วันพุธตอนเย็นได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่นับถือท่านหนึ่ง ถึงข่าวการย้ายที่ทำงาน จากโรงเรียนที่อยู่ปัจจุบันไปยังโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าปีนี้จะได้ย้ายตามที่แจ้งไว้ในใบเขียนขอย้าย (เพราะเขียนย้ายติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีวี่แววสักทีนี่คะ) อืม...ความรู้สึกแปลกๆ..
นึกไปนึกมาก็ให้รู้สึกใจหาย ด้วยมีความผูกพันธ์กับนักเรียนกลุ่มจักรยานน้ำเก็บขยะ กลุ่ม Science Show แถมด้วยนักเรียนชั้นม.4/4 เป็นพิเศษ รวมทั้งนักเรียนทุกคนที่อยู่ในการกำกับดูแล ตลอดจนนักเรียนระดับชั้นอื่นๆ ที่กำลังเกิดแรงบันดาลใจจากกลุ่มนักเรียน 3 กลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น....
ผลการตอบรับทั้งที่ยังไม่ได้รับการ confirm จากผู้ที่มีอำนาจสั่งการ แต่ข่าวที่ครูแป๋มจะย้ายโรงเรียนได้แพร่กระฉ่อนไปทั่วอาณาบริเวณโรงเรียนเรียบร้อย มีทั้งโทรศัพท์มาสอบถาม มีทั้งการสอบถามโดยตรง และมีการฝากถามอีกด้วย...แต่ครูแป๋มก็ยังไม่สามารถยืนยันได้เต็มปาก ด้วยมีความรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป อีกทั้ง project ที่วางเอาไว้กับนักเรียนกำลังจะดำเนินไปได้สวยงามทีเดียว แต่ก็ต้องฝึกให้ทุกคนยอมรับกับเหตุการณ์ที่เราไม่อาจคาดคิด ที่อาจต้องพบอีกในอนาคต ครูแป๋มจึงตัดสินใจบอกตัวแทนของทั้ง3 กลุ่มเอาไว้ เพื่อให้เริ่มทำใจกับการที่จะต้องพรากจากกัน
กลุ่มจักรยานน้ำเก็บขยะตัดสินใจบอกกับต่อ กลุ่มScience Showตัดสินใจบอกกับต้น และกลุ่มม.4/4 บอกกับทราย นอกจากนั้นกลุ่มม.2/5 ซึ่งครูแป๋มเป็นที่ปรึกษาได้บอกทุกคนในชั่วโมง homeroom ม.4/2 ในชั่วโมงที่ครูแป๋มทำการสอน ตลอดจนทุกๆห้องที่สอนและได้รู้จักเป็นการส่วนตัว จะได้ค่อยๆรับรู้กันไป
ในที่สุดช่วงเช้าตอนพิธีเคารพธงชาติ ครูอาจารย์แต่ละท่านได้มาบอกกล่าว บ้างแสดงความยินดีที่จะได้ย้ายกลับบ้าน บ้างก็เสียใจที่จะขาดมิตรที่คุยกันถูกคอ บางคนรู้สึกเครียดที่ไม่ได้รับข่าวการย้าย แต่ก็ยอมรับกันในที่สุด. แต่นักเรียนสิคะ เริ่มจากนักเรียนที่ปรึกษาที่เช้านี้ปฏิบัติตัวดีเป็นพิเศษ กลุ่มจักรยานน้ำเก็บขยะก็รู้สึกว่าพยายามจะเก็บอาการ แต่ต้น ปรัชญาสิคะ อาการออกชัดเจน เช่นเดียวกับต้นและปูนทีม Science Show มารอหน้าบ้านพักครูพอเจอหน้ากันเท่านั้นแหละ ต้นและปูนปล่อยโฮโดยไม่ฟังอีร้าค้าอีรมเลย ต้องปลุกต้องปลอบกันใหญ่ แต่ยิ่งกว่านั้นตอนเย็นหลังเลิกเรียน นักเรียนไม่รู้มาจากที่ไหนต่อไหนมาออราวกับนัดหมายกัน แต่ละคนได้แสดงออกซึ่งความรู้สึกต่างๆกันออกไป แต่ก็เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเสียใจที่เข้าใจผิดเพราะคิดไปว่าครูแป๋มจะทิ้งพวกเขาไปเสียแล้ว....
โถ..ๆๆๆๆๆ เด็กหนอเด็ก หากครูได้ย้ายจริงๆ ก็ไม่น่าต้องห่วงครู เพราะเป็นการย้ายกลับภูมิลำเนา อีกทั้งโรงเรียนที่ว่าก็อยู่ไม่ไกลเกินไปที่เราจะไปมาหาสู่กัน เพียงแต่ต้องใช้เวลานานขึ้นเท่านั้นเอง แต่จะว่าไป ครูแป๋มเองนั่นแหละที่รู้สึกใจหายมาก่อนหน้าเด็กๆแล้วตั้งหลายเท่า ผ่านการน้ำตาซึมมาก็หลายครั้ง แต่ด้วยเหตุผลบางประการบอกเลยว่า "จำเป็น" ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ขอตัวไปเช็ดน้ำตาให้กับตัวเองและเด็กๆก่อนะคะ
ขอให้กำลังใจครับ คุณครูแป๋ม :)
สวัสดีค่ะ คุณwasawat
ขอรับไว้สำหรับกำลังใจดีดีแบบนี้ ขอบคุณค่ะ
เรียน ท่านsuwimolค่ะ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่แวะมาทักทาย กับความผูกพันธ์ของครูและเด็ก ยากนักที่จะลืมเลือน แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ไปอยู่ที่ไหน ความผูกพันธ์ก็จะเกิดขึ้นในทุกที่ที่เราไป และจะขอกลับไปพัฒนาบ้านเกิดดังที่ท่านแนะนำนะคะ....
สวัสดีตอนเที่ยง ครับคุณครูแป๋ม
แวะมาเยี่ยมนะครับ
การจากกัน สำหรับผม มีความรูสึกไม่เหมือนกันนะ
ผลที่ทำไว้ดีนี่แหละครับ เห็นผลทันตากับเด็กๆ
ขอเลือกทั้ง 2 แบบได้ไหมคะ คุณ ท. ณเมืองกาญจน์
สวัสดีค่ะ ท่านวิชชา
เศร้าทั้งครูและเด็กๆ ค่ะท่าน..
สัญญาไม่ทิ้งกัน...ครูจะมาหา
ไม่ก็...พวกเขาจะไปหาครูสุดสัปดาห์ค่ะ.
ขอบคุณที่แวะมาเสริมแรงใจนะคะ
อาจารย์ครับ นึกถึงตอนนี้ทีไร ใจหายทุกทีเลยครับ
ตอนนี้ ตอนที่ผมกำลังอ่านอยู่ ผมยังรู้สึกเศร้าใจอยู่เลย
รักอาจารย์ ครับ
ต้นเด็ก science show
มองภาพนี้ทีไร..ครูแป๋มอมยิ้มทุกทีเลยต้น
ผม ก็เคย จากกับเพื่อนเหมือนกันครับ มัน อยากพูดออกมาว่า กูรักมึง! ขอให้กำลังใจ ครับ ลาก่อนนะ โย เพื่อนรัก
เป็นกำลังใจให้คุณการจากกันด้วยนะคะ ทุกสิ่งจะเก็บไว้ในความทรงจำที่ดีงามค่ะ