ประมาณ 3-4 ปีก่อน ครูตาลได้มีโอกาสเป็นผู้หนึ่งที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาบัณฑิตกองทุนหมู่บ้านของบัณฑิตสถาบันราชภัฎฯ ทำให้ครูตาลได้รับรู้อะไร ๆ มากมาย ตามความคิดแล้วคิดว่ามันมีผลเสียอยู่มาก เปรียบเหมือนกับการ "เอาปลาไปให้ชาวบ้าน แทนที่จะสอนวิธีหาปลาให้ชาวบ้าน" เมื่อเข้ามาในบ้าน G2K ครูตาลได้คุยเรื่องนี้กับเพื่อนเราท่านนึง เพื่อนเราที่เป็นสมาชิก G2K ซึ่งเค้าคือผู้เขียนรายละเอียดของนโยบายทั้งหมด แลได้ชี้แจงให้ครูตาลฟัง โดยคอมเม้นท์ลงในบันทึกของครูตาล ด้วยความเจ็บปวด ครูครูตาลเห็นว่าควรที่จะได้ขยายถ่ายทอดความรู้สึกของเพื่อนเราคนนี้ สู่กันฟัง จึงขอคัดลอกข้อคอมเม้นท์ที่ตอบโต้กันระหว่าง ครูตาล กับเพื่อนเราคนนี้ คือ คุณวิโรจน์ พูลสุข ค่ะ
คอมเม้นท็ของครูตาล
"กองทุน กองทุนหมู่บ้าน เหมือนเป็นธนาคารชุมชน เป็นของพวกเราทุกคน ยากดีมีจนทุกคนคือเจ้าของ" นโยบายนี้เป็นนโยบายที่จะสร้างความเข้มแข็งอย่างแท้จริง ให้กับประชาชน ถ้าคนทำรู้จริงและเข้าใจ ถ้าคนนำไปไม่ใช่สุวิทย์ มีความจริงใจต่อประชาชน เจ้าของนโยบายคือนายณรงค์เลิศ สุรพล อดีต ส.ส.คนสุดท้ายของพรรคกิจสังคม คนร่างนโยบายใส่ความคิดในรายละเอียดทั้งหมดก็คือคนที่ครูตาลรู้จัก(หมายถึงคุณวิโรจน์ พูลสุข ค่ะ) ที่ไม่ยอมรับทำนโยบาย...ก็นึกเสียใจมาจนทุกวันนี้ ว่าตัวเราไม่มีความรับผิดชอบ มาตรการที่อ่อนแอ จึงทำให้แพ้ต่อพฤติกรรม ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงกลายเป็นปัญหา การที่ไม่ตามไปสอนให้ชาวบ้านเขาตกปลา หาปลาให้เป็น...นั่นแหละ!..คือเราขาดความรับผิดชอบ ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองนะ... ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2544 ที่เป็นวันประวัติศาสตร์ ในการกดปุ่มโอน เงินกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาทไปถึงประชาชน คนเจ็บปวดก็คือเพื่อนครูตาล รู้เลยว่า...นักการเมืองไม่มีความจริงใจต่อประชาชน อยากบอกให้รู้ว่า กองทุนหมู่บ้านที่ทำไปนั้น เพียงแค่ 10 เปอร์เซนต์เท่านั้น นายกรัฐมนตรี ยังผูกขาดอยู่แค่ทักษิณ ถ้าทำถูกต้องครบถ้วนตามนโยบาย อะไรจะเกิดขึ้น จะมีพรรคการเมืองเหลืออยู่เพียงพรรคเดียวเท่านั้นในเวลาไม่เกิน 10 ปี แต่ยังมีนโยบายอื่นที่ยิ่งใหญ่กว่านโยบายกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท ซึ่งคงต้องตายไปกับตัว..เว้นแต่ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาให้ได้เสียก่อน คนไทยอาจจะได้เห็นนโยบายนี้เกิดขึ้น ขออภัย..เขียนยาวไปหน่อย.. ไม่ได้โม้..แต่อยากบอกอาจารย์ที่ปรึกษาว่า..ที่นายวิโรจน์ พูลสุขไม่เรียนต่อปริญญาเอก เพราะรู้แล้วว่า ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ ที่เป็นประธานสอบสารนิพนธ์ ยังไม่เข้าใจเลย ไม่ใช่ทั้งเงินผัน ไม่ใช่ทั้งสัจจะออมทรัพย์ "ปรัชญาของนโยบาย.. คือ.. การสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชน" ไม่เกี่ยวกับเงิน เงินเป็นแค่กุศโลบายเท่านั้น เป็นเครื่องจูงใจให้ชาวบ้านมาเรียนรู้เท่านั้น "บัณฑิตกองทุน" ต้องเกิดขึ้นก่อนเป็นอันดับแรกสุดในการทำกองทุน ไม่ใช่เกิดขึ้นอันดับหลังสุดอย่างที่ทำกันนี้ ไม่แปลกหรอก แม้แต่ 100 ด๊อกเตอร์ในไทยรักไทยยังไม่เข้าใจเลย... รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสารนิพนธ์..วันหลังจะส่งไปให้อ่านเล่นแก้นอนไม่หลับ บันทึกหน้าครูตาลจะนำเสนอ หัวข้อบรรยายเรื่อง
อย่าลืมมารับทราบอีก 90 % ของกองทุนหมู่บ้าน ในเย็นวันพรุ่งนี้นะคะ
สวัสดีค่ะ
เจริญพร ครูตาล (คนสงขลา ที่ไหน)
หัวใช้ได้เหมือนกัน ถึงไม่ใช่นักการเมืองร้อยเปอร์เซ็น
เจริญพร
อิอิ สวัสดีค่ะครุ ตาล แวะมาทักทายยามเย็นๆ อากาศก็เย็นๆค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ อิอิ
นโยบายกองทุนหม่บ้าน เป็นการวางโครงสร้างรากฐาน
ให้ประชาชนพัฒนาตนเองได้อย่างเข้มแข็งในอนาคต
ถ้ารู้และเข้าใจแนวนโยบายอย่างถ่องแท้
เมื่อประชาชนได้เข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้อง
ลองคิดดูเล่นๆว่า....ถ้าไม่มีกองทุนหมู่บ้านเป็นรากฐาน
นโยบาย OTOP จะเป็นอย่างไร ทุนเบื้องต้นจะมาจากไหน
จะมีนโยบายธนาคารประชาชน (ที่ ธ.ออมสินดำเนินการ)ไหม?
จะมีนโยบาย เอส เอ็ม แอล หรือไม่ และจะเกิดนโยบายอื่นๆอีกมากกว่านี้ที่มีความสมบูรณ์ถูกต้อง ไม่ใช่หวังผลการเมืองอย่างเดียว
กระบวนการบริหารจัดการที่วางเอาไว้...เพื่อรองรับวาระแห่งชาติ...นี่แหละสำคัญ
เจ็ดหมื่นกว่าหมู่บ้าน ...กรรมการล้านกว่าคน...สมาชิกสิบเจ็ดล้านคน เงินหมุนเวียนแสนกว่าล้านบาท...
นี่คือ !...ฐานคะแนนของอดีตนายกทักษิณ ใช่หรือไม่ ??? นี่ขนาดทำได้ตามหลักที่ถูกต้องเพียงแค่สิบเปอร์เซนต์เท่านั้น ยังออกผลได้ขนาดนี้
และขอยืนยันว่าถ้าทักษิณรู้จักเพื่อนครูตาล เขาจะไม่มีวันนี้ ประเทศไทยจะไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ ขอบคุณครับ
หลายนโยบายเริ่มต้น>เป้าหมายดี
แต่ขณะนำไปปฏิบัติกลับแปลงรูปเปลี่ยนร่าง ชาวบ้านได้เรียนรู้มากกับกองทุนหมู่บ้าน (ซึ่งมาพร้อมๆ กับหนี้ก้อนใหม่)
รอติดตามตอนต่อไปครับ
ขอบคุณค่ะน้องกล้วยแขก
ด้วยความยินดี ที่มีเพื่อนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
"มาตรการดี...หนี้ก้อนใหม่จะไม่เกิด
เพราะเตลิดออกนอกทางจึงสร้างหนี้
"ชาวบ้านไม่รู้"....ผู้จัดทำนำไม่ดี
"ความผิดนี้"...ที่ผู้สร้างวางผิดเอง"
ยินดีตอบทุกคำถาม พร้อมอธิบายทุกประเด็น 086-7835262
ยินดีตอบทุกคำถาม พร้อมอธิบายทุกประเด็น
086-7835262
เจริญพร ครูตาล (คนสงขลา ที่ไหน)
หัวใช้ได้เหมือนกัน ถึงไม่ใช่นักการเมืองร้อยเปอร์เซ็น
เจริญพร
ปรัชญาของนโยบาย.. คือ.. การสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชน" ไม่เกี่ยวกับเงิน เงินเป็นแค่กุศโลบายเท่านั้น เป็นเครื่องจูงใจให้ชาวบ้านมาเรียนรู้เท่านั้น
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ พี่ครูตาล.....พอลล่ามาแล้วค่ะ เพิ่งกลับจากโคราชค่ะ รถติดมากๆ ค่ะ แวะมาเรียนรู้ค่ะพี่...
สวัสดีครับครูตาล โบราณว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำนั้นแหละ
สวัสดีครับ ครูตาล
มาทักทายครับ..
ขอบคุณครับที่นำสิ่งดี ๆ มาให้ได้รับรู้ครับ
ขอชื่นชนครับ
จุฟฟฟฟฟฟอ่านแล้ว..เหนื่อยใจจังคะ..ไปนอนฝันดีดีกว่าคะ..*-*
สวัสดีจ้ะน้องพอลล่า
สวัสดีจ้ะน้องพิม
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะคุณประเสริฐ
ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็น สิ่งชัดเจนเป็นจริงอย่างท่านว่า
ที่สำคัญทำอย่างไรให้พัฒนา ฟื้นฟูแก้ไขให้ดีกว่า...ประโยชน์ไทย
ทิ้งภาพเก่าเอาไว้...เปิดใจก่อน อย่าใจร้อนด่าทอก่อเสียหาย
แสนกว่าล้านนั้นภาษีพี่น้องไทย เงินก้อนใหญ่ไม่สิ้นสูญทุนคงเดิม
สวัสดีครับอาจารย์ ชอบมากกกกกกกกกกกกกเลยบันทึกฉบับนี้ เราทดลองทำธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ ของ อ.จำนง สมประสงค์ แห่ง มก เราบอกพี่น้องในชนบทว่า เราไม่มีอะไรมาให้ท่านเลย มาช่วยท่านเพียงให้รู้แนวทางการจัดตั้งเท่านั้น(งบประมาณตรงนี้ก็ไม่มีนะครับ) ท่านต้องร่วมจิต ร่วมคิด ร่วมทำ กันเอง...8 ปีที่ผ่านมา ก้าวหน้าน้อยมาก..เพราะชาวบ้านคิดว่า เรื่องอะไรจะต้องหาเบ็ดมานั่งตกปลา...รอ รอ รอ อีกนิด เดี๋ยวก็มีคนเอาปลามาให้กิน หมดก็ขอใหม่ได้...ขอบพระคุณครับอาจารย์ เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ