คนเอ๋ยคนไทย(แท้) จะปรับจะแก้อะไรได้บ้างหนอ?


Cv005 

     เพียงย่อหน้าเดียวในหน้า 5 ของงานเขียนที่ชื่อ "ประเทศไทยเมื่อพ.ศ.2485" ของตาแป๊ะวินัย ธีรวาส (คนขวางโลก) นักเขียน ป.4 ผู้ที่เรียนจบชั้นสูงสุดจากศาลาวัดบ้านนอก ซึ่งไม่เคยเสียเงินค่าเครื่องเขียนแบบเรียนเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว (ตะแกเก็บเอาจากนิสัยความมักง่ายขี้เกียจของคนไทย ที่ทำตกรอยแยกของกระดานพื้นลงไปใต้ถุนศาลาแล้วไม่ลงไปเก็บ) ก็ทำให้เราเห็นความแตกต่างและความเป็นไปเป็นมาของความจนค่นแค้นของคนไทยแท้ และความมั่งมีศรีสุขของคนจีนโพ้นทะเลบนแผ่นดินไทยอย่างชัดเขน  ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันนี้ วิถึชีวิตของคนไทยก็ยังมิได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่สร้างสรรค์หรือรู้เท่าทันอะไรๆขึ้นมาบ้างเลย บรรพบุรุษเคยประพฤติในด้านการเบียดเบียนตนเอง เบียดเบียนเพื่อนบ้านอย่างไร ลูกหลานเหลนโหลนวันนี้ก็ยังสืบทอดต่อกันมาอย่างเหนียวแน่น

Muaboon2 

      ดังนั้น วันนี้และห้วงวันเวลาที่ผ่านมา  เราจึงยังคงเห็นการมุ่งมั่นหมั่นขยันทำบุญ(พิธีการ) สร้าง(คิดว่าถาวร)วัตถุกันเอิกเกริกใหญ่โต มีจารีตประเพณีพิธีการงานเบียดเบียนกันและกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฐานะส่วนตัวและงานส่วนรวมได้ตลอดปี ในขณะที่กิจการงานอาชีพกลับแผ่วลง ไม่เกิดการพัฒนาและกระทำด้วยความขยันขันแข็งเท่าที่ควรจะเป็น  ซึ่งต่างกับชาวจีนที่มีกระบวนการพัฒนาและปรับตัวอยู่ตลอดเวลา  ดังจะเห็นได้จากการที่กำลังผันตัวเองไปเป็นเกษตรกร(รูปแบบใหม่) แทนการค้าขายที่เริ่มซบเซาเพราะห้างใหญ่ขยายตัวรุกไปถึงระดับอำเภอแล้ว เป็นต้น

Muaboon1 

งานบุญ งานประเพณี ไม่ว่างานอะไรในลักษณะไหน
สิ่งที่เห็นก็คือความเอิกเกริก สนุกสาน และสิ้นเปลือง(มากเกินจำเป็น)

Muaboon3 

(ของทุกอย่างที่ใช้ในพิธีกรรม ส่วนใหญ่ต้องซื้อหามาในราคาแพงทั้งสิ้น)

      แล้วเรา(คนไทยแท้)จะอยู่กันไปอย่างนี้เรื่อยๆหรืออย่างไร? เราจะไม่คิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรในส่วนที่เป็นสิ่งบั่นทอนและกัดกร่อนเรากันเองให้อ่อนแอลงบ้างเชียวหรือ?  เราจะมุ่งมั่นหมั่นขยันประกอบกิจกรรม(การเบียดเบียนตัวเองและเพื่อนร่วมสังคม)เพื่อหวังผลความสุขในโลกหน้ากันอย่างนี้เรื่อยไปหรือ?  แล้วชาตินี้ล่ะ?  ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้าเราจะอยู่อย่างไร?  เขาจะมีที่ยืนหรือเปล่า? หรือเราจะปล่อยเขาไปตามดวง  เมื่อชีวิตไร้ที่ทำกินก็ให้ลูกผู้ชายมีคุกเป็นเรือนนอนเพราะคดีฉกชิงวิ่งราวปล้นจี้ ส่วนลูกหญิงก็ขายนาผืนน้อยประทังชีวิตไปวันๆ หรือไม่ก็ฝากความหวังไว้ที่การหาสามีฝรั่งได้หรือไม่ได้ เช่นนั้นหรือ?

      ภาพต่อไปนี้ ครูวุฒิเก็บมาฝากเพื่อให้เห็นโทษลักษ์ความไร้สาระของคนไทย(แท้) ที่มุ่งมั่นหมั่นขยันและรักศักดิ์ศรีในเรื่องที่ไร้สาระอย่างสิ้นเชิง

Thairath181051005 

(เมื่อมีงานบุญก็มีงานรื่นเริง เมื่อมีรื่นเริงก็มีโอกาสขาดอิสระภาพเพราะเมา)

Thairath151051 

(เมื่อมีงานบุญ ก็มีโอกาสหยุดหายใจ เพราะต่างคนต่างใหญ่และมีศักดิ์ศรีเหนือผู้อื่น)

Thairath201051 

(ภาพบน)นี่ก็คือความสยดสยองอันเกี่ยวเนื่องมาแต่เรื่องบุญสินกินทาน และกิจของสงฆ์อันเกิดแต่ความสุขสนุกสบายไม่ต้องขวนขวายดิ้นรนเหมือนชนชาติอื่น (ข่าวไทยรัฐ 20 ต.ค. 2551)

Napajon3 

แต่พอเรื่องทำมาหาเลี้ยงชีพกลับไม่ใคร่ใส่ใจ พอมีปัญหา(ที่ไม่ควรเป็นปัญหา) กลับขยันออกมาเรียกร้องให้รัฐให้ อบต.ช่วยกันเย้วๆ (นี่เราจะไม่คิดพึ่งตนเองเลยหรือ?)

Thairath181051002 

อนิจจา....อนาคตลูกหลานไทย...!

**********

หมายเลขบันทึก: 217485เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2008 08:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เคยเรียนพุทธประวัติ  เหตุปัจจัยที่พระพุทธเจ้าออกบวช ประมาณนี้เป็นเหตุหลัก....อิอิ.อิ  ระวังครูวุฒิเป็นพระครูบวชไม่สึก...5555

  • แวะมาทักทายครับ
  • อ่านแล้วก็เพลียใจครับ
  • กระบวนการพัฒนาทางความคิดของเราคงไม่ประสบผลเท่าที่ควรนะครับ
  • การสร้างความคิดให้คนนั้นยากเหลือหลายครับอาจารย์
  • ผมสอนมาร่วมสามสิบปียังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสร้างให้คนคิดได้สักกี่คน
  • แต่เรื่องความรู้(วิชาการ)นั้นคงพอได้ครับ แต่จิตสำนึกไม่ค่อยแน่ใจ
  • แล้วกระบวนการทางบริหารจะมีแนวทางอย่างไรบ้างไหมครับ ขอฝากส่ิงต่อแล้วกันนะครับ
  • อาจต้องใช้ทางนโยบายระดับสูงขึ้นอีกต่อไป
  • สวัสดีครับ

สวัสดีครับท่าน ผอ. P นายประจักษ์~natadee

  • ขอบคุณครับที่แวะมาชี้ทางสว่าง
  • เรื่องออกบวช เป็นไปได้ครับ เพราะเป็นหนึ่งในแนวทางที่เคยตั้งปณิธาณไว้(หลังเกษียณ)  แต่ถ้าบวชจริงก็คงไม่มีญาติโยมกราบ เพราะคงพาญาติโยมสร้างบุญในลักษณะที่ญาติโยมชอบไม่เป็น
  • อาจจะเป็นพระที่บ้าไปชวนญาติโยมทำนาป่า ปลูกต้นไม้ใบหญ้า และเลี้ยงปลาเลี้ยงปู ไปโน่น
  • ว่าแต่ว่า เจ้าตัวเล็กหลานตาน่ะ น่ารักน่าชังดีแท้ ไม่ทิ้งตระกูล natadee  เลยนะครับ
  • สวัสดีครับ

สวัสดีครับท่านอาจารย์ P ประถม

  • นั่นสิครับอาจารย์  วิชาการเราสอนกันได้  แต่จิตสำนึกเนี่ยสร้างกันยากเหลือเกิน
  • ผมว่ามันต้องปรับแนวคิดทางการศึกษาทั้งกระบิ  นับตั้งแต่ระดับต้นๆกันเลย
  • ถ้าจะให้ผมดีไซน์นะ  ผมว่าระดับปฐมวัยและประถมศึกษา ควรเน้นการกล่อมเกลาสมองและเสริมสร้างจินตนาการ  มัธยมเร่งสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมความถนัดเฉพาะตัว  ส่วนระดับสูงกว่านั้นค่อยเน้นวิชาการเชิงวิจัย
  • ซึ่งคิดว่าน่าจะตรงกับธรรมชาติแห่งพัฒนาการของมนุษย์นะครับ  หรืออาจารย์ว่าไง  แลกเปลี่ยนเพิ่มเติมได้นะครับ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับ
  • จิตสำนึกเนี่ยสร้างกันยากเหลือเกิน จริงค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท