ขณะผู้ป่วยรู้สึกตัว
5.1
ประเมินสภาพผู้ป่วย ซักประวัติการได้รับสารพิษ จำนวน
ระยะเวลาที่ได้รับ
5.2วัดสัญญาณชีพ ระดับความรู้สึกตัวและการเปลี่ยนแปลง
5.3ให้อาเจียนด้วยการล้วงคอ
5.4 ล้างกระเพาะอาหารโดยใช้สายยางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ที่สุด
และใช้น้ำสะอาดปริมาณไม่จำกัด
ล้างจนกว่าน้ำทีล้างปราศจากสีและกลิ่นของสารพิษ
(ถ้าเป็นพิษจากพาราควอท ใช้น้ำละลายดินเหนียวหรือน้ำโคลนหรือเบนโทไนท์
ให้ผู้ป่วยดื่มเข้าไปจนอาเจียน
แล้วจึงล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำละลายดินเหนียวที่เจือจางต่อไป)
5.5
ถ้าได้รับสารพิษทางผิวหนังให้ถอดเสื้อผ้าแล้วเช็ดตัวให้สะอาดโดยเร็ว
เช่น
ยาฆ่าแมลง สารพิษปราบวัชพืชพวก พาราควอท
5.6
พูดคุยเพื่อลดความวิตกกังวล
5.7ติดต่อญาติเพื่อรับทราบและวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป
5.8
บันทึกอาการเปลี่ยนแปลง
ขณะผู้ป่วยหมดสติ
5.9
ระวังการอุดกั้นทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะหยุดหายใจได้
5.10
วัดสัญญาณชีพระดับความรู้สึกและอาการเปลี่ยนแปลง
ภาวะพิษจากการได้สารพิษต่างๆ ภาวะพิษออร์กะโนฟอสเฟตหรือพาราไธออน อาการและอาการแสดง · รูม่านตาขยาย ชีพจรอาจเร็ว อีกไม่นานรูม่านตาจะหด ชีพจรช้าลง · เหงื่อและน้ำลายออกมาก · คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน · ซึม หมดสติ หยุดหายใจและตายได้ ภาวะพิษพาราควอท อาการและอาการแสดง · ทำลายผนังเซลเป็นแผล เซลของอวัยวะถูกทำลายที่สำคัญได้แก่ ไต ปอด และตับ ภาวะพิษParacetamal อาการและอาการแสดง · ผู้ป่วยที่ได้รับยา Paracetamal ในขนาดมากเกินไป จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างต่อเนื่องในวันแรก ไม่มีอาการรุนแรงร่วมด้วย · บางรายจะมีอาการไม่มากในระยะแรกเมื่อล้างกระเพาะอาหารแล้วแพทย์ให้กลับบ้านจะดีเกือบเป็นปกติดอยู่ระยะหนึ่ง หลัง 48 ชั่วโมงต่อมาจะมีคลื่นไส้อาเจีย · ตัวและตาเหลืองเกิดตับวายเป็นสาเหตุของการตาย ข้อควรระวัง 1.ไม่ล้างกระเพาะอาหารในรายที่กินกรดหรือด้างอย่างแรง โดยเฉพาะหลังจากกินไปแล้วนานเกิน ครึ่งชั่วโมง เพราะอาจทำให้ทางเดินอาหารทะลุจากการใส่สายยางเข้าไป 2. ไม่ล้างกระเพาะอาหาร (หรือถ้าล้างต้องระวังไม่ให้ผู้ป่วยสำลัก) ในกรณีที่ผู้ป่วยกินสารพิษประเภทตัวทำละลาย ทินเนอร์ น้ำมันการ์ด น้ำมันเบนซิน เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบของปอดอย่างรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต 3.การล้างกระเพาะอาหารจะได้ผลดีต้องกระทำโดยเร็วหรืออย่างช้าไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ยกเว้นพวกSalicylateอาจได้ผลถ้ากระทำภายใน 10 ชั่วโมง |