สมน้ำหน้า !


... คำเดียวที่อยากตะโกน บอกลูกหลานไทยทั้งแผ่นดินคือ " สมน้ำหน้า "

    *      มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ จะดำรงชีวิตอยู่ได้ก็ต้องปรับตัวให้กลมกลืนและมีสมดุลกับธรรมชาติ

    *      คนไทยในอดีต คือตัวอย่างที่ดีในเรื่องดังกล่าว ชีวิตของคนไทยจึงสงบสุขและร่มเย็น เพราะเราเป็นมิตร เป็นเพื่อนเกลอกับธรรมชาติ   บรรพบุรุษเราไม่เคยอวดเก่งที่จะข่มเหง เอาชนะ และทำลายล้างธรรมชาติเช่นปัจจุบัน กระทบกระทั่งกันบ้าง ก็ไม่รุนแรง เหมือนเพื่อนเกลอที่หยอกล้อกันเล่นตามฤดูกาล

     *     มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่ง ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ในเขตที่ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงรุนแรง ซึ่งก็มีผลดีคือทำให้พวกเขามีคุณลักษณะที่ดีติดตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง   ความอดทน  ขยัน  มีวินัย   รวมกลุ่มรวมพลังกันทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ   จนกระทั่งพัฒนาความคิด ก้าวล้ำไปเป็นความหลง ว่ามนุษย์อย่างพวกตนนี่แหละ คือผู้ยิ่งใหญ่ที่จะเอาชนะอะไรก็ได้ แม้แต่ธรรมชาติ ( สหายผู้สร้างความแกร่งกล้าให้พวกเขา )   การบุกกระหน่ำ ขัดขวาง และทำลายล้างธรรมชาติก็เริ่มขึ้น และดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง    เร่าร้อน และรุนแรง ด้วยแรงขับภายในจิตใจที่ปลอดจากความมีมนุษยธรรม แต่เจือ หรือพอกไว้ด้วยกระแสแห่ง วัตถุนิยม และ บริโภคนิยม อย่างเหนียวแน่น
                     

      *      ผลเป็นอย่างไร ครับท่าน? เดือดร้อน วุ่นวาย ทุกข์ทรมานเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ใช่ว่าพวกเขาหรอกนะ ที่กำลังได้รับ เคราะห์กรรมที่รุนแรง   กลับกลายเป็นว่าพวกเรานี่แหละที่โดนหนักกว่า   แท้จริงก็ยุติธรรม และสมเหตุสมผลดีแล้ว    ก็อยากโง่   หลงตามเขาไปนี่ครับ   ช่วยไม่ได้จริงๆ   ถ้าผมเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษไทย    ที่สามารถกลับฟื้น คืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้ง ณ วันนี้ คำเดียวที่อยากตะโกน บอกลูกหลานไทยทั้งแผ่นดินคือ    " สมน้ำหน้า "

 

หมายเลขบันทึก: 22865เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2006 04:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน 2012 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
     ยอม! รู้ตัวแล้วครับอย่ามาซ้ำเติมกันอีกเลย จะแก้ตัวใหม่ครับ ท่าน (บรรพบุรุษ) จะมาช่วย...ไหม

   ตื่นเร็วจัง 

เมื่อยอมก็ดีแล้ว  เดี๋ยวจะจับมือกับเหล่าสหายที่ Blog gotoknow มาช่วยกันเท่าที่เรี่ยวแรงและสติปัญญาจะเอื้ออำนวย  คุณอนุชาคนหนึ่งล่ะที่หมายตาไว้นานแล้ว  คิดว่าคุณ ชายขอบ คงรู้จักเขาดีที่สุด

  • ตื่นนานแล้วครับ...ชาวปกากะญออนุรักษ์มานานแล้วแต่คนทั่วไปไม่เข้าใจ
  • ทำอย่างไรจะปลุกระดมให้เยาวชนเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากกว่านี้
  • ขอไปด้วยคนสิครับ กางหลางอยู่แล้ว

     ยิ้ม ๆ แบบอมยิ้ม ผมนะรู้จักดีเลยกับคุณอนุชา แต่ลึก ๆ ในใจก็ไม่แน่ใจนักครับ ประมาณว่าตนเองก็ยังไม่รู้ จะไปรู้เพื่อนเขาได้อย่างไร...ครับ

     ทั้งผมและคุณอนุชา (ตอบแทนซะเลย) จะยินดีครับ ช่วยกันเท่าที่เรี่ยวแรงและสติปัญญาจะเอื้ออำนวย ยินดีมาก...จริงนะครับ

     ไปไหนไปกันอยู่แล้วมิใช่หรือ  ไม่น่าจะมีปัญหา  ได้ อ.ขจิตมาอีกคนก็แจ๋วเลย  ว่าแต่ภาษาต่างประเทศที่แต้มแถบแดงไว้น่ะ น่าจะมาทำความกระจ่างให้ท่านอื่นได้เข้าใจด้วย  ผมรู้แต่ว่า ..กางหลาง = kanglaang  ในภาษาอังกฤษ แต่เปิด Dict. เล่มไหนก็ไม่เจอคำอธิบาย  อ.ขจิตต้องช่วยแล้วล่ะ
  • กางหลางเป็นภาษาใต้ ให้พี่อนุชาอธิบายให้ดีไหม รู้สึกเพื่อนๆแถวพัทลุงใช้
  • ถ้าทายไม่ผิดแปลว่า บ้าๆ บอๆ

     (ยิ้ม) จะว่าไปก่อนรอบนึงแล้ว ก็นึกเกรงใจคุณขจิตอยู่ หากได้รับเกียรติเช่นนี้ ก็จะสนองครับเอาตามที่ใช่เลยใช้ ๆ กันอยู่ ไม่ขอเปิดตำรานะครับ

    "กางหลาง" = คนไม่มีควาญ = ไม่อยู่ในระบบระเบียบอะไรเลย แต่ไม่ใช่นอกกรอกนะ ประมาณว่าหากเห็นเป็นกรอบชอบที่จะฉีก แต่ไม่ค่อยมีเหตุผล (เชิงสังคม) ว่าฉีกทำไม หากจะมีก็แต่เหตุผล (เชิงตนเอง) ที่สำคัญคนที่กางหลางจะหาคนไปพูดให้รู้เรื่องด้วยได้น้อย (ไม่มีควาญ) แม้แต่พ่อแม่ตนเอง 

     ยังมีคำที่คล้าย ๆ กันแต่เบากว่าเช่น "พาโล", "จั้งกั้ง", "ผ่าเหล่าผ่ากอ (Mutation)", เปร้อจังหูเหม็ด,...

     ตัวอย่างประโยคที่ใช้พูด เช่น "ไอ้มือนั่น! กางหลางไม่ปันไค แล้วชาดไม่ลงไคเลย เปร้อจริง ๆ ลูกไคที" แปลความเป็นภาษากลางได้ว่า "หนุ่มคนนั้นเป็นคนดื้อมาก ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ในสังคม ไม่ยอมลดราวาศอกให้ใครเลย นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย ไม่ทราบเป็นลูกของใคร พ่อแม่ชื่ออะไร" ทำนองนั้นครับ

    เอาไปเลย เต็ม 100 ชัดเจนครบถ้วนกระบวนความครับ ตกลง คุณขจิตบอกว่าตัวเอง กางหลาง ไมเป็นไร แต่ถ้าคุณชายขอบเที่ยวประกาศว่าคุณขจิต กางหลาง คงเป็นเรื่องแน่ จะว่าไป ความกางหลางที่พอดี ทำให้สังคมอยู่รอดนะ
  • ขอบคุณพี่อนุชามากครับ ชัดเจนมาก
  • ชอบประโยคนี้ครับ "ไอ้มือนั่น! กางหลางไม่ปันไค แล้วชาดไม่ลงไคเลย เปร้อจริง ๆ ลูกไคที"
  • ผมว่าภาษาใต้ น่าสนใจมาก แค่คำว่า เล็ก ก็สามารถอธิบายได้มากมาย พี่พินิจอยากทราบไหมครับ พี่อนุชา อธิบายละเอียดมาก
  • ไม่ได้ฟังภาษาใต้มานานเกือบ 10 ปี ยังรักภาษาใต้+คนใต้เหมือนเดิมครับ

ขอเป็นคนไทยในอดีตมาเกิดอีกคนนะคะ

แต่มาเกิดช้ากว่า อาจารย์นานมากแค่นั้นเองค่ะ

คารวะ

     เล็ก หรือ น้อย หรือ ไม่มาก (มักจะใช้ปน ๆ กันไป) = เอียด, หีดหุ้ย, เต็ดหนึง, หีดหนึง, สกเส็ก, ... (มีอีกมาก) เกรงว่าจะออกนอกเรื่องบันทึกนี้ไป เอาเป็นว่าผมจะพยายามเขียนให้ได้วันละคำ น่าจะดี

คุณชายชอบ

ภาษาใต้วันล่ะคำหรือค่ะ  งั้นจะมาเรียนทุกวันนะคะ คุณอนุชา

  • ขอบคุณพี่อนุชามากครับ
  • เปิด blog ภาษาใต้วันละคำนะครับ
  • ผมจะเข้ามาเรียนทุกวันเลยครับ
  • อยากเรียน ...อยากเรียน ยิ้ม...ยิ้ม...

   ความจริงเคยนำเสนอบันทึกนี้ไว่ที่ pantip.com นานแล้วครับ  บังเอิญไปค้นเจอคำตอบของพี่ชายแท้ๆคือคุณ Augustman เลยขอมาวางต่อให้อ่านกันอีกหน่อยครับ ..

  พี่บอกว่า  "ร่วมแจม  ด้วยกลอนก็แล้วกัน นะ"

     ยุควัตถุ - นิยม เรืองอำนาจ
ยุคที่ขาด ไตร่ตรอง ไม่มองหลัง
ยุคที่มุ่ง พัฒนา ไม่ระวัง
ยุคที่คลั่ง เทคโนฯ โอ้ ..อนิจจา

แม้โลกเรา จะก้าวหน้า สักเพียงใด
หากมองให้ ลึกซึ้ง ถึงปัญหา
ความสะดวก สบาย ที่ผ่านมา
ล้วนฉาบทา เพียงผิวนอก ไว้หลอกกัน

คิดให้ดี ทุกวันนี้ ไม่มีสุข
มีความทุกข์ โทษภัย ใหญ่มหันต์
สิ่งแวดล้อม ถูกทำลาย ลงทุกวัน
คำด่า "สมน้ำหน้ามัน" ดูสะใจ

จากคุณ : Augustman

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท