สัวสดีครับ
พระพุทธเจ้าตรัสในเบื้องปลายว่า “แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีลครบ 227 ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อย 100 ปี บุญกุศลยังน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิให้จิตสงบ(ฌาน) แม้นานเพียงไก่กระพือปีก” “ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม" (1)
อ่านแล้วเกิดความรู้สึก เรานี่บาปหนาจริงๆ แบบนี้มองหาตัวเองไม่เจอเลยว่าอยู่ที่ไหน....อิอิ.อิ ดีมากมากขอบคุณ
1. ผู้ให้บริสุทธิ์
2. ผู้รับบริสุทธิ์
3. วัตถุทานบริสุทธิ์
---
ขอบคุณคร้าบ
ติดตามมาอ่านสาระดี ๆ ครับ ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องการเปรียบเทียบแต่ละอย่างเป็น 100 ครั้งทุกอย่าง และลงท้ายที่ “แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีลครบ 227 ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อย 100 ปี บุญกุศลยังน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิให้จิตสงบ(ฌาน) แม้นานเพียงไก่กระพือปีก” “ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม" (1)
คิดเห็นว่า
เพื่อเป็นการยกย่องให้เห็นคุณค่าของฌานที่เห็นชัดขึ้น จนทำให้ผู้รักษาศีล 227 ไม่เคยด่างพร้อยต้องด้อยไป หรือการทำความเห็นให้ตรง (ทิฎฐุชุกรรม) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะเป็นบ่อเกิดแห่งกุศลกรรมทั้งมวล
น่าจะเป็นการเปรียบเทียบเพื่อยกย่องสิ่งที่เหนือกว่าให้เห็นชัดเจน
แต่ไม่เห็นด้วยกับการเปรียบเทียบทุกอย่างเป็น 100 ครั้ง/ปี
เพียงแค่ข้อคิดเห็นนะครับ ......
้
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ หมอยังให้อภัยทานคนที่เราไม่พอใจทุกคน บางคนยังนึกโกรธอยู่ค่ะ
สวัสดีครับคุณกวิน
ไม่ได้มาทักทายเสียนาน สบายดีนะครับ
ได้ความรู้ดี ๆ ตามเคย ...
“ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม" (1)
ดังว่าแล้ว การมองเห็นความเป็นจริงว่า...สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม จึงนับว่าเป็นสิ่งประเสริฐสุดและมีอานิสงส์อย่างยิ่งนะครับ
ขอบคุณครับ
มาชม คุณกวิน
ได้อ่านข้อสนทนาธรรมดีจริงนะนี่ อิ อิ อิ...
+ กวินจ๊ะ...พี่อ๋อยมาชวนกันไปส่งกำลังใจให้พี่น้องที่ รพ.หนองจิกค่ะ...
+ ตามมาเลยค่ะที่นี่เลย...
สวัสดีค่ะ
***ท่านที่ทำชุดสังฆทานขาย น่าจะได้อ่านบ้างนะคะ บาปจะได้น้อยลง
***ชอบใจ...ใส่ทองหยอง ทำทาน เฮละโล...มองเห็นภาพผู้คนแถวบ้านแม่
***คุณกวิน..ใช้ภาษาให้ทั้งภาพและอารมณขัน....ดีจริง
***ขอบคุณค่ะ
สวัสดีคะ คุณกวิน
จิตใจผ่องใส แค่คิดดี ก็เป็นสุข บุญนำพาให้มีสุข..
ลมหนาวกำลังจะมา รักษาสุขภาพให้แข็งแรงรับอากาศเย็นด้วยนะคะ
---^.^---
สวัสดีค่ะน้องกวิน
ขอบคุณค่ะท่านผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ตามมาอ่านเพื่อให้ได้อานิสงส์ตามที่ผู้ชักชวนตั้งใจค่ะ
ขึ้นชื่อว่า ทำบุญ ก็ย่อมเป็นการปรารภสิ่งที่ดีแล้ว ถือว่าเจตนาดีมาก่อน การได้บุญหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ก็คงขึ้นกับที่คุณกวินสาธยายไว้โดยละเอียด
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ควรตั้งจิตไว้ให้เป็น มงคล อยู่เสมอ ... ในการทำกิจทุกอย่างทั้งคิด พูด ทำ .....จริงไหมคะคุณกวิน...
(^__^)
ขอบคุณท่านอาจารย์ ประจักษ์~natadee ครับ ธรรมกถึก ที่กวินไปฟังท่านบรรยายธรรม ท่านเป็น วิปัสสนาจารย์ ท่านเล่าว่า มียายคนหนึ่งคุยลั่นวัดเลยว่าตัวแกเองนั้นได้สร้างโบถส์ สร้างวิหาร ทำบุญนั่นทำบุญนี่ มีงานกฐินผ้าป่าที่ไหน แกก็ไม่เคยขาด ยายแกคุยลั่นเรื่องการทำบุญของแกลั่นศาลา พอยายแกเงียบเสียงเสียง(สงสัยจะคุยมากจนเหนื่อยแล้วจึงพักหยุดหายใจ) หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นว่า โยม!!! คนฉลาดน่ะ แค่ขยับตัวก็ได้บุญนะโยม คุณยายพอได้ฟังคำของหลวงพ่อ ก็ให้รู้สึกโกรธหลวงพ่อคนนี้เสียเหลือเกิน แต่แกก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำ แกเก็บความสงสัยในปริศนาธรรมนี้อยู่ในใจ กระทั่งแกตัดสินใจเอ่ยปากถามพระหนุ่มรูปหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ
ยาย : ท่านๆ ที่หลวงพ่อท่านว่า คนฉลาดแค่ขยับตัวก็ได้บุญนะเขาทำกันอย่างไร? พระหนุ่มจึงตอบว่า ก็คือการ เจริญวิปัสสนากรรมฐานอย่างไรเล่าจ๊ะคุณโยม "พระพุทธเจ้าตรัสในเบื้องปลายว่า “แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีลครบ 227 ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อย 100 ปี บุญกุศลยังน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิให้จิตสงบ(ฌาน) แม้นานเพียงไก่กระพือปีก” “ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม" (1)
ขอบคุณ คุณกวินที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านเป็นข้อคิดเตือนใจ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาปนะคะ แล้วแต่ใครจะทำให้ตนเองได้รับผล
อนุโมทนา ความเห็นถูก ย่อมปูทางไปสู่การทำนิพพานให้แจ้ง เพียรธรรมอย่าได้ลดละเถิด สาธุ
ขอบคุณ อาจารย์ Suchet Chookong เป็นทรรศนะ ที่ต้องขบคิดกันต่อไป ไว้มีโอกาสจะลองเอาไปถาม (ลองภูมิ) พระอรรถกถาจารย์ดูนะครับ :)
ขอบคุณคุณหมอ อัจฉรา เชาวะวณิช ครับ ความโกรธนี้เป็น อนิจจัง เป็น (ไม่เที่ยง) เป็น ทุกขัง (ทนได้ยาก) เป็น อนัตตา (ไม่มีตัวตน) เกิดขึ้นตั้งอยู่ (นานหน่อย) ประเดี๋ยวก็ดับไป ครับ :) นี่ ปริยัติธรรม ท่านว่าไว้ ส่วนภาคปฏิบัติ ก็ต้อง พิจารณาให้เห็น ให้รู้เท่าทันบ่อยๆ นะครับ
ขอบคุณ คุณพี่อาจารย์ คนตัดไม้ ครับ อุตส่าห์ ไปชวน คนไม่มีราก มาอ่านด้วย เธอชอบทำบุญนะครับ อ่านจากบันทึก :) นี่แอบนินทาเธอนะครับ
ขอบคุณท่านอาจารย์ ดร.อุทัย umi ครับ ของคนอื่นกวินนำมาเรียบเรียงเท่านั้นครับ
ขอบคุณครับพี่อ๋อย แอมแปร์~natadee ไปตามลิงค์ที่บอกมาแล้วครับ
ขอบคุณ เสธ. Col.boonyarit ที่เข้ามาอ่านครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์ กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
"ท่านที่ทำชุดสังฆทานขาย น่าจะได้อ่านบ้างนะคะ บาปจะได้น้อยลงชอบใจ ใส่ทองหยอง ทำทาน เฮละโล มองเห็นภาพผู้คนแถวบ้านแม่ คุณกวินใช้ภาษาให้ทั้งภาพและอารมณขันดีจริง"
ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ ขอเสริมท่านอาจารย์ นะครับ พุทธศาสนา สอนว่า; ให้ละชั่ว (not to do evil); ให้ทำดียิ่งๆขึ้นอีก (to increase good); ทำใจให้บริสุทธิ์ (to purify the mind). เคยอ่านเจอมาว่า บาปนั้นไม่สามารถทำให้น้อยลงหรือหมดไป แต่การที่เราทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป (to increase good) บาปนั้น จะบางเบาลง เสมือนกับเวลาที่เราดื่มเหล้าแล้วรู้สึกว่า เหล้านี้มันแก่ เกินไป เราเอาน้ำ หรือเอาโซดา เทลงในแก้วเหล้าเรื่อยๆ ปริมาณของน้ำ ย่อมทำให้เหล้านั้นเบาบางลงไปแต่ถ้ากินเหล้าก็ยังเมาอยู่ดี (คือฤทธิของเหล้าก็ยังให้ผต่อคนกินเหล้าแก้วนั้นครับ)
สวัสดีครับ
เหล้าไม่ดีต่อสุขภาพครับ มีเท่าไหร่ก็กินให้มันหมดๆ ไป จะได้ไม่มีเหลือให้เรากินอีก
อิๆๆ
ขอบคุณๆ พิมพ์ดีด รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันนะครับ
พุทธศาสนา สอนว่า; ให้ละชั่ว (not to do evil); ให้ทำดียิ่งๆขึ้นอีก
`i think so...
ขอขอบ คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน มาลัยอักษรา ที่กวินร้อยเรียงไว้ ณ ที่นี้ เกิดมาจากปัญญาของเหล่านักปราชญ์ราชบัณฑิต ซี่งท่านเหล่านั้นได้ปลูกให้เจริญงอกงามไว้บนพื้น บรรณพิภพ ครับ กวินเป็นเพียงแค่นายช่างผู้นำมา บุพผอักษรา มาร้อย และกรอง ไว้บูชาเพื่อบูชา พระรัตนตรัย ครับ
สวัสดีครับพี่นุส nussa-udon กวินก็ขอ ขอบคุณท่านผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน คือ อรรถกถาจารย์ทั้งหลาย ด้วยคนครับ
ขอบคุณ คนไม่มีราก ปิดเทอมไปทำบุญไหว้พระมาหรือเปล่าครับ? ขอบคุณมากๆ ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ น้ำผึ้งสีชมพู เคยได้ยินตลกร้อง ว่า "ผมเป็นลิเก คนจนบ้านอยู่ฝั่งธน ท่าพระ ผมเป็นลิเกนะจ๊ะ บ้านอยู่ท่าพระ ฝั่งธนฯ" คนอยู่ฝั่งธนฯ หรือ น่าจะเป็นคนที่มีน้ำอดน้ำทน นะครับ ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า ธนฯ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านและเยี่ยมชม ครับ ;)
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับผม
"คิดดี ทำดี พูดดี"
ขอบคุณ ครูลี่ ที่เข้ามาอ่านและเยี่ยมชมนะครับสมัยเด็กผมไม่ค่อยชอบวิชาเลข ไม่ค่อยทำการบ้านโดนครูสอนเลขหวดก้นบ่อยๆ เลยทำให้มีความหวาดระแวงครูสอนเลขนะครับแต่ครูลี่น่าตาใจดีนะครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ
ขอบคุณอาจารย์ โชคธำรงค์ จงจอหอ ครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ ธ.วั ช ชั ย ชนแก้ว กินน้ำเปล่าก็เมาได้นะครับ
สวัสดีครับท่าน กวิน ที่นับถือ
นับได้ว่าท่านเป็นผู้รู้กว้าง และรู้ลึกจริงๆ
อ่านบันทึกแล้วเพลิดเพลินเกิดปัญญา
สวัสดีครับคุณพี่ ดร.นารี naree suwan ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ :)
ภาพพระพุทธรูป ปางห้ามญาติหรือครับ คนไม่มีราก ? ขอบคุณนะครับ :)
น่าจะ "ปางลีลา" นะคะ ไม่แน่ใจ ....
แต่ก็คล้ายจะห้ามญาติ...ไม่ให้ทะเลาะกันอยู่เหมือนกันนะคะ....
คุณกวินสบายดีนะคะ
(^__^)
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณคุณ . ~Diamond~ ครับขอสักกะรัตได้มั้ยครับ จะเอาเงินไปออกค่ายอาสาฯ
สวัสดีครับท่าน ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง กวินก็เหมือนกับเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนน่ะครับ ท่าน
ขอบคุณ . คนไม่มีราก ครับ
นึกถึง บทสวดนมัสการพระพุทธคุณ ที่ว่า
องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บมิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
ร้อมเบญจพิธจัก ษุ จรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปทั้งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ข้าขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ-
สัมพุทธการุญ- ญ ภาพนั้นนิรันดร
สวัสดีครับ ครูคิม กับการให้ทานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถูกต้องแล้วครับ ถูกต้องแล้วครับ ถูกต้องแล้ว ครับ