การนอนเปรียบเสมือนการที่ร่างกายเกือบทุกส่วนได้พักผ่อน
ที่ต้องหลับตาเพราะว่าเวลาเรานอนนั้น คงไม่มีใครที่ต้องการจะถูกรบกวน ทำให้ตื่นขึ้น การได้เห็นแสง ได้ยินเสียงที่ดังเกินไป จิตใจที่ไม่สงบ หรือแม้แต่กลิ่น ต่างๆเหล่านี้ล้วนมีผลที่ทำให้นอนไม่หลับ เพราะมันทำให้เราไม่เกิดสมาธิที่จะหลับได้ อีกอย่างมันก็เป็นกลไก ของธรรมชาติที่เป็นระบบในร่างกายเราอยู่แล้ว แต่ก็มีนะที่บางคนหลับแบบลืมตาอยู่ แต่มันก็เป็นกลไกของร่างกายที่ทำให้เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้หลับไปแล้ว
การนอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คนเราใช้เวลาหนึ่งในสามในการนอนแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการนอนเท่าใด คนเราจะมีช่วงที่ง่วงนอน 2ช่วงคือกลางคืน และตอนเที่ยงวันจึงไม่แปลกใจกับคำว่าท้องตึงหนังตาหย่อนในตอนเที่ยง
การนอนของคนปกติแบ่งออกได้ดังนี้
กลไกการนอนหลับมีดังนี้
เมื่อความมืดมาเยือนเซลล์ที่จอภาพ[retina] จะส่งข้อมูลไปยังเซลล์ประสาทที่อยู่ใน hypothalamus ซึ่งจะเป็นที่สร้างสาร melatonin สาร melatonin สร้างจาก tryptophan ทำให้อุณหภูมิลดลงและเกิดอาการง่วง
การนอนช่วง Non-rapid eye movement {non- (REM) sleep} การนอนในช่วงนี้มีความสำคัญมากเพราะมีส่วนสำคัญในการทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาการและมีการหลั่งของฮอร์โมนที่เร่งการเติบโต growth hormone การนอนช่วงนี้แบ่งออกเป็น 4 ระยะได้แก่โดยการหลับจะเริ่มจากระยะที่1ไปจน REMและกลับมาระยะ1ใหม่
Stage 1 (light sleep) ระยะนี้ยังหลับไม่สนิทครึ่งหลับครึ่งตื่น ปลุกง่าย ช่วงนี้อาจจะมีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า hypnic myoclonia มักจะตามหลังอาการเหมือนตกที่สูง ระยะนี้ตาจะเคลื่อนไหวช้า
Stage 2 (so-called true sleep).ระยะนี้ตาจะหยุดเคลื่อนไหวคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ rapid waves เรียก sleep spindles
Stage 3 คลื่นไฟฟ้าสมองจะมีลักษณะ delta waves และ Stage 4ระยะนี้เป็นระยะที่หลับสนิทที่สุดคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ delta waves ทั้งหมด ระยะ3-4 จะปลุกตื่นยากที่สุดตาจะไม่เคลื่อนไหวร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว เมื่อปลุกตื่นจะงัวเงีย
การนอนช่วง Rapid eye movement (REM) sleep จะเกิดภายใน 90 นาที หลังจากนอนช่วงนี้เมื่อทดสอบคลื่นสมองจะเหมือนคนตื่น ผู้ป่วยจะหายใจเร็ว ชีพขจรเร็ว กล้ามเนื้อไม่ขยับ เมื่อคนตื่นช่วงนี้จะจำความฝันได้
เราจะใช้เวลานอนร้อยละ50ใน Stage 2 ร้อยละ 20ในระยะ REM ร้อยละ30 ในระยะอื่นๆ การนอนหลับครบหนึ่งรอบใช้เวลา 90-110นาที คนปกติต้องการนอนวันละ 8 ชั่วโมงโดยหลับตั้งค่ำจนตื่นในตอนเช้า คนสูงอายุการหลับจะเปลี่ยนไปโดยหลับกลางวันเพิ่มและตื่นกลางคืน จำนวนชั่วโมงในการนอนหลับแต่ละคนจะไม่เหมือนกันบางคนนอนแค่วันละ 5-6 ชั่วโมงโดยที่ไม่มีอาการง่วงนอน
การนอน คือภาวะที่ธรรมชาติกำหนดให้หยุดพักการใช้งานร่างกาย ในชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อฟื้นฟูกำลัง และ ลดภาวะความตึงเครียด ในการใช้งานกล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ
การหลับตา เป็นการปิดการรับรู้ด้านการมองเห็น เพื่อตัดสิ่งรบกวนการนอนหลับไป แต่ไม่ตัดการรับรู้ด้านเสียงและสัมผัส เพื่อระวังป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในภาวะที่หลับ
ขอบคุณhttp://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0c2e316e1fb17e76
ขอบคุณมากค่ะ
ได้ข้อมูลไปให้นักเรียน วิเคราะห์กันค่ะ
ขอบคุณพี่ครูอ้อยมากค่ะที่แวะมาอ่าน
มีความสุขในทุกๆวันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณสายธาร
ขอบคุณค่ะ
คนพลัดถิ่น~natachoei(หน้าตาเฉย)
มีความคิดเป็นระบบดีมากๆค่ะ
ธีรัชภัทร..อัจฉริยะเสมอๆ
ขอบคุณนะ
มีความสุขในทุกๆวัน นะคะ
การนอนก็เหมือนกับตายไปแล้วครึ่งหนึ่งค่ะ
ถ้าใครโชคดีตื่นมาตอนเช้าก็เหมือนกับได้รับชีวิตใหม่
แต่ถ้าไม่ตื่นก็โชคดีอีกเช่นกัน คือ ...ตายแบบไม่ต้องทรมาน ...
มาอ่านความรู้ดีๆ ครับ...
การพักผ่อน ชอบนอนค่ะ ได้ผ่อนคลาย
ขอบคุณนะคะ
มีแต่สิ่งดีๆนะคะ
ขอบคุณพี่ไก่ค่ะการนอน คือ การพักผ่อนที่ดีที่สุดค่ะ
สวัสดีครับ...ตนเองอยากนอนหลับให้สนิท...แต่ใจไม่เคยหลับ..สมองไม่เคยพักผ่อน...จิตที่ไม่หลับใหล...งานที่ประดังมา..ภารกิจกับชุมชน...ครอบครัว..การเตรียมรับการประเมินภายนอก..สมศ...งานประชุม...เดินทางไปราชการ...
มีกำลังใจดีๆเสมอๆนะคะ ท่าน ผอ.
อย่าพึ่งท้อ
ยิ้มสู้นะคะ
ขอบคุณมากมายที่แวะมาทักทายค่ะ