เมื่อปลายเดือนมีโอกาสนำนักกีฬาไปแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งประเทศไทย"นครลำปางเกมส์" โดยรับผืดชอบทีมแบดมินตันจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในปี 2548 ที่ผ่านมาได้2เหรียญทองแดง ทีมชาย-หญิง มาปีนี้เท่ากับมารักษามาตรฐาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นวัฎจักรเมื่อการกีฬากับการศึกษายังไปด้วยกันไมได้ ดีที่สุดก็คือรักษาสภาพ และการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นใหม่และตัวโค้ชที่จะมาแทนตัวผู้เขียนซึ่งสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่ในที่สุดก็มาได้1เหรียญทองแดงประเภททีมหญิง ส่วนทีมชายพ่ายตัวเองเลนแพ้คู่ต่อสู้
กีฬามีแพ้มีชนะ แต่ที่เราต้องสอนตั้งแต่โค้ชและนักกีฬาคือการแพ้ตนเอง หรือไม่ชนะใจตนเองในการทำหน้าที่ภาระกิจกหารเป็นโค้ชและการเป็นนักกีฬา เราต้องสอนให้บุคคลเหล่านี้บริหารเวลบาให้เป็นและหัดแข่งกับตนเองแล้วค่อยออกสนามจริง นี่แหละคือการช่วยกันปลูกฝังสังคมด้วยกิจกรรมกีฬา
เมื่อยามว่างเราได้ไปเที่ยวอุทยานแจ้ซ้อน ซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนอย่างดี อยู่ห่างตัวเมือง 60 ก.ม. เราทิ้งเรื่องกีฬาทั้งหมดให้ทุกคนได้ชื่นชมธรรมชาติ ให้สมกับที่เราอยู่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก่อนที่เราจะเดินทางกลับหลังจากค้างที่อุทยาน 1 คน มีนักกีฬาคนหนึ่งพูดว่า "ในเมืองไทย......มีที่เที่ยวมากมาย ไม่เห็นจำเป็นต้องไปต่างประเทศ" ให้เสียเงิน จริงๆที่นักกีฬาพูดเราอายุไปค่อนคนแล้วยังเที่ยวไม่หมดเลยจริงไหม......เอ้าเก็บมาฝากพี่น้องชุมชน
ไม่มีความเห็น