ตีพิมพ์ใน...1)หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2548 2)วารสารเทคโนโลยี (สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น) ปีที่ 33 ฉบับ 185 กุมภาพันธ์-สิงหาคม 2549 หน้า 126-128
ถ้าพูดถึงละครทีวีที่มีเรดติ้งสูงเรื่องหนึ่งในขณะนี้
คงไม่พ้นละครของเกาหลีเรื่องแดจังกึม
ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนแรกของเกาหลีที่ทำหน้าที่เป็นแพทย์หลวงรักษาพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์
Joseon
และเป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมประเพณีภายในราชสำนักของเกาหลีที่สืบทอดกันมายาวนาน
ผู้ชมแต่ละคนอาจเกิดแง่คิดจากละครเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป
สำหรับมุมมองของผมเห็นว่าละครเรื่องนี้สามารถสะท้อนให้เกิดแนวคิดในการปฎิรูปการศึกษาของบ้านเราได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะบทบาทของตัวละคร 3 ตัวที่อยู่ในหัวใจผม กล่าวคือ
แดจังกึม ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง
นับเป็นผู้เรียนที่เพียบพร้อมทั้งความเก่ง ความดี
และมีทักษะในการดำรงชีวิตที่เหมาะสม
เป็นแบบอย่างของผู้ที่หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองจนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
ด้วยนิสัยที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ชอบอ่านหนังสือ ช่างสังเกต ช่างจดจำ
ทั้งๆที่เธอมีโอกาสในการศึกษาด้อยกว่าคนอื่นๆ
แต่เธอก็มีความมุ่งมั่นพยายาม สั่งสมประสบการณ์ สร้างองค์ความรู้
แสวงหาโอกาสการเรียนรู้ทั้งจากพ่อแม่ ครู ภูมิปัญญา
และแหล่งเรียนรู้ต่างๆในทุกแห่งที่เธออาศัยอยู่ ทั้งที่บ้านเกิดในชนบท
ในวังหลวง และแม้แต่ตอนถูกขับไปอยู่ในเขตทาเจที่ทุรกันดาร
เธอก็มีความอดทน ไม่ท้อแท้
หาโอกาสเรียนรู้วิชาแพทย์จากชองอุนแปแพทย์ฝีมือดีจากวังหลวง
และสามารถคิดค้นปลูกพืชสมุนไพรที่หายากและราคาแพงในเขตทาเจได้สำเร็จ
เธอสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า
การปรุงอาหารให้ดีเลิศนั้น
ไม่ได้อาศัยความรู้เพียงแค่ในตำราการปรุงอาหารอย่างเดียว
แต่ต้องมีความรู้เรื่องสมุนไพร ด้านการแพทย์ และด้านอื่นๆด้วย
จึงจะสามารถพลิกแพลงประยุกต์ใช้ความรู้ได้อย่างบูรณาการ
แม้เธอจะถูกกลั่นแกล้งสารพัด
แต่ก็สามารถใช้ความเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่คับขันได้ในทุกเรื่อง
เช่น การเอาถ่านไม้ใส่ในไหซีอิ้ว
ใช้น้ำส้มสายชูดับกลิ่นเปรี้ยวฉุนของซีอิ้วให้หายไปและทำให้มีรสกลมกล่อมยิ่งขึ้น
การใช้ผักกาดห่อหมั่นโถแทนแป้งบะหมี่ที่เธอทำหาย
โดยสามารถให้เหตุผลได้ว่า ผักกาดช่วยการย่อยอาหาร สร้างภูมิคุ้มกัน
และช่วยในการขับถ่าย เธอสามารถชิมรสการผัดเนื้อและบอกได้ว่า
ไม่ได้ใช้น้ำตาลทรายแต่ใช้ลูกพลับ โดยให้เหตุผลว่า
ลูกพลับมีรสหวานกลมกล่อมกว่าน้ำตาล มีสรรพคุณป้องกันโรค
และช่วยให้สร่างเมาได้ด้วย
นอกจากนี้เธอยังสามารถค้นหาสาเหตุอาการประชวรขององค์ชายที่หมอหลวงก็ยังไม่ทราบสาเหตุ
โดยไปขอหนังสือจากมินจุงโฮ (พระเอก)
เกี่ยวกับตำราสมุนไพรมาอ่าน จนพบว่าองค์ชายเสวยน้ำมันชนิดหนึ่งเข้าไป
ถ้าร่างกายรับน้ำมันนี้เข้าไปมากจะทำให้ร่างกายหมดสติ
และยังเสวยน้ำโสมเข้าไปเป็นตัวเร่งทำให้แสดงอาการประชวรมากขึ้นด้วย
เป็นต้น
ยังมีตัวอย่างที่แสดงความเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ของแดจังกึมให้เห็นอีกมากมาย
ท่านที่ติดตามดูละครคงได้เห็นแล้ว นอกจากความเก่ง ความฉลาดแล้ว
เธอยังเป็นผู้ที่มีน้ำใจที่ดีงาม
ชอบช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน
จนบ่อยครั้งที่เธอต้องรับความเดือดร้อนไปเสียเอง ความกตัญญูต่อพ่อแม่
ผู้อุปการะเลี้ยงดู และครูอาจารย์เธอก็มีเพียบพร้อม
เห็นได้จากการเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้มีบุญคุณต่อเธอทุกคนด้วยความจริงใจ
เธอนำบทเรียนในอดีตที่ตนเองทำให้พ่อแม่เดือดร้อนมาเป็นข้อเตือนใจไม่ให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด
เป็นต้น
ฮันซังกุง
เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่ผมยอมรับว่าเป็นครูมืออาชีพ
เธอเป็นหัวหน้าแม่ครัวในวังหลวงที่มีฝีมือยอดเยี่ยมในการปรุงอาหารคนหนึ่ง
เธอมีวิธีอบรมสั่งสอนศิษย์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มีความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์พื้นฐานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
เช่นการทดสอบความอดทนของแดจังกึมด้วยการให้รินน้ำให้ดื่มอยู่หลายวันโดยไม่บอกเหตุผล
แล้วจึงสอนและฝึกทักษะตามพื้นฐานของผู้เรียน
เธอจะสอนให้ผู้เรียนแน่นและแม่นในองค์ความรู้ก่อนที่จะสอนการปรุงอาหาร
เช่น การให้จังกึมไปเก็บผักที่ภูเขามาให้ครบ 100 ชนิด
และให้บอกประโยชน์ของผักแต่ละชนิดด้วย
ระหว่างสอนก็มีวิธีเสริมแรงให้ผู้เรียนมุ่งมั่นเอาใจใส่
เธอจะมีบุคลิกที่เคร่งขรึม ไม่พูดมาก
วางตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการรักษาระเบียบวินัยของวังหลวง
จนเป็นที่เกรงใจของศิษย์
แต่โดยส่วนลึกของจิตใจเธอเต็มเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาต่อศิษย์
และมีจิตใจที่ดีงามกับทุกคน
เธอเป็นครูที่มีความเฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ช่างสังเกต เช่น
เมื่อเห็นคนขายปลาซึ่งตาบอดสามารถบอกรายละเอียดของปลาได้อย่างแม่นยำโดยใช้มือจับและดมกลิ่น
ก็ทำให้เธอเกิดแนวคิดนำมาฝึกแดจังกึมที่สูญเสียประสาทลิ้น
ให้สามารถปรุงอาหารโดยใช้ประสาทสัมผัสอื่นแทนการชิมรสได้สำเร็จ
เป็นต้น
ชองซังกุง
เป็นตัวละครที่ผมอยากจะฟันธงว่าเป็นผู้บริหารมืออาชีพ
ที่เจริญก้าวหน้าจนขึ้นมาเป็นซังกุงสูงสุดโดยอาศัยการพัฒนาความรู้ความสามารถด้วยตนเองมาเป็นลำดับ
เมื่อเป็นซังกุงสูงสุดก็บริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ละเลยที่จะทำหน้าที่เป็นครูสอนนางกำนัล
ไม่บริหารงานโดยการ “เห็นชอบมอบผู้ช่วย”
เหมือนกับผู้บริหารหลายคน
งานใดที่เธอเห็นว่ามีความสำคัญก็จะลงมือทำด้วยตนเอง
เช่นการจัดทำของเสวยสำหรับพระมหากษัตริย์ เป็นต้น
เธอจึงเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าจุงจง
แต่เธอก็ไม่ได้ใช้ความพอพระทัยของเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจ
หรือความก้าวหน้า ให้แก่ตนเอง เครือญาติ หรือพวกพ้อง
เหมือนกับผู้บริหารหลายคน
เธอเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
รักษาเกียรติศักดิ์ศรีของผู้บริหาร
เมื่อรู้ว่าตนเองเจ็บป่วยหย่อนสมรรถภาพ
ก็แสดงความจำนงขอลาออกจากตำแหน่งเองโดยไม่ต้องให้ใครมาปลด
นอกจากนี้เธอยังมีความกล้าทางจริยธรรม
เมื่อเห็นประเพณีใดไม่เหมาะไม่ควร ก็กล้าที่จะคัดค้าน อย่างมีสติ
โดยใช้ความชาญฉลาดของตนเองและความโปรดปรานของพระมหากษัตริย์เป็นแนวทางในการเสนอให้มีการคัดเลือกซังกุงสูงสุดจากการใช้ศักยภาพที่แท้จริง
เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในอิทธิพลของระบบเส้นสายจากซังกุงปกครองเพียงผู้เดียว
ซึ่งเป็นการให้โอกาสและจูงใจให้ทุกคนมีความหวังและหมั่นฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ความสามารถ
เป็นต้น
ตัวละครอื่นๆแม้จะแสดงบทร้ายแต่ก็ให้แนวคิดแก่เราได้ไม่น้อย เช่น
คนอย่างซังกุง ปกครอง ที่ลุแก่อำนาจ
เล่นพรรคเล่นพวก เห็นแก่สินบน
ก็ควรต้องหาทางป้องกันอย่าให้ขึ้นมามีอำนาจเป็นผู้บริหาร
การคัดเลือกคนที่มาเป็นครูก็ต้องสรรหาคนที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู
ไม่มีอคติต่อศิษย์
ไม่มุ่งสร้างความก้าวหน้าในตำแหน่งและวิทยฐานะด้วยวิชามารและการประจบสอพลออย่างแชซังกุง
และการจัดการศึกษาก็ต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้านความเก่ง
ความดี มีคุณธรรมน้ำใจ มีทักษะในการดำรงชีวิต
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถทำให้ผู้เรียนที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ
เฉลียวฉลาด แต่ถูกครอบครัวหล่อหลอมให้เป็นคนเจ้าเล่ห์อย่าง
แชกิมยอง
ได้รับการอบรมกล่อมเกลาด้านคุณธรรมจริยธรรม เติมเต็มในสิ่งที่เธอขาด
ให้เป็นบุคคลที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนของความเป็นมนุษย์
ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
ที่มีทั้งความเก่งและความดีอย่าง แดจังกึม
ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถสรรหาและพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ
ได้อย่าง ฮันซังกุง
และทำอย่างไรเราจึงจะสามารถคัดเลือกคนมาเป็นผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพได้อย่าง
ชองซังกุง
…เป็นบทสรุปที่หน่วยงานทางการศึกษาต่างๆ
น่าจะนำไปคิดหาคำตอบ…
--------------------------------------
ธเนศ
ขำเกิด [email protected]