ในยามฮัก...วรรณศิลป์สองฝั่งโขง


...อ้ายฮักน้องลื่นล้น กว่าฟ้าฮักดิน



๑. กาพย์วิชชุมาลี 

                 เดียวดายในสี่ด้าน    กำแพง 

         ซายเม่อมองส่องหา          ยอดซู้ 

         เสน่หาพาเยืองแยง           แลล้ำ 

         นวลนางสาวคำฮู้               อยู่ไส

๒. กาพย์มหาวิชชุมาลี

                เคยอยู่สองครองตุ้ม  เคียงกาย

       วันชื่นคืนสุขสม                 ยิ่งล้ำ

       คนและเงาเทียมกาย          มิห่าง

       จากพรากจึงตอกย้ำ         ทุกข์โศกในทรวง

๓. กาพย์จิตรลดา         

                  ฟ้าประทานฮักให้    เฮามา

         ถนอมเพียงตางาม            ลึกล้ำ

         บ่สนฝูงหมาพาล              กวนก่อ

         สอพอคนต่ำซ้า                อย่าซา

๔. กาพย์มหาจิตรลดา

                 ไผจะเพพังม้าง        ศรัทธา

         ผลบุญปางเก่าหลัง          แกร่งกล้า

        อำนาจเสน่หาเฮา              สูงส่ง

        หอมกว่ามาลาแย้ม            กลีบอ้าแกว่งไกว

๕. กาพย์สินธุมาลี

                 ไกลกันสุดขอบฟ้า     เขาเขียว

        ขอเพียงใจกลมเกลียว         แน่แท้

        ขอเพียงนางมั่นเหนียว         เด็ดเดี่ยว

        อ้ายจะบ่ยอมแพ้                  พ่ายหนี

๖. กาพย์มหาสินธุมาลี

                หลายวันอ้ายพรากบ้าน   มาหา

      ฮักมีต่อกานดา                        ท่วมท้น

      สังข์ทองฮักรจนา                     เกินกล่าว

      อ้ายฮักน้องลื่นล้น                     กว่าฟ้าฮักดิน

๗. กาพย์นันททายี

                      คืนนี้จันทร์แจ่มฟ้า       ทอแสง

        ตัวเฮานั่งแยงเดือน                    พุ่งพ้น

        สุขยามขวัญแพงชม                  เชยชิด

        ทุกข์เข็นยากจนไฮ้                    ไม่กลัว

๘. กาพย์มหานันททายี

                 ใต้เงาจันทร์ฮักแจ้ง    เรืองรอง

    ในเมื่อเฮาสองคน                    ฮักแท้

    สัจจเฮาสองมี                         หยิบยื่น

    คืนมืดดาวแกร่งกล้า                เจิดแจ้งประกาย

 

๙. กาพย์วชิรปันตี

          ยามเมื่อน้องหมองหม่น   และสับสน  นางเอย

     จงได้เผยความใน   สู่พี่ซาย   เด้อน้อง

     โพยภัยต้องหรือปัญหา   อย่าหวั่น   หวาดกลัว

     เมื่อมีอ้ายฮักน้อง  เฮาจะต้อง  แบ่งปัน 

๑๐. กาพย์มหาวชิรปันตี

         ชีวิตคือสายธาร  ล่องลอยไหลผ่าน  ดงดอน

 คือคำสอนซึ่งฟ้า  ประทานให้มา   เพียบพร้อม

 คนต้องน้อมต่อ  คำสอนหลักเกณฑ์ ธรรมชาติสร้าง

 รักและหวัง...รางวัลซึ่งฟ้าประทาน   แก่คน

๑๑. กาพย์พรหมคติ

               เสรีภาพแห่งใจ   บ่หวั่นไหว    ไผนินทา

     ความฮ้กที่เกิดมา    ชตากรรม    ธรรมชาติให้

     มิห่อนหลอมหล่อปั้น   หรือกำนัล   กันง่ายง่าย

     ฮักเฮาเกิดขึ้นได้    เพราะฟ้าให้   ดินจึงยอม

๑๒. กาพย์มันทุกคติ

   ความฮักคือแสงแดดใส    สาดส่องไสว   ให้ไออุ่น

 ฮัก ห่วงใยและวายวุ่น    คอยเกื้อหนุน    อบอุ่นใจ

 ความฮักมันดุจดังน้ำ    นะทีคำ    ยามเช้าบ่าย

 สะท้อนเงาเมฆเฝื้อใกล้  หยดน้ำตา    ฟ้ากว้างไกล

 

๑๓.กาพย์ตุรังคธาวี

        อิดออด  นอนเหยียดกายหนุนหมอน  หนุนอกอ้ายเถิดน้อง

ตะวัน   สัญจรดั้น  เดินเที่ยวท่องกะหาก  ยังหยุดพักเอาแฮง

ไออุ่น   มีไว้ให้คนดี  หัวอกนี้แข็งแกร่ง

ข้างใน  ใจอ่อนไหวฮักแฮง  ยังคงเต้นกระเซ็น  ลุ่มหลงเธอ

๑๔. กาพย์มหาตุรังคธาวี

    หลับตา  ฝันเถิดน้อง  คืนวันแสนหวาน  ที่เฮาผ่าน

สลักความฮัก ที่ยิ่งใหญ่นั้น ตราบจนพสุธาฟ้าดินมลาย

เท่าที่ สองเฮายังคู่ครองหมายปอง ยังหายใจ

สิ่งดียิ่ง เท่าที่ปองหมายไว้นั้น ฝันเถิดฝันให้สมใจปอง

 ๑๕. กาพย์กากคติ

                        (บ่มีตัวอย่างในตำรา)

                 .........................................         

                      กลอนลำแบบวชิรปันตี

 

                  ฟังเด้อหล้า           ตั้งท่าฟังลำ

   คนเวียงจันทน์เขาทำ             ไว้เป็นแบบอย่าง

   หัดให้เจ้านั้นย่าง                   เป็นนักกวี

   สร้างเจ้าเป็นคนดี                  แม่พิมพ์ของชาติ.

                                www.cruroj.com

 

หมายเลขบันทึก: 221277เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2008 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 18:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

บ่จักว่าแม่นไผ ในงาน

สัมมนาคนวรรณ- กรรมพ้อ

คนไทยลาวอีสาน ห่าวซื่น

ใจสะออนกะด้อ ยามได้ ก่ายผญา

มื้อนั้นบ่ได้เห็น ตามถ่อน

เบิ่งเน็ตยามก่อนนอน ฮู้ชื่อ

crurojกับบทกลอน ต่อเว้า

ขอให้เขียนคู่มื้อ ผะอวนเจ้า อย่าสิเซา เด้อ...

(ชอบแนวนี้ ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ)

ท่านผอ.เป็นเกียรติหลายน้ออ้าย ที่ได้ผ่ายมายาม

เฮือนครูรจคนงามเว้าจาพาฮู้.........

นางยังเป็นครูน้อยคอยความหวังพลังชอล์ก

เส้นบ่ใหญไอกะเลยบ่ได้...เสียงซ้ำกะบ่มีอ้ายเอ้ย

........ความผิดหวังคราวกี้หลายสิบปีพ้นผ่าน

ปานดาบคมมาประหาร

กระบี่พันดวงมาเสียบซ่าง...นางน้อยเกือบบ่ยัง

เถิงแม่นว่ามื้อนี้แม่โขงแห้งแผ่นดินหด

คนที่มีคำคดบ่กรายไปใกล้

ก็ต้องขอขอบคุณเหตุการณ์...และคน.....ที่ "หัดให้เจ้านั่นย่างเป็นนักกวี...สร้างเจ้าเป็นคนดีแม่พิมพ์ของชาติ" ขอบคุณๆๆหลายๆ

วันนี้วันภาษาไทยแห่งชาติ ได้มาอ่านคำประพันธ์ที่ไพเราะ เกิดสงสัยใน กาพย์กากคติ จึงค้นในเน็ต ได้ความว่า

กาพย์พิเศษ (สุรางคนางค์ ๒๘ กากคติ)

 .

ตามตำราหลักภาษาไทย ภาคฉันทลักษณ์ ของ

ท่านอำมาตย์เอก พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) หน้า ๔๔๑

ท่านจัดกาพย์ชนิดนี้อยู่ในหมวดกาพย์พิเศษ

กาพย์พิเศษนี้ มีอยู่หลายชนิด แบบนี้ท่านเรียกว่า "กาพย์สุรางคนางค์ที่บังคับครุลหุ"

บางครั้งใช้ร่วมกับฉันท์ บังคับลหุ-ครุ สลับกันไปตลอด และสัมผัสตามตัวอย่างที่ท่านให้ไว้ดังนี้

 ...

ชะอมชะบา  มะกอกมะกา  มะค่าและแค,

ตะขบตะค้อ  สมอแสม  มะกล่ำสะแก  ก็แลไสว

 

 

อบคุณค่ะท่าน...ดีใจจัง

ก็ไปสัมมนางานวันภาษาไทยมาเหมือนกันค่ะ...

 

                                    

ดีใจที่ได้เห็นภาพเต็มตัวของครูรจครับ

ผ้าถุงสวยมาก

เสื้อก็สวย

ยิ้มที่เปิดเผย

สวยมากครับ 

" น้องนี่ อยู่ในโลก ส่วนตัว ที่มัวหม่น...

บ่อยากเว้านำคน บ่สนไผฮอบข้าง ใจน้องบ่สะออน

ได้เว้าจาเห็นหน้า เทคโนโลยี เป็นสื่อ น้ออ้าย

คึดว่าฝันจังกล้า...ความจริงน้อง บ่หาญ ดอกอ้าย

เถิงสิเป็น คำย่อง คำยอ น้องกะมัก...หลาย หลาย

อย่าลืมไลไมตรี หมื่นปี อย่ามายม้าง."

                              ขอบคุณมากๆนะคะท่าน

 

 

 

 

"แก้ว บ่ ผัด สามปี เป็น แฮ่

พี่น้อง บ่ แว สามปี เป็นอื่น

ซู่ บ่ เล่น สามคืน เป็นผู้ใหม่"

...................................

Did you ever know that you,re my hero....You are the wind beneath my wings.

“...ความผิดหวังคราวกี้หลายสิบปีพ้นผ่าน

ปานดาบคมมาประหาร

กระบี่พันดวงมาเสียบซ่วง...นางน้องเกือบบ่ยัง

เถิงแม่นว่ามื้อนี้แม่โขงแห้งแผ่นดินหด

คนที่มีคำคดบ่กรายไปใกล้ ....

                     ก็ผ่านพ้นมาได้.

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท