ยวจองเตียงใกล้ๆกันไว้ให้..จะได้คุยกันให้หายคิดถึงเน๊อะ
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยม
แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่แวะไปให้กำลังใจอยู่เรื่อย ๆ
เลยได้เข้ามาดูกิจกรรมดีดี
ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยนะคะ และดำเนินกิจกรรมอย่างดีเยี่ยมค่ะ
มันยากตรงที่ใช้ปัญญากำกับความคิดนี่แหละครับ
ผมเองตอนนี้ก็มีปัญหาสุขภาพบางประการอยู่เหมือนกัน
มันยากตรงที่ตามใจตัวเองนี่แหละครับ
จู้ จู้ ค่า
^_^
สวัสดีค่ะ พี่ครูต้อย ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะ สบายดีนะคะ ตามหัวข้อ Sweetless มาค่ะ สงสัยว่าอะไรน๊า sweetless อ้อ ........เบาหวานนี่เอง
มาอวยพรช้าคงไม่ว่ากันนะคะ
May each day in this year be a good day and may all of your hopes turn to wishes and may all of your wishes come true. Happy New Year to You!
อรุณสวัสดิ์ค่ะ มาเยี่ยมยามเช้า ขอให้มีความสุขค่ะ
ขอบคุณน้องsmallman
ครูต้อยกลับมาเมื่อวานเย็นมากแล้ว ว่าจะตอบเพื่อนๆ แต่เพลียเพราะต้องเตรียมงานเป็นพิธีกรภาษาอังกฤษ และเข้ารับการอบรมด้วยในเวลาเดียวกัน ในวันอาทิตย์ที่11 คือพรุ่งนี้ค่ะ
สพท.สมุทรสาครจัดทำโครงการพัฒนาสรรถภาพการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโณงเรียนประถมฯ และขยายโอกาส
มีพี่ดร.นิสัย แก้วแสงชัย และทีมงานต่างประเทศมาช่วยดำเนินการในเรื่องการให้ความรู้และจัดกิจกรรม โดยมีเป้าหมายเน้น 15 % up ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ NT
ขออภัยตอบช้าไปหลายวัน
เป็นกำลังใจให้ออกกำลังกายทุกวันนะคะ วันละ 30 นาทีค่ะ
วิ่งขึ้นลงสำนักงานเขตก็ได้นะคะ ให้ได้ 30 นาทีค่ะ แรกๆจะเหนื่อยต่อไปจะดีมากๆ และต้องสมำเสมอค่ะ
จู้ จู้ ... งงค่ะ แต่อิอิไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เสร็จงานแล้วจะไปหา
หายสงสัยแล้วใช่ไหมคะ ....น้อง
สบายดีนะคะ
คิดถึงค่ะ
ยินดีเช่นกันค่ะ
ขอให้สุขภาพแข็งแรง ผ่านหนาวไปอย่างสบายๆ นะคะ
ลูกสาวมวยไทย อิอิ
สบายดีนะคะ
หนาวนี้ชกไปกี่ยกแล้ว
ครูต้อยอยากชกเป็นบ้างจังเลย
เมื่อสามวันก่อน จิตตก เกือบวางมวยกับคนรังแกเกน้อยในโรงเรียน
ดีที่ตั้งสติ ระงับได้ทัน
ไม่งั้นเสีย 500 บาท 55+
สวัสดีค่ะน้องสาว
ครูต้อยไปทำกิจกรรมเบาหวานมาสนุกมาก
และดีใจที่ได้ช่วยให้คุณลุงคุณป้า คุณย่า ในคณะผู้เข้ารับการอบรม
ลุกขึ้นมาสู้ และสนุกกับเบาหวาน แล้วจะเล่าให้ฟังค่ะ
กว่าจะตอบน้องตาลได้ เกือบ 1 อาทิตย์ วันนี้ วันพุธค่ะ
สบายดีนะคะ
หนาวนี้รักษาสุขภาพนะคะ
ออกกำลังกายสู้ภัยหนาวนะคะ