สวัสดีค่ะ
วันนี้ พ่อต้องผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวร (permanent pacemaker) แล้วค่ะ
ขอศึกษาดูหน่อยนะคะ ว่าคืออะไร
เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวร
(permanent pacemaker)
เป็นการผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ โดยวิธีการผ่าตัดเข้าทางหลอดเลือดดำบริเวณหน้าอกระหว่างกระดูกไหปลาร้ากับราวนม หรืออาจฝังทางหน้าท้องก็ได้ แล้วสอดสายสื่อเข้าไปตามหลอดเลือดดำจนถึงตำแหน่งของห้องหัวใจที่แพทย์ต้องการ ปลายสายสื่อจะไปสัมผัสกับผนังด้านในของหัวใจ ส่วนตัวกำเนิดสัญญาณไฟฟ้าจะฝังอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณทรวงอกด้านบน โดยแพทย์จะควบคุมการเต้นของเครื่องให้เหมาะสมกับการเต้นของหัวใจในผู้ป่วยแต่ละราย จุดประสงค์เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานด้วยอัตราการเต้นตามปกติ
ส่วนประกอบของเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวร
1. ตัวเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Pulse generator) ลักษณะเป็นกล่องโลหะปิดสนิท
ทุกด้าน เบาแต่แข็งแรง ไม่เป็นแม่เหล็ก ข้างในเป็นสูญญากาศ ส่วนใหญ่
ทำจากโลหะไททาเนียม (titanium) หรือเป็น stainless steel มีฉนวนหุ้ม
ด้านนอกป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้ารั่วสู่ภายนอกและเพื่อป้องกันน้ำในร่างกาย
ซึมเข้าภายในเครื่อง
2. แบตเตอรี ปัจจุบันใช้ลิเทียม ไอโอไดด์ ( lithium iodide) มีขนาดเล็ก อายุ
การใช้งานประมาณ 7 – 10 ปี
3. วงจรภายในเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวรประกอบด้วย
timing circuit ควบคุมอัตราการเต้น
output circuit ชาร์ตและปล่อยกระแสไฟฟ้า
sensing circuit รับสัญญาณ
4. สายสื่อ (lead) คือ สายต่อที่เป็นสื่อนำสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเครื่อง
กระตุ้นไฟฟ้ากับหัวใจ ส่วนใหญ่เป็นโลหะผสมแพลตินัม (platinum) เนื่อง
จากคงทนไม่สึกกร่อน เป็นสื่อนำไฟฟ้าที่ดีและเข้ากับร่างกายได้ดี ปลาย
สายสื่อข้างหนึ่งจะสัมผัสกับหัวใจ อีกข้างหนึ่งต่อกับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
สายสื่อแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
4.1 สายสื่อชนิดสองขั้ว (bipolar electrode) มีทั้งขั้วบวกและขั้วลบอยู่
ตรงปลายที่สัมผัสกับหัวใจ ขั้วลบจะอยู่ปลายสุด ถัดขึ้นมาเป็นขั้วบวก
4.2 สายสื่อชนิดขั้วเดียว (unipolar electrode) ที่ปลายสายมีเพียงขั้วลบ
ส่วนขั้วบวกจะอยู่ที่เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า
ชนิดของการทำงานของเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
แบ่งเป็น 2 ชนิด
1. แบบกำหนดอัตราเร็วคงที่ (fixed - rate mode หรือ asynchronous mode) เครื่องจะเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าออกมาช่วยการเต้นของหัวใจตลอดเวลา ด้วยอัตราที่เท่ากันตลอดไม่ว่าผู้ป่วยจะมีอัตราการเต้นของหัวใจตนเองมากน้อยเพียงใด มีข้อเสีย คือ เกิดหัวใจ เต้นผิดจังหวะได้ง่าย
2. แบบอัตโนมัติทำงานสัมพันธ์กับกระแสไฟฟ้าภายในหัวใจ (demand pacemaker) เครื่องจะไม่ทำงานจนกว่าอัตราการเต้นของหัวใจผู้ป่วยช้ากว่าที่เครื่องกำหนด เนื่องจากมีระบบรับสัญญาณเพิ่มในตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อรับสัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยเองได้แล้ว ก็จะยับยั้งไม่ให้มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้นหัวใจ โดยสายสื่อมีหน้าที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าและรับสัญญาณคลื่นไฟฟ้า (R wave) ของผู้ป่วย เมื่อได้รับสัญญาณก็จะส่งกลับไปที่การรับสัญญาณของตัวเครื่องเพื่อยับยั้งไม่ให้ปล่อยกระแสไฟออกมากระตุ้น ข้อดี คือ ส่งกระแส ไฟฟ้าไปกระตุ้นหัวใจเท่าที่จำเป็น และไม่แย่งชิงจังหวะการเต้นกับของผู้ป่วย
Code ของเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจชนิดถาวร
ประกอบด้วย 5 ตำแหน่ง มีชื่อเรียกย่อๆว่า NBG Code (สุรพันธ์ สิทธิสุข ; 2545:120 -121)
ตำแหน่งที่ 1 แสดงถึงห้องหัวใจที่ถูกกระตุ้น
A หมายถึง หัวใจห้องบน (atrium)
V หมายถึง หัวใจห้องล่าง (ventricle)
D หมายถึง หัวใจทั้ง 2 ห้อง
ตำแหน่งที่ 2 แสดงถึงห้องหัวใจที่เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
สามารถรับสัญญาณจากผู้ป่วย
O หมายถึง ไม่มีการรับสัญญาณจากผู้ป่วย นั่นคือ เครื่องกระตุ้น
หัวใจทำงานแบบกำหนดอัตราเร็วคงที่
A หมายถึง หัวใจห้องบน
V หมายถึง หัวใจห้องล่าง
D หมายถึง หัวใจทั้ง 2 ห้อง
ตำแหน่งที่ 3 แสดงถึงการตอบสนองของเครื่องต่อสัญญาณที่ได้รับจาก
หัวใจผู้ป่วย
I หมายถึง inhibited mode เมื่อเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
ได้รับสัญญาณจากภายในหัวใจผู้ป่วย จะยับยั้งการ
ปล่อยกระแส ไฟฟ้าออกมากระตุ้น จากนั้นจะปรับเวลาและ
อัตราการเต้นใหม่ในรอบต่อไป
T หมายถึง triggered response เมื่อเครื่องกระตุ้นการเต้นของ
หัวใจได้รับสัญญาณจากภายในหัวใจผู้ป่วย ก็จะปล่อย
กระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้น
D หมายถึง dual response มีทั้ง inhibited และ triggered
response
ตำแหน่งที่ 4 แสดงถึงว่าเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจสามารถที่จะ
ถูกปรับค่าต่างๆ ตามที่แพทย์ต้องการ
O หมายถึง การทำหน้าที่ต่างๆ ของเครื่องไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
P หมายถึง มีค่าอยู่ 1-2 ค่า ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยใช้โปรแกรม
ทั่วไป คือ ค่าของอัตราเร็วและปริมาณกระแสไฟฟ้า
M หมายถึง เครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายค่าโดยใช้โปรแกรม
C หมายถึง เครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องโปรแกรมได้ โดย
ทั่วไปหมายถึง เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจมีความ
สามารถในการเก็บบันทึกข้อมูลได้
R หมายถึง เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดที่สามารถปรับอัตราการปล่อย
กระแส ไฟฟ้าออกมากระตุ้นได้ตามกิจกรรมของผู้ป่วย
ขณะนั้นๆ
ตำแหน่งที่ 5 แสดงถึงการทำหน้าที่แก้ไขภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
O หมายถึง ไม่สามารถทำหน้าที่แก้ไขภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
P หมายถึง สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้นกรณีเกิดหัวใจ
เต้นผิดจังหวะ
S หมายถึง สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมากระตุกหัวใจกรณีหัว
ใจเต้นผิดจังหวะชนิด VT หรือ VF
D หมายถึง สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้น,
หัวใจและกระตุกหัวใจถ้าหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ตัวอย่าง เช่น
DDDR หมายถึง เครื่องจะกระตุ้นหัวใจทั้งห้องบนและห้องล่าง หัวใจทั้ง 2 ห้อง สามารถรับและส่งสัญญาณได้ เป็นทั้งแบบส่งสัญญาณยับยั้งการปล่อยกระแส ไฟฟ้าและส่งสัญญาณให้เกิดการปล่อยกระแสไฟฟ้า และเครื่องสามารถปรับอัตราการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้สัมพันธ์กับกิจกรรมของผู้ป่วยขณะนั้นๆ
ชนิดของเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ (สมจิต หนุเจริญกุล,2541:58)
1. single chamber pacemaker หมายถึง การส่งสัญญาณไฟฟ้า
กระตุ้นการเต้นของหัวใจจะเกิดที่ห้องหัวใจห้องใดห้องหนึ่ง เช่น VOO
(ventricular asynchronous) จะกระตุ้นที่หัวใจห้องล่างแบบที่อัตรา
เร็วเท่ากันตลอด หรือ VVI (ventricular inhibit) จะมีการกระตุ้น
และรับสัญญาณจากหัวใจที่หัวใจห้องล่าง โดยจะยับยั้งไม่ให้สัญญาณ
ไฟฟ้าออกจากตัวเครื่อง ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจผู้ป่วยเร็วกว่าของ
เครื่อง แบบ VVI นี้มักนิยมใช้แพร่หลาย หรือ AAI (atrial
inhibit) จะมีการกระตุ้นและรับสัญญาณอยู่ที่หัวใจห้องบน หลักการ
ทำงานคล้ายแบบ VVI
2. dual chamber pacemaker หมายถึง การส่งสัญญาณไฟฟ้ากระตุ้น
การเต้นของหัวใจจะเกิดที่ห้องหัวใจทั้ง 2 ห้อง ช่วยให้การบีบตัวของ
หัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่างเป็นไปตามลำดับ ทำให้หัวใจห้องบนไล่
เลือดลงสู่หัวใจห้องล่างก่อนที่หัวใจห้องล่างจะบีบตัวเพื่อไล่เลือดไป
เลี้ยงร่างกาย ซึ่งทำงานใกล้เคียงกับการทำงานปกติของหัวใจ ใกล้
เคียงธรรมชาติมากที่สุด เช่น DVI ( AV sequential) จะกระตุ้นทั้ง
หัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่าง แต่รับสัญญาณที่หัวใจห้องล่างเท่านั้น
ถ้าหัวใจเต้นตามปกติสัญญาณจะถูกส่งจากหัวใจห้องล่างกลับไปยัง
เครื่องกระตุ้นหัวใจ ทำให้เครื่องไม่ส่งสัญญาณไฟฟ้าออกไป แต่ถ้าไม่
มีการบีบตัวของหัวใจห้องล่างก่อนกำหนดของเครื่อง เครื่องจะปล่อย
กระแสไฟฟ้าออกไปทั้งที่หัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่าง แต่ช่วงเวลาที่
กระแสไฟฟ้าส่งถึงหัวใจห้องล่างจะช้ากว่าหัวใจห้องบนเล็กน้อย เป็นผล
ให้มีการเต้นที่สัมพันธ์กัน หรือแบบ DDO (fully automatic
pacemaker) การทำงานคล้ายแบบ DVI แต่สามารถรับและส่ง
สัญญาณได้ทั้งหัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่าง
ข้อบ่งชี้ในการใส่เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวร
1. แบบกำหนดอัตราเร็วคงที่ (fixed-rate mode หรือ asynchronous mode)
เครื่องจะเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าออกมาช่วยการเต้นของหัวใจตลอดเวลา
ด้วยอัตราที่เท่ากันตลอดไม่ว่าผู้ป่วยจะมีอัตราการเต้นของหัวใจตนเองมาก
น้อยเพียงใด มีข้อเสีย คือ เกิดหัวใจ เต้นผิดจังหวะได้ง่าย
2. แบบอัตโนมัติทำงานสัมพันธ์กับกระแสไฟฟ้าภายในหัวใจ (demand
pacemaker) เครื่องจะไม่ทำงานจนกว่าอัตราการเต้นของหัวใจผู้ป่วยช้ากว่าที่เครื่องกำหนด เนื่องจากมีระบบรับสัญญาณเพิ่มในตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อรับสัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยเองได้แล้ว ก็จะยับยั้งไม่ให้มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมากระตุ้นหัวใจ โดยสายสื่อมีหน้าที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าและรับสัญญาณคลื่นไฟฟ้า (R wave) ของผู้ป่วย เมื่อได้รับสัญญาณก็จะส่งกลับไปที่การรับสัญญาณของตัวเครื่องเพื่อยับยั้งไม่ให้ปล่อยกระแสไฟออกมากระตุ้น มีข้อดี คือ ส่งกระแส ไฟฟ้าไปกระตุ้นหัวใจเท่าที่จำเป็น และไม่แย่งชิงจังหวะการเต้นกับของ
ผู้ป่วย
ขอขอบคุณสำหรับแหล่งข้อมูล
URL สำหรับเรื่องนี้คือ :
http://www.vajira.ac.th/kt/modules.php?name=News&file=article&sid=217
สวัสดีค่ะ พี่ไก่..ขอให้คุณพ่อพี่ แข็งแรงไวๆ นะคะ ลูกสาวหาข้อมูลแน่นปึกแล้วค่ะพี่ แต่การ care คงต้องมีประสบการณ์พิเศษ หน่อยนึงค่ะ
เพิ่งได้รับทราบรายละเอียดของเครื่องกระต้นหัวใจนะคะ
แล้วมีระยะเวลาของการทำงานไหมคะ..
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอเป็นสมาชิกด้วยคน คุณพ่อกำลังจะผ่าฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ
มีอะไรขอเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
ขอบคุณสำหรับแหล่งข้อมูลที่ได้ลงไว้เป็นวิทยาทานเป็นประโยชน์มากๆคะ
รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ คุณพ่อต้องเปลี่ยนกล่องหัวใจค่ะ รพ.ให้ไปตรวจเช็ดการทำงานของเครื่องพบว่าเครื่องหมดอายุการใช้งาน แต่บริษัทเจ้าของเครื่อง และพยาบาล บอกว่าให้รอคุณหมอติดต่อกลับ คุณพ่อเองบอกว่าหน้ามืด เป็นลมบ่อย และเกรงว่าคุณหมอจะไม่ติดต่อกลับ ทำไงดีค่ะขอคำแนะนำด่วนค่ะ (คุณหมอ รพ.ภูมิพล) ขอบคุณมากๆค่ะ
พี่ค๊ะ ถ้าผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ จะเสียค่าใช้จ่ายมากมั๊ยค๊ะ ท่านเป็นพระสงฆ์ค่ะ จะพาไปรักษาที่ขอนแก่น
กรณีที่ได่รับการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ และปอดทะลุในขั้นตอนการผ่าตัด เป้นความผิดของใคร แพทย์สามารถป้องกันได้ไหม โรงพยาบาลควรรับผิดชอบหรือไม่อย่างไร ขอขอบพระคุณล่วงหน้า
เมื่อ อ. 16 ธ.ค. 2551 @ 09:42