ผมไม่รู้เป็นไรครับเวลาได้ยิน ได้เขียนบันทึก เขียนเพลง หรือฟังถ้อยคำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่ ต่อมน้ำตาของผมมันทำงานได้อย่างดีเลย การเขียนบันทึกนี้ก็เช่นเดียวกันน้ำตาผมไหล ใจผมมันสั่น คงเป็นเพราะความคิดถึงแม่ คิดถึงบ้านของผมเอง ... นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเขียนบันทึกเกี่ยวกับแม่ลงทางอินเตอร์เน็ต...
วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2551เป็นวันคล้ายเกิดแม่ผมครับ...ที่จริงผมตั้งใจจะเขียนบันทึกและโทรหาแม่ตั้งแต่เมื่อคืน..แต่เนื่องด้วยความเหนื่อยล้าจากการลงแรงไปช่วยกันขอรับบริจาคขวดพลาสติกและสิ่งของอื่นๆที่จะนำไปขายระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวที่ จ.กาฬสินธุ์ ประกอบกับ กว่าผมจะกลับมาถึงห้องก็เป็นเวลาดึกมากแล้วจึงไม่อยากรบกวนแม่...ถึงผมรู้ดีว่าเวลาเที่ยงคืน มันเป็นเวลาที่แม่เพิ่งจะเข้านอนก็ตาม แต่สิ่งที่ผมคิดและห่วงมากกว่านั้นคือ แม่จะต้องตื่นตั้งแต่ดึกเพื่อมาทำอาหารเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน…
บ้านของผมเปิดเป็นร้านขายของชำและก็ร้านอาหารที่บ้านหนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ทั้งหมู่บ้านมีหลายร้านแต่คนส่วนใหญ่เกือบ90 เปอร์เซ็นต์ จะเข้ามาอุดหนุนและใช้บริการที่ร้าน นอกจากคนในหมู่บ้านแล้วในช่วงสายไปจนถึงบ่าย จะมีเจ้าหน้าที่ ครู ตำรวจ หมอ พยาบาล อบต.หรือแม้กระทั่งนายอำเภอและรองผู้ว่าในจังหวัด ก็จะเข้ามาอุดหนุนอาหารฝีมือของแม่และยายของผมอยู่เป็นประจำ คงเป็นที่รสชาติและราคาที่ถูก ทำให้ร้านของแม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อีกทั้งแม่และยายของผมอัธยาศัยดี ลด แลก แจก แถม แขกที่เข้ามาในร้านอยู่เป็นประจำ ...จึงทำให้เกือบทุกวันแม่และยายต้องทำงานหนัก ทั้งทำอาหาร และเสิร์ฟอาหาร ดูแลทุกอย่าง ทั้งหน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของ และหลังบ้านที่เปิดเป็นร้านอาหารพื้นบ้านอีสาน.
..ผมเคยบอกแม่และยายผมให้จ้างคนเข้ามาช่วยงาน แต่กลับบอกว่า
“ เราขายอาหารราคาถูกแล้ว ถ้าจ้างคน เราก็ต้องเพิ่มราคาอาหารหรือไม่ก็ต้องลดปริมาณอาหารลง ถ้าอาหารแพงแล้วใครจะอยากกิน ...แม่ทำได้ แม่ไม่เหนื่อย ขอให้ลูกเรียนจบก็พอ ถ้าลูกเรียนจบ มีหน้าที่การงานที่ดี...แม่ก็จะเลิกขายของ....” นี่แหละแม่ผม ผอมแห้ง แต่ไม่แรงน้อย แกอึดมาก(ในเวลาทำงาน) .....หลังจากลูกค้าที่เข้าทานอาหารเริ่มเบาบางมากแล้ว ทั้งแม่และยายก็จะต้องมาทำกับข้าวเพื่อขายให้คนทั่วไปในตอนเย็น บางครั้งแม่และยายทั้งทำอาหาร ทั้งขายของชำ และอื่นๆจิปาถะไปพร้อมๆกัน...เรื่องการทานข้าวนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้งแม่และยายผมไม่มีเวลาทานเลย ฉะนั้นข้าวเช้าแม่จะกินประมาณบ่ายแก่ๆ ส่วนข้าวเที่ยงและข้าวเย็นรวมกันไปกินตอน 4 ทุ่ม หลังจากการเก็บร้านเสร็จ... ก่อนหน้านั้นก็ต้องเขียนรายการของที่จะไปซื้อในตอนตี 2 ในตลาดที่ห่างจากบ้าน 25 กิโลเมตร กว่าจะได้อาบน้ำและเข้านอนก็เกือบเที่ยงคืนหรือตี1 กลับจากตลาดมาถึงบ้านตี 5.....รวมๆแล้วแม่ผมเนอนในแต่ละวันไม่เกิน 4 ชั่วโมง …
ตอนนี้แม่ผมป่วยเป็นไทรอยด์ และถุงลมโป่งพอง..เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ยาที่ใช้พ่นลำคอ และยาที่ใช้ทานต้องซื้อมาเป็นสต๊อก (เนื่องจากไม่มีเวลาไปหาหมอ) ราคายาก็แสนจะแพง เทียบกับรายได้จากทางบ้านก็แทบไม่พอ ไหนจะต้องค่าใช้จ่ายอื่นๆภายในบ้าน ที่สำคัญลูกชายแม่อีกสองคน(รถไถ 2คัน) …
...แม่เป็นคนขี้หนาว และตอนนี้ใครๆก็รู้ว่าอีสานหนาวมาก( หนาวเหมือนกันกับลำปาง)...ผมเฝ้าแต่ภาวนาอยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ ผมอยากเรียนจบ ทำงาน หาเงิน ที่สำคัญตามล่าความฝันที่จะเป็นนักร้องให้ได้โดยเร็ว...อยากเห็นภาพที่แม่สบาย ไม่ต้องวุ่นวายกับสิ่งที่แม่เป็นอยู่ในขณะนี้...รอก่อนน่ะแม่ รอลูกก่อน ไม่นานหรอก สัญญาครับ.
วันนี้ยังไงสุขสันต์วันเกิดน่ะครับ มีความสุขมากๆ ขอให้พักผ่อนบ้าง อย่าทำงานหนัก ทำเพื่อคนอื่น แต่อย่าลืมทำเพื่อตัวเอง ขอบคุณที่มอบชีวิตให้ลูกชายคนนี้น่ะครับแม่..ของขวัญปีนี้อาจไม่มีอะไรพิเศษ ลูกคงเขียนเพลงให้แม่เหมือนเดิมทุกปี...ขอแค่ปีนี้แม่มีเวลาที่จะฟังมันก็พอ ....ฮักแม่หลายเด้อครับ ผมพูดคำนี้อย่างไม่เขินเหมือนทุกครั้งที่พูดกับแม่... หลังจากแม่โทรมาหาผมในตอนเช้าแล้วถามว่าวันนี้วันอะไร....(ขอโทษเด้อแม่..บ่ได้ลืมแต่ไม่กล้ารบกวน)
หลังจากนี้ผมคงต้องรบกวนเวลาทำงานของแม่ ...เพื่อสอนแม่จับเม้าส์ เข้าอินเตอร์เน็ตอ่านเรื่องราวของแก อยากรู้เหมือนกันว่าแม่จะยอมทิ้งตะหลิว ทิ้งทัพพีทำอาหาร ดูสิ่งที่ผมเขียนถึงแกรึป่าว... เจอกันวันปีใหม่ปี 2552 ครับ
จาก.......หัวฟู ...ลูกชายที่รักแม่มากที่สุดในโลก
ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ เรียนหนังสือจบเร็วๆ จะได้ทำงานช่วยคุณแม่ น่ารักจริงเลยคุณ muangkhan
มาให้กำลังใจค่ะน้องเดียร์
เป็นบันทึกที่สะท้อนความรูสึก เชื่อว่าหลายคนคงจะมีความรูสึกเหมือนนัอง
วันแม่ ได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
พักผ่อนบ้างค่ะน้องเดียร์
พี่..นงค์ค่ะ