อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ครูวรางค์ภรณ์ที่คิดถึง
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
(^_^)
วันนี้ ครูวรางค์ภรณ์ไปอบรมเรื่องการสอนคิด วิเคราะห์ ฯ ซึ่งจัดโดยชมรมครูภาษาไทย จังหวัดลพบุรี
มีผู้เข้ารับการอบรม ประมาณ 60 คน ครูวรางค์ภรณ์ได้เจอครูรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งเคยสอนอยู่โรงเรียนเดียวกันเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว
น้องแจงเข้ามาทักและกอดครูวรางค์ภรณ์ด้วยความคิดถึง เราพูดคุยกัน ถามไถ่ทุกข์สุข เกือบถึงเวลาเข้าอบรม น้องแจงจึงพูดขึ้นว่า
“เกือบลืมเลย.....พี่แจ๋วจำลูกศิษย์พี่ที่ชื่อบุญธรรมได้หรือเปล่า เขามาที่โรงเรียน มาถามถึงพี่ เขาบอกเขาคิดถึงพี่มาก เขาขอเบอร์โทรพี่ หนูก็ไม่มี แต่หนูเก็บเบอร์เขาไว้ พี่จดไว้นะ ”
ภาพเด็กผู้หญิง หน้าตาซื่อ ๆ ผิวขาวซีด ๆ โผล่ขึ้นมาในความทรงจำทันที บุญธรรมอยู่กับแม่แก่ ๆ ไม่มีพ่อ ฐานะทางบ้านยากจน แม่มีสุขภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ครูวรางค์ภรณ์ยังจำท่าทีเหนียมอาย อมยิ้มน้อย ๆ ของบุญธรรมได้อย่างดี ยามเมื่อถูกใจ แต่ถ้าขัดใจ บุญธรรมจะใช้สายตามองค้อน ประเภทที่เรียกว่าค้อนจนตาคว่ำทีเดียว บุญธรรมมีดวงตาที่กลมโต ขนตางอนขึ้นไปติดหนังตาทีเดียว การสื่อสารของบุญธรรมจะแสดงออกทางทีท่ามากกว่าการพูดจา ครูวรางค์ภรณ์กับสามีจะให้ความเอ็นดูสงสารบุญธรรมเป็นพิเศษ เพราะเธอเป็นเด็กที่ขาดมากกว่าเด็กคนอื่นในรุ่นเดียวกัน
และปีที่ครูวรางค์ภรณ์กับสามีย้ายออกมา ก็เป็นปีที่บุญธรรมจบป.6 พอดี และในปีนั้นเองครูวรางค์ภรณ์ก็ได้ข่าวบุญธรรมผูกข้อมือกับหนุ่มที่มารับจ้างตัดอ้อยแถวนั้น เมื่อย้ายออกมาแล้วข่าวคราวก็ขาดหายกันไป ยามใดที่เราพูดคุยกันถึงเรื่องเก่า ๆ เรื่องของบุญธรรมจะเป็นเรื่องที่เรานำมาพูดคุยกันบ่อยครั้ง
วันนี้ เมื่อเจอน้องแจงและได้เบอร์โทรศัพท์ของบุญธรรมมา ใกล้ค่ำ ครูวรางค์ภรณ์จึงลองโทรเข้าไป เมื่อมีเสียงรับสาย ครูวรางค์ภรณ์จึงขอสายบุญธรรม เมื่อปลายสายตอบรับ ครูวรางค์ภรณ์จึงบอกชื่อไป สุ้มเสียงที่ได้ยินบ่งบอกถึงความตื่นเต้นดีใจอย่างจับได้ชัด บุญธรรมบอกว่าตอนนี้เธอขี่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ ไม่สะดวกรับโทรศัพท์ เดี๋ยวกลับเข้าบ้านแล้วจะโทรกลับมา
แล้วสักพัก บุญธรรมก็โทรมา เธอบอกว่าเมื่อเย็นนี้ ตอนที่ครูวรางค์ภรณ์โทรไป พอรู้ว่าเป็นครูวรางค์ภรณ์ เธอดีใจมาก จนต้องจอดรถเข้าข้างทางแล้วร้องไห้ เมื่อทักทาย ถามไถ่ทุกข์สุขกันแล้ว เธอเล่าว่า
“หนูคิดถึงครูตลอดเวลาเลยค่ะ ตอนนี้หนูมีลูกสองคนแล้ว หนูเล่าให้ลูกของหนูฟังว่านอกจากแม่ของหนูแล้ว หนูยังมีแม่อีกคนคือครูนี่แหละค่ะ ถ้าครูไม่คอยช่วยเหลือหนู หนูก็คงเรียนไม่จบ”
คำพูดของเธอทำให้ครูวรางค์ภรณ์อดนึกถึงบุญธรรมในอดีตไม่ได้ ด้วยความที่ฐานะยากจน อยู่กับแม่สองคน แม่ก็ไม่ค่อยสมประกอบเท่าใดนัก ทำให้บุญธรรมเป็นเด็กที่ขาด แต่งเนื้อแต่งตัวสกปรก มอมแมม ชายกระโปรงจะขาดลุ่ยอยู่ตลอดเวลา ปิ่นโตข้าวจะมีไข่ต้มแช่น้ำปลาหนึ่งฟองทุกวัน จนครูวรางค์ภรณ์ต้องเรียกไปกินข้าวด้วยกันที่บ้านพักครูทุกวัน แต่บุญธรรมก็จะนั่งกินอยู่หน้าบ้าน ไม่ยอมเข้าไปกินในบ้าน ครูวรางค์ภรณ์ก็จะแบ่งกับข้าวให้กินทุกวัน
บางครั้งบุญธรรมมาโรงเรียนทั้งหน้าตาเกรอะกรัง เหมือนไม่ได้ล้างหน้าล้างตามา ครูวรางค์ภรณ์ก็จะจับแก้ผ้า ไล่ลงคลองไป แล้วครูวรางค์ภรณ์ก็จะตามไปนั่งเฝ้าบุญธรรมเล่นน้ำอยู่ริมคลอง เล่นน้ำจนสะใจแล้วขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว ทาแป้งฝุ่นหอมฟุ้ง แต่งตัวไปนั่งเรียนตามปกติ
ยามที่บุญธรรมเกเร ไม่อยากมาโรงเรียน ไปนั่งแอบอยู่ตามป่าอ้อย ครูวรางค์ภรณ์ก็ต้องออกไปตามตัวมาเรียน ถ้าครูคนอื่นไปตาม บุญธรรมเห็น จะวิ่งหนีซอกแซกไปตามไร่อ้อยออกไปไกลยิ่งขึ้น แต่ถ้าเห็นครูวรางค์ภรณ์ไปตาม จะไม่หนี แต่จะนั่งเฉย ครูวรางค์ภรณ์ต้องนั่งปลอบ นั่งขู่เป็นชั่วโมงกว่าจะเอาตัวไปเรียนได้
ตอนนี้บุญธรรมทำงานเป็นคนงานอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี เธอเล่าว่าเมื่อโรงเรียนที่เธอทำงานอยู่จัดงานไหว้ครู “หนูคิดถึงแต่ครู หนูอยากเอาดอกไม้ไปไหว้ครู แต่หนูก็ไม่รู้ว่าครูอยู่ที่ไหน หนูเคยไปขอไหว้รองผอ.ออ. ของโรงเรียน บอกว่าหนูขอไหว้แทนครูของหนู”
บุญธรรมเล่าถึงตอนนี้ เสียงเธอเครือไป ทำให้ครูวรางค์ภรณ์ต้องเสียน้ำตาไปด้วย เมื่อถามถึงลูก บุญธรรมเล่าว่า
“หนูมีลูกสองคน คนโตอายุสิบเก้า คนเล็กเรียนอยู่มอห้า เขาเรียนเก่งค่ะ ได้สามจุดเก้า แต่ระยะหลังนี้ไม่รู้เป็นอะไร บ่นปวดหัวมาก หนูพาไปหาหมอที่สระบุรี หมอส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลเด็กที่กรุงเทพ ก็ยังหาไม่เจอ วันจันทร์นี้ต้องไปอีก”
“ลูกหนูสองคนนี้ก็ไม่ใช่ลูกของแฟนคนนี้หรอก เป็นลูกติดของหนูกับแฟนเก่า ส่วนแฟนคนนี้อายุห้าสิบห้าแล้ว เขาก็ดี หนูก็ได้พึ่งเขานี่แหละ ลูกหนูเขาก็รัก”
เมื่อคุยกันได้สักพัก ครูวรางค์ภรณ์ก็บอกว่าคิดถึงเขามาตลอดเช่นกัน เป็นห่วงอยู่เสมอว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง และให้สัญญากับบุญธรรมว่าปิดเทอมนี้จะไปเยี่ยมเธอที่บ้าน เธอบอกว่า
“ดีใจจังเลยค่ะ ที่ครูโทรมาหาหนู หนูอยากเจอครูมาก” ครูวรางค์ภรณ์จึงบอกไปว่า “เธอเจอครู เธอจะจำครูได้หรือเปล่า ครูอ้วนและก็แก่มากแล้วนะ ไม่ใช่ครูคนสวยของเธอแล้วนะ” แล้วบุญธรรมก็ทำให้ครูวรางค์ภรณ์ร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเธอบอกว่า
“ครูจะเป็นอย่างไรก็ช่าง หนูจะกอดครูของหนูก็แล้วกัน” นอกจากนี้ บุญธรรมยังบอกอีกว่า
“ครูคะ ครูจำเสื้อสีชมพู ที่มีโบว์อยู่ที่เอวได้หรือเปล่า ครูให้หนูไว้ หนูยังเก็บไว้เลย ยี่สิบกว่าปีแล้ว ถ้าครูมาหาหนู หนูจะเอาให้ครูดู”
แล้ววันนี้ ครูวรางค์ภรณ์ก็ขอจบบันทึกนี้ไว้ด้วยความรัก ความผูกพันธ์ระหว่างลูกศิษย์กับครูอีกบันทึกหนึ่ง.......ความรักของบุญธรรม
ยินดีด้วยนะคะที่เจอะเจอคนรู้ใจ
น่าดีใจจริ๊งจริง..
แวะมาทักทายก่อนนอนจ้า
แวะมากอด และก็มาซับซับการรักแบบบุญธรรมครับ
น่ารักและอุ่นมากครับ
สวัสดีค่ะน้องadd
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะน้อง ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee
สวัสดีค่ะครูคิม
ซึ้งมากครับ เมื่ออ่านจบ
ความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“ครูคะ ครูจำเสื้อสีชมพู ที่มีโบว์อยู่ที่เอวได้หรือเปล่า ครูให้หนูไว้ หนูยังเก็บไว้เลย ยี่สิบกว่าปีแล้ว ถ้าครูมาหาหนู หนูจะเอาให้ครูดู”
จากประโยคนี้ทำให้เห็นว่า คุณบุญธรรมไม่เคยลืม คุณครู
ซึ้งมากๆครับ
แวะมาทักทายค่ะ
และอ่านเรื่องราวดีๆค่ะ
หลับฝันดีนะคะ
สวัสดีค่ะคุณครู
อ่านบันทึกนี้ของคุณครูแล้วซึ้งใจจริงๆค่ะ
ครูกับศิษย์...ความรักที่ไม่ต้องการคำนิยาม
อบอุ่นจังค่ะบันทึกนี้
ความสุขของคนเป็นครู ^__^
ฝันดีค่ะ
สวัสดียามดึกครับอาจารย์
สวัสดีค่ะ คุณครู..
อ่านแล้วเป็นปลื้มมากๆค่ะ
น่าประทับใจ มากมาย ไม่ใช่แค่ความบังเอิญจริงๆค่ะ
รักเคารพและคิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะน้อง •—>xaJ-xา๑<—• nataChoei[หน้าตาเฉย]
สวัสดีค่ะคุณ@..สายธาร..@
สวัสดีค่ะน้องครูตุ๊กแก..ดำ..แต่~natadee
สวัสดีค่ะหนุ่ม กร~natadee
สวัสดีค่ะน้อง paula ที่ปรึกษา~natadee
สวัสดีค่ะ หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ครูวรางค์ภรณ์ที่คิดถึง
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
(^_^)
สวัสดีค่ะ
เจริญพร โยมคุณครู
โยมครูนั่งอยู่ในหัวใจของศิษย์เสมอ
ศิษย์ที่กตัญญูกตเวทีย่อมเจริญเสมอ
เจริญพร
สวัสดีค่ะคุณ ทหารอากาศขนาดยักษ์
สวัสดีค่ะน้อง ครูปู~natadee t'ซู๊ด
สวัสดีค่ะครูคิม
สวัสดีค่ะศน.ลำดวน
สวัสดีค่ะ
นมัสการท่าน พระปลัด ค่ะ
เรื่องเล่านี้เร้าพลังค่ะคุณครู ครูเป็นแม่คนที่สองของบุญธรรมค่ะ
สวัสดีครับคุณครู ผมลูกศิษย์ครูครับ
คุ่ณพี่ที่รัก
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ
คนเราได้ประสบความสำเร็จจากใครมักจะคิดถึงครูคนรั้นและ ครูนั้นจะอยู่ในใจเสมอ ขอบคุณที่เจอคนดีเช่นครู