สวัสดีครับ วันนี้ "นาย Pompier" จะพาเพื่อนๆ เดินทางต่อไปยัง หมู่บ้าน Gordes อ่านว่า ก็อก(เดอะ) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ภูเขา โดยมีบ้านเล็กใหญ่ตั้งลดหลั่นกันไปก่อนถึงตัวหมู่บ้านจะมีจุดชมวิวซึ่งผมเชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาคงต้องแวะที่จุดนี้...และจากจุดนี้เองที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน Gordes ในมุมที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์บริเวณรอบๆหมู่บ้านด้วย Gordes อยู่ในเขตเทือกเขา Luberon (อ่านว่า ลู-แบ-คง) แรกเริ่มเดิมที Gordes มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ พอมาในสมัยโรมันก็ได้มีการสร้างบ้านเรือนบนยอดเขา เน้นนะครับว่า "ยอดเขา" ต่อมาในสมัยยุคกลางประชาชนก็ย้ายกันมาอยู่ และสร้างบ้านเรือนเพิ่มเติมจนเต็มภูเขาอย่างที่เห็น
ในปี ค.ศ.1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หมู่บ้าน Gordes ได้ถูกทำลายเป็นส่วนใหญ่จากกองทหารเยอรมัน หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้าง ซ่อมแซมขึ้นใหม่เป็นหมู่บ้าน Gordes ในยุคปัจจุบันนี่ล่ะ...ซึ่งเค้าว่ากันว่า มีข้อดีเหมือนกัน..คือได้มีการจัดวางผังเมืองใหม่ได้อย่างสวยงาม
ก่อนถึงตัวหมู่บ้านจะมีจุดชมวิวซึ่งผมเชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาคงต้องแวะที่จุดนี้...และจากจุดนี้เองที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน Gordes ในมุมที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์บริเวณรอบๆหมู่บ้านด้วย
ภาพด้านล่างนี้ ใกล้จุดชมวิวครับ เป็นบ้านคน ที่เห็นยื่นออกไปนั้น เป็นระเบียงบ้านเป็นหินวางยื่นออกมา มุมนี้วิวดีทีเดียวครับ
เสร็จจากตรงจุดชมวิวก็ขึ้นรถไปต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงตัวหมู่บ้าน สามารถขับรถขึ้นไปได้ถึงด้านบน แต่ต้องแน่ใจว่าวันนั้นไม่ได้มี "ตลาดนัด" เหมือนครั้งที่ผมไปล่าสุดก็เลยไม่มีที่จอดรถ ในกรณีไม่มีตลาดนัดที่ว่า จะมีที่จอดรถด้านบน
...ลงรถมาเราก็จะเห็น Château de Gordes ซึ่งสร้างมาครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ.1031 และทำใหม่อีกครั้ง ค.ศ.1525 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันเมือง ปัจจุบันภายในมี "le Musée Musée Pol Mara" แสดงผลงานของ Pol Mara ศิลปินชาวเบลเยียมครับ ค่าเข้าชมแค่ 4 ยูโรเท่านั้นเอง อันนี้ยังไม่ได้เข้าเลยครับ ...เอาไว้คราวต่อๆไป
...เดินถัดมาไม่ไกล ไม่น่าจะเกิน 50 ก้าว ก็จะพบกับ Eglise Saint-Firmin เริ่มแรกมีมาแต่ยุคโรมัน ศตวรรษที่ 12 แต่มาทำใหม่เป็นอย่างที่เห็นนี่ก็ในศตวรรษที่ 18 ภายในมีรูปวาดฝาผนัง เป็นรูปพระแม่มารี และบรรดา Saint ต่างๆ สวยเชียวล่ะครับ
ป้าย "Monument historique" แสดงไว้เพื่อหมายถึงสถานที่ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สำหรับตรงนี้เป็นทางเข้า "les Caves du Palais Saint Firmin" เป็นห้องใต้ดินเก่าแก่ที่ใช้เก็บของ ปกติจะเป็นจำพวกไวน์ และน้ำมันมะกอกครับ
ต่อไปจะพาไปเดินเล่นดูบ้านดูเมือง ของชาวบ้านหมู่บ้าน Gordes กันครับ ...หน้าเดิน..
...ก่อนออกจากหมู่บ้าน ขอแวะตลาดสักหน่อยครับ ที่นี่จะมี ตลาดนัด ทุกวันอังคารช่วงเช้า ครับ ร้านที่นี่ส่วนมากจะขายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองโพรวองซ์ครับ ผลไม้ ผัก มีให้เลือกกันสดๆ
ที่เห็นด้านล่างนี้เป็นมะกอกดองแบบต่างๆ หลากรส ทานเป็น apéritif อร่อยดีครับ
ร้านนี้ขายผ้าโพรวองซ์สีสรรสดใส
ส่วนนี้เป็นเทียนหอมครับ ไอเดียดี รูปร่างแปลก ราคาก็กระถางละ 15 ยูโรครับ
กลิ่นอายลาเวนเดอร์ยังไม่หายจากโพรวองซ์...
...เสร็จจากเดินตลาดที่เมือง Gordes ผมก็กลับขึ้นรถเดินทางกันต่อ ห่างไปอีก 4 กิโลเมตร ผมก็ขับรถเรื่อยๆ สบายๆ ชมทิวทัศน์ประมาณ 10 นาทีก็ถึงเป้าหมาย "หมู่บ้านหิน 3,300 ปี le Village des Bories" อ่านว่า เลอ วิล ลาจ เด โบ คลี่..(ค.ออกเสียงเคอะในลำคอนะครับ)
...ที่ว่า 3,300 ปีนี้ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หมู่บ้านหินที่นี่เริ่มสร้างมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (Préhistorique) ซึ่งอยู่ในยุคที่เรียกว่า l’Âge du bronze ( ช่วง 3,000 ถึง 750 ปี ก่อนคริสตศักราช ) อยู่กันมาต่อเนื่องเป็นเวลา 3,000 ปี จนมาถึงที่ใหม่สุดของหมู่บ้านนี้ สร้างในสมัยสตวรรษที่ 18 ..ใหม่มาก (อ้างอิงจาก www.gordes-village.com) ...โดยแรกเริ่มเดิมที การสร้างบ้านแบบนี้มีอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี และทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
...ลักษณะของ Borie เป็นการนำหินมาเรียงตั้งขึ้นไปป็นกระท่อม โดยไม่ได้ใช้วัสดุยึดใดๆ จินตนาการนะครับว่าหินหนักๆแบบนี้มาเรียงรายกันอยู่ให้เราดูจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร วิศวกรสมัยนั้นเค้าเก่งจริงๆครับ
เพื่อให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ผมก็เลยตีตั๋วเข้าไปชมราคา 5 ยูโรครับ ด้านในหมู่บ้านนี้จะประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวต่างๆของชาวโพรวองซ์ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ในอดีต และแน่นอนเราต้องไปดูว่ากระท่อมหินเหล่านี้ด้านในมีอะไรบ้าง ตามผมมาครับ...
...เริ่มต้นที่ห้องเก็บเอกสาร (Maison des documentations) หลังนี้ค่อนข้างใหม่มาสร้างเพิ่มเติมในสมัยศตวรรษที่ 17 ลักษณะเลยแตกต่างจากกระท่อมอื่นๆ
...หน้าตาเอกสารยุคศตวรรษที่ 18 จากซ้ายไปขวา พาสปอร์ต บัตรประจำตัวประชาชน ใบคำสั่ง และใบรับรองจบการศึกษาครับ
ด้านล่างนี้เป็น Passport ประเภท 1 ปี สมัยนั้นยังไม่มีรูปติดสวยงามแบบตอนนี้ ดังนั้นทางราชการจึงต้องเขียนรูปร่าง ลักษณะอย่างละเอียด แต่ว่าลายมือค่อนข้างอ่านยาก Passport ใบนี้เป็นของคุณลุงท่านหนึ่งอายุ 92 ปี ลงวันที่ 18 กรกรฎาคม 1826
ออกจากห้องเอกสาร เดินกันต่อครับ... พบกับเตาอบแบบโบราณ (Four) ซึ่งจะเห็นล่องรอยการใช้งานเป็นเขม่าสีดำติดอยู่บนเพดานกระท่อมครับ
...กระท่อม Borie แบบดั้งเดิมจะมีอยู่ชั้นเดียว ซึ่งจะแยกส่วนต่างๆออกจากกัน บ้านหนึ่งครัวเรือนก็อาจจะมีกระท่อมที่นอน กระท่อมคร้ว กระท่อมเก็บสัตว์และพืช กระท่อมเก็บไวน์ etc.. มาเดินดูบริเวณรอบๆกันต่อครับ
...ประชากรในหมู่บ้านนี้อาศัยอยู่ที่นี่จนถึงต้นศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นก็มีการซ่อมแซม ปรับปรุงกระท่อมมาเรื่อยๆ
...เข้ามาดูในบ้านกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง หลังนี้ซ่อมแซมมาเลยมีร่องรอยฉาบผนัง เป็นกระท่อมเดียวทั้งหมู่บ้านที่มีลักษณะนี้ครับ
...หากสงสัยว่า เค้าเอาหินมาวางเรียงๆกันเป็นกระท่อมแล้วมันอยู่ได้อย่างไร?
ภาพด้านล่างนี้เป็นคำตอบส่วนหนึ่ง หินพวกนี้ได้สกัดเพื่อนำมาเข้ามุมในการสร้างบ้านครับ
รูปด้านล่างเป็นภายใน กระท่อมเก็บผลผลิตทางการเกษตร และนี่เป็นเครื่องมือการเกษตรครับ
...เดินเข้ากระท่อมโน้น กระท่อมนี้ 20 กว่ากระท่อม รู้สึกเย็นสบาย ไม่ร้อนเลยครับ อาจเนื่องจากว่า เค้าได้ทำทางระบายลมไว้อย่างดี ไม่อบอ้าว จนไม่อยากออกมาสู้แสงแดดด้านนอกเลยทีเดียว
...มาเดินเล่นในหมู่บ้าน le Village des Bories เหมือนได้ย้อนเวลาไป 3,300 ปีที่แล้ว ถึงเวลาต้องขึ้น Time Machine กลับสักที...
ชอบนะคะเหมือนเดินทางเอง
ขอนำไปไว้ในแพลนเน็ตคนเดินทางนะคะ
ขอบคุณคะ
ตามเดินทางไปกับคุณ Pompier เช่นเคยค่ะ
ได้เห็นอะไรใหม่ๆน่าสนใจ ที่ตัวเองยังไม่มีโอกาสได้ไปเห็นด้วยตนเอง
ขอบคุณนะคะ
มาเที่ยวด้วยคนค่ะ
อากาศที่ฝรั่งเศษตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ขอให้จบเร็วๆ
รักษาสุขภาพ
แล้วจะแวะมาอ่านอีกค่ะ
สุดยอดกระท่อมหินจริงๆค่ะ
ไม่น่าเชื่อภูมิปัญญาคนในยุคนั้น..เจ๋งจริงๆ
อิจฉาคุณ pompier จังค่ะ ที่ได้ไปเที่ยวที่นี่ :-)
สวยค่ะ แต่ต้นไม้น้อยจัง ดูจะแห้งแล้งไปหน่อย
สวัสดีครับคุณ naree suwan
สวัสดีครับคุณ เกศนี
สวัสดีครับ...
ขอบคุณนะครับที่พาเที่ยวในที่ ๆ คงไม่มีโอกาสได้ไปเห็นด้วยตนเอง
แวะมาเยี่ยมค่ะ ชอบ ได้ความรู้