มหาสุบินชาดก : ถอดตำนานความฝันจากคัมภีร์


มหาสุบินชาดก เป็นชาดกที่ว่าด้วยเรื่องความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และมีการทำนายความฝันเชื่อมโยมอนาคตโดยพระพุทธเจ้า

เกริ่นนำ
                พิจารณาปรากฏการณ์สังคมคราใด ทำให้นึกถึงมหาสุบินชาดก ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงความรุ่มร้อนของการเมืองซึ่งไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นการเมืองที่แท้หรือเทียมหรือว่าเป็นเรื่องของอันธพาล

เรื่องราวมหาสุบินชาดก
                มหาสุบินชาดก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันและการทำนายความฝันโดยพิจารณาจากสภาพปรากฏการณ์ทางสังคมเป็นสำคัญ เกี่ยวกับความฝัน คัมภีร์สารัตถะสังคหะแสดงลักษณะไว้ ๔ ประการคือ
๑.         บุพพนิมิต ความฝันชนิดนี้เป็นความฝันถึงเรื่องราวในอดีตซึ่งเป็นเหตุการณ์จริง ผู้เขียนพิจารณาว่า เรื่องราวในอดีตอาจแบ่งออกเป็น ๒ คือ ๑) เรื่องราวในอดีตชาติ อันเป็นเรื่องกระบวนการทางจิตที่เกิดดับเกิดดับสัมพันธ์เหมือนลูกโซ่ ๒) เรื่องราวในอดีตในปัจจุบันชาติ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ผู้นั้นได้ผ่านประสบการณ์จริงมา เรื่องนี้ฝังลึกในจิตใต้สำนึกซึ่งมีพลังในการปรากฏออกมาจากจิตในยามที่จิตไม่ถูกควบคุมด้วยสามัญสำนึก บุพพนิมิตอาจเป็นเรื่องทั่วไป หรือเรื่องโชคลางใดๆในอดีตก็ได้
๒.       จิตนิวรณ์ ความฝันชนิดนี้เกิดจากอำนาจของกิเลสที่สะสมอยู่ในส่วนลึกของจิต เช่นมีความโกรธใครคนหนึ่งมากถึงมากที่สุดแต่ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ เมื่อยามหลับความรู้สึกที่ลึกนี้จะผลักดันให้ฝันเป็นเรื่องจริงจัง คราวตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกเครียดไปกับความฝันนั้น หรือว่าบางคราวรู้สึกดีใจที่สุดเมื่อได้ทำดีอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงนำกลับไปฝัน ตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกปลาบปลื้มไปกับฝันนั้นด้วยเป็นต้น
๓.        เทพสังหรณ์ ความฝันชนิดนี้เกิดจากผู้อื่นทำให้ฝัน โดยเฉพาะผู้มีอำนาจจิตที่เหนือกว่า ความฝันนี้มักเป็นความฝันที่จริง เช่นขณะที่บางคนกำลังหลับ จะมีผู้เข้าฝันว่า วันรุ่งขึ้นอย่าเดินทางกับรถโดยสาร พอเขาตื่นขึ้นมาก็ไม่ยอมไปกับรถโดยสาร ไม่นานเขาก็ทราบข่าวว่ารถโดยสารที่เขาไม่ไปนั้นเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น คำว่า “เทพสังหรณ์” หมายความว่า เทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขามาเข้าฝันนั่นเอง บางคราวไม่ใช่เข้าฝัน แต่มีอำนาจในการดลใจให้คิดบางอย่างได้ด้วย
๔.        ธาตุโขภะ ความฝันชนิดนี้เกิดจากธาตุกำเริบ เป็นความฝันที่ไร้สาระเนื่องจากการกินมาก นอนมาก คุยมาก ฟุ้งซ่าน คิดมาก ความฝันชนิดนี้เป็นความฝันที่ไม่เป็นจริง
มหาสุบินชาดกเป็นความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล โดยผู้ทำนายความฝันคือพระพุทธเจ้าต่อมาพระอรรถกถาจารย์ได้หยิบเรื่องนี้มาพิจารณา ความฝันทั้งหมด ๑๖ ข้อ มีต้นเรื่องดังนี้
คืนหนึ่ง พระเจ้าปเทสนทิโกศล ทรงฝันประหลาด ๑๖ ประการ เมื่อตื่นบรรทมจึงรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ เรียกให้พราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้าทำนายฝัน พราหมณ์ปุโรหิตจึงทำนายฝันว่าจะเกิดอันตรายกับพระองค์และราชสมบัติ วิธีแก้ไขคือให้บวงสรวงด้วยสัตว์ ๒ เท้าบ้าง ๔ เท้าบ้าง จึงเกณฑ์สัตว์ต่างๆของชาวบ้านมารวมกันเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนใจให้ชาวพระนครเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสูญเสียสัตว์ต่างๆ เพื่อไปฆ่าบูชายัญให้กับพระราชา พระองค์ทรงเศร้าโศกกับการที่จะต้องกระทำเช่นนี้ จึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าและเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระพุทธเจ้าฟัง จากนั้นจึงขอให้พระพุทธเจ้าทำนายฝันให้

ฝัน ๑๖ ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล
๑.         ฝันว่า โคตัวผู้ ๔ ตัว มีสีเหมือนดอกอัญชัญ วิ่งออกสู่ท้องพระลานหลวง คล้ายกับจะชนกัน ชาวบ้านต่างมุงดูด้วยคิดว่าจะได้ดูโคชนกัน โคทั้ง ๔ ตัว ต่างคำรามเสียงขู่สนั่นเหมือนกับจะชนกันแต่ไม่ยอมชน ไม่นานก็ผละออกจากกันไป
๒.           ฝันว่า ต้นไม้เล็กๆ เพิ่งจะโผล่พ้นดินกลับออกผลออกดอกบานสะพรั่ง
๓.           ฝันว่า บรรดาแม่โคพากันดื่มกินน้ำนมจากลูกโคที่เพิ่งเกิดในวันนั้น
๔.        ฝันว่า คนทั้งหลายไม่ยอมเทียมโคตัวใหญ่ที่เคยใช้งาน แต่กลับไปเทียมโคที่รุ่นๆ ไม่เป็นงาน โครุ่นก็สลัดแอกหนีทำให้งานไม่สำเร็จ
๕.           ฝันว่า ม้ามี ๒ ปาก เมื่อมีคนเอาหญ้ามาให้ม้ากิน มันก็กินได้ทั้ง ๒ ปาก
๖.        ฝันว่า คนทั้งหลายช่วยกันขัดถูถาดทองคำมีราคาสูง แล้วนำไปให้สุนัขจิ้งจอกแก่พร้อมกับบอกสุนัขว่า เชิญท่านถ่ายปัสสาวะใส่ในถาดทองนี้เถิด จากนั้นสุนัขจิ้งจอกแก่ก็ถ่ายปัสสาวะรดตามคำเชื้อเชิญ
๗.        ฝันว่า ชายคนหนึ่ง นั่งฟั่นเชือกคนแคร่ เชือกที่ชายผู้นั้นฟั่นอยู่หย่อนลงไปที่พื้นใต้แคร่ นางสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งนอนอยู่ใต้แคร่เห็นเชือกนั้นจึงกัดกินเชือกโดยที่ชายผู้นั้นไม่รู้ตัวเลย
๘.        ฝันว่า ตุ่มน้ำใหญ่ภายในบรรจุน้ำเต็มตุ่มวางอยู่หน้าประตูพระราชวัง ข้างตุ่มโดยรอบมีตุ่มใบเล็กๆว่างเปล่าตั้งเรียงรายอยู่ ประชาชนทุกสารทิศ ตักน้ำจากที่ต่างๆมาเทใส่ตุ่มใบใหญ่ทั้งที่เต็มอยู่แล้วจนล้นเอ่อนองไปทั่วบริเวณ โดยไม่มีใครสนใจใยดีตุ่มใบเล็กๆ ที่ตั้งเรียงรายนั้นเลย
๙.        ฝันว่า สระโบกขรณีแห่งหนึ่ง ดารดาษด้วยบัวเบญจพรรณ มีท่าขึ้นลงรอบสระ สัตว์ต่างๆ พากันมาดื่มกินน้ำรอบสระ แต่แปลกที่น้ำรอบสระที่สัตว์เหยียบย่ำอยู่กลับใสไม่ขุ่นมัว ส่วนน้ำกลางสระกลับขุ่นมัว
๑๐.      ฝันว่า ข้าวที่หุงในหม้อเดียวกัน หุงคราวเดียวกัน แต่สุกไม่เหมือนกันคือ ส่วนหนึ่งแฉะ ส่วนหนึ่งดิบ ส่วนหนึ่งสุก แต่ละส่วนเหมือนถูกแยกออกจากกัน
๑๑.         ฝันว่า ผู้คนพากันเอาแก่นจันทน์มีราคาสูงมาแลกกับเปรียงเน่าไร้ราคา
๑๒.       ฝันว่า กะโหลกน้ำเต้าแห้งจมน้ำได้
๑๓.       ฝันว่า ศิลาใหญ่เท่าปราสาทลอยน้ำได้เหมือนเรือ
๑๔.       ฝันว่า ฝูงเขียดตัวเล็กตัวน้อยวิ่งไล่งูตัวใหญ่เมื่อไล่ทันจึงกัดกินงูนั้น
๑๕.       ฝันว่า ฝูงพญาหงส์ แวดล้อมกาซึ่งเป็นสัตว์ชั้นต่ำ
๑๖.      ฝันว่า ฝูงแกะพากันไล่เสือเหลือง เมื่อไล่ทันจึงรุมกัดเสือนั้น พวกสัตว์ต่างๆ จึงพากันหวาดกลัวแกะจึงวิ่งหนีหลบเข้าไปซ่อนตัวในป่า

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนาและปรัชญา
หมายเลขบันทึก: 22180เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2006 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท