หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ส่งการบ้านครูบา(เจ้าเป็นมาอย่างไร๘)


เด็กเลือกพ่อแม่เป็นแม่แบบถักทอเสื้อผ้าที่มองไม่เห็นไว้ใส่คลุมกาย เขาใช้ศรัทธาและความรู้สึกของตนเองตัดสินว่า “ยอมรับ” “ไม่ยอมรับ” ก่อนถักทอมันใส่ให้ตัวเอง
ฉันรู้มาว่าพ่อและแม่ของสาวน้อยหวงลูกสาวไม่น้อย จึงมีกรอบที่พ่อแม่กำหนดไว้หลายประเด็น สาวน้อยเดินออกนอกกรอบเมื่อไรเป็นโดน ส่วนมากเธอโดนจากแม่มากกว่าพ่อ ส่วนที่โดนจากพ่อนั้นมีน้อยกว่าน้อยมีสองเรื่องแค่นั้นเอง มีเรื่องหนึ่งที่โดนจากพ่อและแม่ คือ การเที่ยวเร่กินข้าวบ้านคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตที่เธอนั้นเผลอทำนอกกรอบที่กำหนดไว้ 
   

เรื่องนี้ทำให้เธอดังไปทั่วตลาด ผู้ใหญ่เขาเอาเรื่องไปเล่าต่อกันสนั่นเมืองเสมือนเป็นวีรกรรม เธอโดนพ่อแม่เฉ่งปี๋ซะจนไม่กล้าทำเช่นนั้นอีกเลย ก็คนสมัยนั้นนะเขากลัวขี้ปากชาวบ้านกันเสียยิ่งนัก ด้วยว่าเป็นแล้วมันดังไปทั้งบางรู้คนเขากันทั่วหน้าเลย ฉันว่าถ้าเป็นสมัยนี้ผู้คนเขาจะไม่กลัวเรื่องดัง ไม่ต้องเสียเงินโฆษณาซักกะบาทมันดังได้ดังดีเลยหนา จะกลัวไปทำไมให้เสียท่าเสียที รีบทำเร็วรี่ไม่ดีกว่าฤา

มีวันหนึ่งเธอเล่นซนทั้งที่เธอเป็นสาวแล้ว เอาเรือในบึงที่อยู่หน้าบ้าน ลงไปถ่อลงไปพายเล่นกับเพื่อนชายเพื่อนบ้าน ทั้งๆที่พ่อแม่มีกรอบห้ามเล่นน้ำ ห้ามลงเรือโดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย เหตุที่ห้ามเพราะในสมัยนั้น ทุกปีมีคนจมน้ำตายอยู่เป็นนิจจากการนั่งเรือ ทำให้ผู้ที่มีลูกหลานอยู่ใกล้ชิดกลัวลานกับการให้เด็กๆได้เล่นน้ำ ว่ายน้ำ พายเรือ

 

ระหว่างที่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งสองคนกำลังสนุกกับการพายเรือเล่น พ่อเธอก็บึ่งมอเตอร์ไซด์ผ่านเข้ามา เธอเหลือบเห็นแล้วเข้าข้างตัวเองว่าพ่อน่าจะไม่ทันได้มองเห็น รีบจ้ำพายพาเรือเข้าฝั่งในทันที วินาทีที่หัวเรือเทียบฝั่งนั้น รถของพ่อจอดลงตรงหน้าบ้านพอดี

 

พ่อแกล้งทำเป็นไม่รู้ เดินก้าวเท้าเข้าบ้านไปเฉยๆ สาวน้อยทรามเชยเธอย่องเดินเข้าบ้าน ไปนั่งเล่นแกว่งขาไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เตียงไม้ไผ่หน้าบ้าน จู่ๆพ่อก็เดินออกมาให้สะดุ้ง แล้วถามว่าหนูรู้ตัวว่าทำอะไรผิดลงไปรึเปล่า สาวน้อยใจเต้นตึกๆๆๆตอบว่ารู้ผิดอยู่หรอกค่ะพ่อขา พ่อถามเธอกลับไปว่ารู้ผิดแล้วให้พ่อลงโทษอย่างไร สาวน้อยตอบว่าตีด้วยไม้ พ่อถามใหม่ว่าตียังไง ตีเท่าไร สาวน้อยกลั้นใจตอบว่า ขอตีทีเดียวนะพ่อ พ่อยิ้มแล้วตอบเธอว่า ได้เลย จะให้ตีด้วยไม้อะไรไปหามา

 

สาวน้อยวิ่งเข้าไปภายในบ้าน หยิบเอาบรรทัดไม้อันยาวใหญ่ติดมือมายื่นให้กับพ่อทันควัน พ่อถามเธอว่าให้พ่อตีที่ตรงไหน เธอยื่นมือไปแล้วหลับตา เผียะ! เสียงดังก้องในหู สาวน้อยสะดุ้งทั้งตัว โอย โอ๊ย! เจ็บจังพ่อจ๋า น้ำตาไม่ไหลหรอกนะค่ะ ไม่ใช่ว่ามันไม่เจ็บนะค่ะ มันเจ็บ เจ็บมากเลยหละ ไม่มีน้ำตาไหล เพราะว่าเธอมีความสุขกับการที่พ่อยอมรับ ยอมรับให้เธอได้ตัดสินความผิดตัวเองค่ะ

 

แม่ของสาวน้อยต่างจากพ่อตีเธอบ่อยๆโดยไม่บอก เหตุผลที่ถูกตีเธอมักไม่รู้ แม่ตีเผียะลงทันทีไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ตีด้วยฝ่ามือนี้แหละค่ะ เวลาเข้าใกล้แม่ เธอเสียววาบไม่อยากเข้าใกล้แม่เท่าไรเลย ไม่เหมือนความรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้พ่อ เธอมีความสุขเป็นนักหนา นอนจิ้มพุงอ้วนๆของพ่อเล่นสบาย จ้ำจี้รักแร้พ่อบ่อยๆไป

 

กิจกรรมอย่างนี้กับแม่ เธอไม่เคยมีไม่เคยทำเลยหนา สาวน้อยจำได้ว่าแม่ไม่เคยกอดเธอเลยเมื่อเข้าใกล้ การเข้าใกล้แม่แต่ละทีมีแต่เรื่องไม่ถูกตำหนิก็ถูกตีไม่ทันรู้ตัว หรือไม่ก็ถูกใช้ให้ทำงานบ้านตามคำสั่งซะมากกว่า แม่มักจะใช้เธอเมื่อเห็นเธอกำลังมันกับหนังสือ แต่พ่อไม่เคยทำกับเธอหากว่าเห็นเธอกำลังอ่านมัน

 

ฉันวาดภาพแม่ของสาวน้อยจากคำบอกเล่าของเธอ เห็นภาพแม่ที่เป็นคนสวย ไม่สำรวยหรอกนะค่ะท่าน หน้าตาสวยหวานตาโตชวนชม ผมดัดทันสมัยดูไม่เบา ผมสลวยระต้นคอสั้นไม่มาก ใส่ตุ้มหูเจาะหนีบสวยงาม หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่งหน้าแต่งตัวสวยเสมอเวลาออกนอกบ้านไม่เคยโทรมให้เห็น ชอบนุ่งผ้าถุงปาเต๊ะใส่เสื้อผ้าลูกไม้สวยงาม แม่ชอบพาเธอไปบ้านเพื่อนแม่ที่เป็นเศรษฐี บ้านเพื่อนเหล่านี้เขามีวงไพ่เล่นแก้เซ็งบ่อยๆ นานๆจึงจะเป็นไปเพื่อทำอาหารกินกันให้ตื่นใจ

 

ฉันเดาว่าศรัทธาที่สาวน้อยมีต่อพ่อแม่และเพื่อนแม่ทั้งหลายน่าจะเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เมื่อสาวน้อยโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เธอฝังใจไม่ศรัทธาผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสวย รู้สึกระแวงภัยทุกครั้งที่เข้าใกล้ ความระแวงและปฏิเสธที่ฝังลึกอยู่ในใจของเธอ ผลักดันให้เธอไม่รังเกียจหญิงชายที่แต่งตัวธรรมดาไม่สวยหรือเซอร์ๆ ไม่เข้าใกล้ผู้หญิงที่แต่งสวยหรือไฮโซโดยไม่จำเป็น

 

วัยสาวแรกรุ่นนี่แหละที่เธอรู้จักคำว่าหนี้เป้นครั้งแรก มันทำให้เธอรู้จักอดกลั้นอดทนและศรัทธาต่อพ่อยิ่งขึ้น สายตาเธอที่เฝ้าดูพ่ออยู่เสมอมา ทำให้เธอรู้ว่าพ่อเก็บเงินไว้ที่ไหนอย่างไร อยู่มาวันหนึ่งเธออยากทำให้เพื่อนทึ่งว่าเธอมีเงินค่าขนมเยอะๆเหมือนเขา เธอแอบล้วงกระเป๋าเสื้อของพ่อตอนพ่อหลับ ย่องเข้าไปขโมยเงินพ่อออกมางุบงิบเก็บไว้ ทำไปไม่กี่ครั้งเธอเลิกเพราะละอายใจตัวเองกับสิ่งที่ทำ เธอจำได้ว่าไม่มีใครสอนเธอหรอก ที่มันหยุดทันทีด้วยเธอรู้สึกพิกลในใจของเธอเอง

 

ถ้าไม่นับโต๊ะกินข้าวในครัวด้วยละก็ ทั้งบ้านเธอมีโต๊ะตัวเดียวไว้ให้ใช้ ใครมีงานก็ทำงานโดยใช้โต๊ะนี้ร่วมกัน เวลานั้นพ่อของเธอทำงานให้ลุง พ่อมักนั่งวาดแผนที่ มีกระดาษวางเต็มไปหมด เธอและพี่มักมานั่งทำงานพร้อมกับพ่อ สามคนพ่อลูกอยู่ด้วยกันทำงานทำการบ้านอย่างมีความสุขทีเดียว

 

ในวันหนึ่งแม่สั่งเธอให้เก็บโต๊ะให้เรียบร้อย ระหว่างเก็บเธอเผอิญกวาดตาไปเห็นจดหมายจากธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งวางไว้ เธออยากรู้หยิบมาดูอ่านแล้วใจหายวาบ โอ! นี่พ่อเธอมีหนี้ก้อนโตขนาดนี้หรือ วิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนทำให้รู้ก้อนหนี้มันใหญ่โตน่าห่วงนัก

 

นับแต่รู้เรื่องหนี้เป็นต้นมา เธอเข้าใจทันทีว่า เหตุใดพ่อจึงยอมใช้มอเตอร์ไซด์เก่าๆบุโรทั่ง ใครว่าพ่ออย่างไรก็ช่างเขา พ่อไม่สนใจคำใครให้กลุ้มหรอก

 

บทเรียนรู้จากชีวิตจริง

พึงระวังคอยดูแลเด็กวัยรุ่นที่ซนๆและไม่ใคร่มีสังคมกับเพศตรงข้าม ด้วยใจที่บริสุทธิ์เด็กวัยรุ่นเช่นนี้ไม่ทันแยกแยะความแตกต่างระหว่างหญิงและชายเมื่อมีกิจกรรมร่วมกัน

 

คำชื่นชม ตำหนิที่มีต่อเด็กวัยรุ่น ล้วนมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อความรู้สึกของเขา มันปลูกฝังความกลัว ความกล้าให้ติดตัวไปจนโต

 

เมื่อเด็กย่างก้าวสู่วัยรุ่น ใช่แต่แม่เป็นคนสำคัญ พ่อนั้นก็สำคัญ ความสัมพันธ์อันอบอุ่นที่ได้รับสม่ำเสมอจากพ่อ มีอิทธิพลต่อความมั่นคงทางใจอย่างสูงยิ่งของเด็กวัยรุ่น

 

เด็กซึ่งผ่านชีวิตที่มีผู้ใหญ่ซึ่งมีความรับผิดชอบเป็นแม่แบบนะ เขามีความรับผิดชอบฝังลึกอยู่ในตัว เมื่อมีเรื่องตรงหน้าให้ตัดสินใจเขาจะนำมันมาใช้ทันที

 

เด็กอยากให้ผู้ใหญ่บอกเหตุผลก่อนลงโทษเขา และหากผู้ใหญ่ให้เขาได้มีโอกาสตัดสินลงโทษตัวเอง เขาจะมีความสุขและรับได้กับความผิดที่เขาก่อขึ้นและจะไม่ทำความผิดนั้นซ้ำอีกเลย

 

เด็กไม่เข้าใจผู้ใหญ่หรอกว่า เรื่องที่ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญและลงมือแก้ปัญหานั้นมันสำคัญอย่างไร จนกว่าเขาจะรู้จักและได้รับผลกระทบจากปัญหานั้นๆมาแล้ว

 

เด็กวัยรุ่นที่มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเด็กวัยที่เล็กกว่าอยู่นั่นแล้ว มุมมองต่อเพื่อนเพศตรงข้ามจึงไม่แตกต่างจากเด็กวัยที่เล็กกว่าอยู่ดี ทำให้มีโอกาสพลาดทำเรื่องที่ผู้ใหญ่ไม่เห็นดีด้วยโดยไม่ตั้งใจ

 

อย่าลืมว่า เด็กรู้จักเครียดกับเรื่องหนี้สินของพ่อแม่เป็นด้วยนะ

 

Keywords :

เด็กเลือกพ่อแม่เป็นแม่แบบถักทอเสื้อผ้าที่มองไม่เห็นไว้ใส่คลุมกาย เขาใช้ศรัทธาและความรู้สึกของตนเองตัดสินว่า ยอมรับ ไม่ยอมรับ ก่อนถักทอมันใส่ให้ตัวเอง

 

กอดเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนทุกวัยรู้สึกอบอุ่นใจต่อกันยิ่งนัก ทุกวันจึงควรกอดกันเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นใจให้แก่กัน กอดแขน กอดขา กอดพุง กอดไหล่ กอดหลัง กอดทั้งตัวได้ทั้งนั้นไม่ว่ากัน

หมายเลขบันทึก: 226271เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2008 22:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

แวะมาเยี่ยมค่ะ

-เด็กน้อยซนเหมือนกันนะคะ

-ผู้ใหญ่มักพูดกันว่า เด็กซนเป็นเด็กฉลาดค่ะ

สวัสดีครับป้าหมอ

ได้อ่านเรื่องเล่าของป้าแล้วดีมากๆครับ

ป้าสบายดีไหมครับ

ฝันดีนะครับ

    สวัสดีคะ อาจารย์หมอเจ๊... มีโอกาสได้มาเรียนรู้เรื่องราว ของวัยรุ่นค่ะ สบายดีไหมคะ คิดถึงๆๆค่ะ   

น้ำตาไม่ไหลหรอกนะค่ะ ไม่ใช่ว่ามันไม่เจ็บนะค่ะ มันเจ็บ เจ็บมากเลยหละ ไม่มีน้ำตาไหล เพราะว่าเธอมีความสุขกับการที่พ่อยอมรับ ยอมรับให้เธอได้ตัดสินความผิดตัวเองค่ะ

เธอเสียววาบไม่อยากเข้าใกล้แม่เท่าไรเลย ไม่เหมือนความรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้พ่อ เธอมีความสุขเป็นนักหนา

การเข้าใกล้แม่แต่ละทีมีแต่เรื่องไม่ถูกตำหนิก็ถูกตีไม่ทันรู้ตัว หรือไม่ก็ถูกใช้ให้ทำงานบ้านตามคำสั่งซะมากกว่า

ผลักดันให้เธอไม่รังเกียจหญิงชายที่แต่งตัวธรรมดาไม่สวยหรือเซอร์ๆ ไม่เข้าใกล้ผู้หญิงที่แต่งสวยหรือไฮโซโดยไม่จำเป็น

เธอแอบล้วงกระเป๋าเสื้อของพ่อตอนพ่อหลับ ย่องเข้าไปขโมยเงินพ่อออกมางุบงิบเก็บไว้ ทำไปไม่กี่ครั้งเธอเลิกเพราะละอายใจตัวเองกับสิ่งที่ทำ เธอจำได้ว่าไม่มีใครสอนเธอหรอก ที่มันหยุดทันทีด้วยเธอรู้สึกพิกลในใจของเธอเอง

  • อ่านแล้วได้พิจารณาเหมือนทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ
  • ตอนสุดท้ายเหมือนกันเลยค่ะ...แอบล้วงเงินในกระเป๋าคุณพ่อ  เพราะพ่อเป็นผู้ชายไม่สนใจนับเงินเหมือนแม่ที่เป็นผู้หญิง
  • บทเรียนจากชีวิตจริง  เป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ มากค่ะ
  • ขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

เด็กเลือกพ่อแม่เป็นแม่แบบถักทอเสื้อผ้าที่มองไม่เห็นไว้ใส่คลุมกาย เขาใช้ศรัทธาและความรู้สึกของตนเองตัดสินว่า “ยอมรับ” “ไม่ยอมรับ” ก่อนถักทอมันใส่ให้ตัวเอง

ขอบคุณข้อคิดดีๆนะคะ

มีความสุข  ปลอดภัย

สุขภาพแข็งแรงนะคะ :)

  • หนู โย่โย่งโก๊ะ แซ่เฮ~natadeeเหมือนพี่สาว ผู้แสนซน
  • หนูนอนดึกไปมั๊ยลูก
  • ที่ดีกว่าน่าจะนอนหัวค่ำตื่นเช้านะค่ะ
  • .....
  • รีบๆมาจองอยู่หน้า
  • แสดงว่าเรื่องที่ป้าเขียนนะถูกใจเด็กละซี
  • ......
  • ถูกใจก็แวะมาบ่อยๆ...ความอร่อยอยู่ที่ความรู้สึก
  • ป้าจึงไม่จัดอาหารต้อนรับ
  • นึกเอาเองมาบ้านป้าอยากกินอะไร
  • แล้วกระซิบบอกผ่านมาได้เน้อ
  • krutoi ค่ะ
  • เด็กซน คือ เด็กที่มีจินตนาการในสมองสูงค่ะ
  • เป็นเด็กที่มีอิสรภาพในความคิดมาก
  • และต้องการให้ผู้ใหญ่ให้อิสรภาพแก่เขา
  • เพื่อค้นหาแล้วเปล่งประกาย
  • ความสามารถสูงสุดที่เขามีออกมา
  • เมื่อผู้ใหญ่ได้ให้โอกาสเขา
  • มีอิสระในการคิดและทำภายใต้บริบทที่เป็นอยู่
  • ลงมือทำร่วมกันไปอย่างเข้าใจ
  • ได้อะไรดีดี....มามากเลย
  • ทั้งต่อตัวเขา ตัวผู้ใหญ่ และสังคมค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่หมอเจ๊

ใยมดตามหาเพชรแท้ของพี่หมอค่ะ

อิอิ ไม่เข้าใจที่พี่หมอเขียนไว้

แต่ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันน่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้พี่หมอในการทำงานค่ะ

ขอให้การทำงานมีความสุขและประสบความสำเร็จน่ะค่ะ

ขอให้ครอบครัวพี่หมอมีความสุข โชคดี สุขภาพแข็งแรงค่ะ

นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว อากาศหนาวด้วย ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ตามมาขอบพระคุณกำลังใจ และขอเป็นแฟนคลับด้วยคนนะคะ

อ่านแล้วรู้เลย ว่ายังต้องมีเรื่องที่ต้องเจออีกแยะเลย

  • ♥.·° ♥paula ที่ปรึกษา~natadee·° ..✿ จ๋า
  • อันว่าวัยรุ่นนั้นเป็นวัยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน
  • จากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่
  • เป็นวัยครึ่งๆกลางๆ
  • เป็นทั้งเด็กที่โตขึ้นมาแล้วยังเป็นเด็ก
  • แล้วก็เป็นผู้ใหญ่ที่เริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่มาแล้ว
  • เป็นผู้ใหญ่มาแล้วตั้งแต่เยาว์วัยเมื่อรู้ความ
  • ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่า
  • เขามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวด้วยอ่ะค่ะ
  • ครูคิม ขา
  • ที่ครูเห็นด้วยกับพี่ เป็นด้วยเหตุว่า
  • บางเหตูการณ์นั้น ครูเคยมีประสบการณ์เดียวกัน
  • นี่คือความหมายที่พี่พบสำหรับคำว่า "หนึ่งเดียวในจักรวาล"
  • หลายเรื่องที่พานพบ หากได้แลกเปลี่ยนกันละก็
  • ผู้ใหญ่อย่างเราจะพบว่าที่แท้ "truth" มันมีอยู่
  • หากแต่เราลืมมันไป ไปหลงอยู่กับอะไรก็ไม่รู้
  • เฉไฉออกไปจนบานปลาย
  • ......
  • การทำหน้าที่สร้างคน
  • จึงมิใช่ทำแค่ "สั่ง" "สอน"
  • หากแต่มีเรื่องอื่นให้ทำอีกมากมาย
  • ซึ่งจะทำได้ดีแค่ไหน
  • ก็ขึ้นอยู่กับ "ความเข้าใจ" ที่มีต่อ "ตัวเอง"
  • และ "ความเข้าใจคนอื่น" ที่เราจะไปสอนเขาค่ะครู
  • ถ้าเราเข้าใจได้ดีละก็ บางเรื่องเราสามารถ
  • ทำให้เขา "เรียนโดยไม่สอน" ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่คุณหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ

  • สิ่งที่น้องทำแตกต่างกันหลายอย่าง  แต่เกิดสำนึกว่าตัวเองทำผิด  แต่ไม่ยอมรับผิด..เพราะกลัวถูกตีค่ะ
  • ลักขโมยเงินในบ้าน  ลักข้าวสาร น้ำปลา หอม กระเทียม  เสื้อผ้าของพ่อแม่ ไปให้คนขอทาน  เมื่อพ่อแม่ถามก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นิ่งเฉย
  • ภายหลังเขาแปลกใจว่าทำสิ่งของในบ้านหายบ่อย ๆ ในที่สุดก็ถูกจับได้  แม่จะตี แต่พ่อบอกว่าไม่ต้องตี แต่ต่อไปอย่าทำอีก  อยากได้อะไรให้บอกและขออนุญาต
  • ต่อมาคุณแม่พาไปทำบุญ ทำทานบ่อย ๆ แต่ไม่ได้สั่งสอนอะไรมากนัก  แต่ชีวิตมีแต่ความเข้มงวด กวดขัน เรียน ๆ ๆ ๆ ๆ ในที่สุดก็เกือบล้มเหลวเมื่อผลการเรียน  ม.ปลายแย่ลง  เพราะไปเลือกเรียนตามเพื่อนค่ะ
  • ......
  • วันนี้ได้ดำเนินการ...นักพนันน้อย เป็นวันที่  3 จบขั้นตอนแรกแล้วค่ะ  พฤติกรรมที่พบทุกคนมีความสุข  และไม่มีอาการหวาดหวั่นหรือกังวล (ตอนแรกไม่เข้าใจว่าจะเอาพวกเขามาทำอะไร)  วันนี้เขารีบพูดว่า "คุณครูครับวันนี้ก็มาตามเวลานัดเหมือนเดิมใช่ไหมครับ" แล้วเขาก็มานั่งรอ 
  • ก่อนกิจกรรม ได้พูดกับพวกเขาว่า.."ครูรู้สึกดีใจนะที่ได้เห็นพวกเรามีสิ่งดี ๆ ในตัวเอง  หลาย ๆ อย่างครูได้เรียนรู้ไปกับพวกเราด้วย เรามาช่วยกันหาสิ่งดี ๆ ในตัวเองออกมา ครูจะร่วมเรียนรู้กับพวกเราและให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อน ๆ"
  • กิจกรรมต่อไปก็เป็นการนำเสนอของแต่ละกลุ่มค่ะ มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ๆ ละ 4 คนค่ะ
  • ครูคิม ค่ะ
  • ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ
  • ในการสร้างคนดีให้สังคมไทยขึ้นอีกก้าวแล้ว
  • ดีใจค่ะ
  • .....
  • หากผู้ทำงานสร้างคน...มีใจเต็มร้อย
  • และเข้าใจวิธีทำให้คนสร้างตัวเขาเอง....
  • เรื่องยากก็จะไม่ยากเลย
  • .....
  • การตีตนไปก่อนไข้
  • ตัดสินผลโดยยังไม่ได้ลงมือจริง
  • ต่างกับผลที่เป็นจริงมากๆเลยใช่ไหมครู
  • .....
  • ที่เด็กๆเขามีความสุขนะ...
  • และวันนี้เขารีบพูดว่า "คุณครูครับวันนี้ก็มาตามเวลานัดเหมือนเดิมใช่ไหมครับ" แล้วเขาก็มานั่งรอ 
  • แปลว่าเขาสนุกกับการใช้ศักยภาพของเขาเองขึ้นแล้ว
  • .....
  • เป็นโอกาสทองของครูแล้วค่ะ
  • รีบคว้าโอกาสทองนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์นะค่ะ
  • .....
  • ประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์นะ...หากทำลงได้...ทำน้อยจะได้มากค่ะครู
  • ......
  • เสนอให้ลองค่ะครู
  • โยนโจทย์ให้เขาช่วยกันหาคำตอบออกมา
  • ขยายผลไปช่วยให้สังคมที่เขาอยู่
  • ให้เข้าใจอย่างที่เขาเข้าใจเรื่องการพนันอย่างไรดี
  • ......
  • แบบว่า...เริ่มทำเรื่องที่ทำง่ายๆก่อน เป็นเรื่องง่ายๆที่เด็กๆมั่นใจว่า ลงมือทำแล้วเสร็จตูแน่ คือ สำเร็จ....ชวนเด็กลองดูนะค่ะ
  • ......
  • ว้าว....อยากรู้จังค่ะ
  • เด็กๆได้เจอคำตอบอะไรออกมาบ้าง
  • ......
  • ขอบคุณสำหรับข่าวสารที่มาบอกเล่า
  • พี่มีความสุขไปด้วยค่ะ
  • น้อง @..สายธาร..@ ค่ะ
  • เด็กๆนะเขามีจิตละเอียด
  • ผู้ใหญ่อย่างเราคาดไม่ถึงเลยค่ะ
  • การยอมรับ การไม่ยอมรับของเขา
  • นะหมายถึง ยอมรับตัวเขา
  • ที่จะเป็นอย่างไรก่อนนะค่ะ
  • เป็นการมองที่ใช้ผู้ใหญ่เป็นกระจก
  • แล้วตัดสินใจให้กับตัวเอง
  • ในสิ่งที่ยอมรับ ไม่ยอมรับ
  • ว่าจะมอบอะไรให้ตัวเอง
  • ซึ่งทำให้เกิการตัดสินใจได้
  • ทั้งด้านบวกและด้านลบ
  • เป็นด้านบวกและด้านลบ
  • ในสายตาของเขาเอง
  • เป็นกฎเกณฑ์ของเขาเอง
  • มิใช่จากที่มองเห็นจากผู้ใหญ่ในขณะนั้นด้วยค่ะ
  • นี่แหละคือความละเอียดอ่อนของเด็กที่ผู้ใหญ่ตามไม่ทัน
  • นอกจากผู้ใหญ่คนนั้นจะมีสติละเอียดพอที่จะรู้ทันค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท