ไตรโคเดอร์ม่าเชื้อรายอดฮิตกับการผลิตและการนำไปใช้
ปัจจุบันพี่น้องเกษตรกรได้ให้ความสนใจในการผลิตขยายและใช้สารชีวภาพในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชมากขึ้น โดยเฉพาะเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (Trichoderma spp) ที่มีความโดดเด่นและสำคัญขึ้นมาทันที โดยมีคุณสมบัติในการควบคุมเชื้อราสาเหตุของโรคหลายชนิด เช่น ป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าของไม้ผลไม้ยืนต้น ป้องกันโรคเน่าระดับดินของพืชผักหลายชนิด ป้องกันโรคเหี่ยวของพืชไร่ไม้ผลพืชผักไม้ดอกไม้ประดับ ป้องกันโรคเมล็ดเน่าของพืชผัก โรครากเน่า โรคโคนเน่าของไม้ผล ป้องกันโรคเหี่ยวโรคโคนเน่าของผักหลายชนิด เชื้อราไตรโครเดอร์ม่าชอบดินชื้นแต่ไม่แฉะ สภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินที่เหมาะสม คือ PH 5.4 – 6.5 ไม่เป็นอันตรายกับคนและศัตรูธรรมชาติ ประสิทธิภาพในการควบคุมโรคสูง และพี่น้องเกษตรกรสามารถผลิตใช้เองได้
วัสดุอุปกรณ์ในการผลิต
1. เมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือก
2. ถุงพลาสติก ทนความร้อน ขนาด 6 x 12 นิ้ว
3. หัวเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า
4. คอขวดพลาสติกและยางวง , สำลี , กระดาษหนังสือพิมพ์ , ใยฝ้าย
5. แอลกอฮอล์ล้างแผล 70% และเอทนิลแอลกอฮอล์ 95%
6. ตู้เขี่ยเชื้อ
7. อุปกรณ์หม้อนึ่ง และเตาแก็ส
การผลิตขยายเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า
1. นำเมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือกประมาณ 80 กิโลกรัม มาล้างให้สะอาด แล้วแช่
น้ำไว้ประมาณ 12 – 24 ชั่งโมง
2. นำเมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือกที่แช่น้ำแล้วไปต้มพอเดือด (ประมาณ 15 นาที)
แล้วตักออกผึ่งบนตะแกงให้แห้งพอหมาดๆ แล้วนำไปบรรจุถุงพลาสติกทนความร้อนขนาด 6 x 12 นิ้ว ถุงละ 500 กรัม (5 ขีด)
3. ใส่คอขวดพลาสติก แล้วปิดด้วยใยฝ้ายหรือสำลี แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดทับอีก
ชั้นหนึ่ง
4. นำเมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือก ไปนึ่งในหม้อนึ่งความดัน เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค
ด้วยอุณหภูมิ 121 องศา ความดัน 15 ปอนด์ ต่อตารางนิ้วนาน 30 – 60 นาที ถ้าเป็นหม้อนึ่งลูกทุ่ง ใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง
5. นำถุงข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือก ออกจากหม้อนึ่ง ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำไปใส่หัว
เชื้อราไตรโครเดอร์ม่าต่อไป
6. เมื่อใส่หัวเชื้อราไตรโครเดอร์ม่าในถุงเมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือกแล้ว ให้นำไป
เก็บไว้ในห้องหรือในร่ม ใต้ถุนบ้าน ไม่ให้ถูกแสงแดด รออีกประมาณ 10 – 15 วัน ก็สามารถนำเชื้อราไตรโครเดอร์ม่าไปฉีดพ่นควบคุมโรคพืชต่อไป
การใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ม่าควบคุมโรคพืช
1. การใช้เพื่อป้องกันโรค (พืชยังไม่แสดงอาการของโรค) เริ่มตั้งแต่การเพาะเมล็ด การเตรียมต้นกล้าพืช การปลูกในสภาพธรรมชาติจนถึงระยะพืชเจริญเติบโตให้ผลผลิต
2. การใช้เพื่อรักษาโรค (พืชแสดงอาการของโรคแล้ว) การใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ม่า เพื่อรักษาพืชที่เป็นโรคแล้วนั้น มีความเป็นไปได้ในกรณีของพืชยืนต้น เช่น ไม้ผล แต่ถือว่าเป็นวิธีที่มีความเสี่ยง เพราะอาจไม่ประสบผลสำเร็จดังที่คาดหวังเสมอไป จึงมีความจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย หากมีการระบาดรุนแรง
วิธีการใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ม่า
1. การคลุกเมล็ด เพื่อป้องกันโรคที่ติดมากับเมล็ดพันธุ์ โดยใส่เชื้อลงในถุงพลาสติกที่จะใช้
คลุกเมล็ด อัตรา 10 กรัม หรือ 1 ช้อนแกง เติมน้ำ 10 ซีซี แล้วบีบเชื้อสดให้แตกตัวก่อนใส่เมล็ดลงในถุง ต่อเมล็ดพันธุ์ 10 กิโลกรัม
2. การรองก้นหลุม โรยเชื้อราไตรโครเดอร์ม่าลงในหลุม โดยคลุกเคล้าเชื้อสดกับดินในหลุม
ก่อนนำกล้าลงปลูก หลุมปลูกเล็กใช้เชื้อสดอัตรา 5 ช้อนแกง หลุมปลูกใหญ่ใช้เชื้อสด 150 – 300 กรัม (2 – 3 ขีด)
3. การผสมวัสดุปลูกใช้สำหรับเพาะกล้าในกระบะเพราะเมล็ดหรือถุงเพาะชำโดยนำเชื้อสดที่
ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก (1:100 โดยน้ำหนัก) มา 1 ส่วนผสมกับวัสดุปลูก 4 ส่วน โดยปริมาตร ผสมเข้ากันดีแล้วจึงนำไปเพาะเมล็ด
4. การหว่านลงดิน ใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ม่า 1 กิโลกรัม รำ 4 กิโลกรัม ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ย
คอก 100 กิโลกรัม ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากิน หว่านโคนต้น ใช้อัตรา 30 – 60 กรัม (3 – 6 ช้อนแกง) ต่อต้น หว่านใต้ทรงพุ่มใช้อัตรา 150 – 300 กรัม (2 – 3 ขีด) ต่อตารางเมตร
5. การฉีดพ่น เป็นวิธีที่สะดวก ง่ายต่อการปฏิบัติโดยฉีดพ่นลงดินบริเวณรากพืชและส่วนบน
ของต้นพืช การใช้เชื้อสดผสมน้ำ จำเป็นต้องกรองเอาเฉพาะน้ำเชื้อออกมา เพื่อไม่ให้เมล็ดข้าวฟ่างแดงหรือเมล็ดข้าวเปลือกอุดตันหัวฉีด กรณีฉีดพ่นลงดินใช้อัตราเชื้อสด 1 กิโลกรัม (2 ถุง) ผสมน้ำ 200 ลิตร พ่นส่วนบนของพืช ใช้เชื้อสดอัตรา 2 กิโลกรัม (4 ถุง) ผสมน้ำ 200 ลิตร
6. วิธีอื่นๆ เช่น การให้ไปกับระบบการให้น้ำ และการทาแผล เป็นต้น
ข้อจำกัดในการใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ม่า
1. สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม ไม่ชื้นแฉะ
2. ควรใช้ในช่วงเช้าหรือเย็น เพราะในช่วงกลางวันที่มีอากาศร้อน แสงแดดจัดจะทำให้เชื้อตาย
3. ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในกลุ่มเบนโนมิล และคาร์เบนตาซิม ในช่วง 7 วัน ก่อนหรือ
หลังการหว่านเชื้อที่ผสมแล้วลงในดิน
4. ควรมีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
จะเห็นได้ว่าการทำเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า เกษตรกรสามารถที่จะทำได้โดยง่ายๆ โดยทำที่บ้านของตนเอง โดยไม่ต้องไปทำที่อื่น อีกทั้งประหยัดไม่ต้องเสียค่าสารเคมี เป็นการลดความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี เนื่องจากในปัจจุบันมีพ่อค้าจำหน่ายสารเคมีดังหมู่บ้านเกษตรกรในราคาที่สูงมาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายกมล ชังเทศ เจ้าหน้าที่บริหารงานการเกษตรประจำ ต.สำโรงชัย อ.ไพศาลี โทร.056-259284
แนะนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเพาะเห็ดในถุงพลาสติก ประเภท
คอขวดพลาสติก (พลาสติกแบบประหยัด)
จุกขวดพลาสติก (พลาสติกแบบประหยัด)
ถุงเพาะเห็ด ทนความร้อน 6 1/2 x 12 1/2
เหมาะสำหรับการเพาะเห็ดทุกชนิดในถุงพลาสติก ใช้ในการนึ่ง และลำเลียงเลี้ยงเห็ดให้ เจริญงอกงาม
ราคาย่อมเยาว์ คอขวดพลาสติก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว สูง 1 นิ้ว
รับบริการส่งทั่วประเทศไทย ติดต่อผ่าน E-Mailและโทรศัพท์
จำหน่ายทั่วประเทศไทย จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง
***สามารถสั่ง่ผลิตได้ตามจำนวน สี-ใส-ขาวนม แล้วแต่ตามสั่ง***
> ติดสอบถามรายละเอียดได้ที่
> สุภัสสร 089-482-0415
Email: [email protected]
ร้านอยู่แถวพระราม9 คะ!บริการจัดส่งสินค้าในกรุงเทพฟรี กรณีสั่งปริมาณมาก