Present Simple Tense


Present Simple Tense

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรืออาจจะเป็นประโยคที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป รวมถึงประโยคที่กล่าวถึงความเป็นจริงที่ได้รับการยอมรับแล้ว รวมถึงสุภาษิตด้วย

โครงสร้าง          Subject + v(s,es).

Present Simple Tense คือประโยคที่มีประธานตัวเดียวและกริยาตัวเดียว เป็นประโยคแบบง่ายๆ

โครงสร้าง    Subject + Verb 1 + (Object).

ชนิดของประโยค

1. ประโยคบอกเล่า จะเขียนเรียงประโยคดังนี้ Subject + Verb1 + (Object). เช่น

She studies English four times a week.

We study Thai everyday.

- ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ ( He, She, It, Tom, My sister, Chip ) ที่คำกริยา

จะต้องเติม s หรือ es

- ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ ( They, We, You, I, My sisters, Chip and Trig )

ที่คำกริยาคงไว้เหมือนเดิม

2. ประโยคคำถาม จะต้องนำ Verb to do ( Do , Does ) มาวางไว้หน้าประโยคดังนี้

- ประธานเป็นเอกพจน์ เขียน Does ไว้หน้าประโยคและให้ตัด s หรือ es ที่คำกริยาออก คงไว้รูปเดิม

อย่าลืม ประธานจะต้องเขียนเป็นตัวเล็ก ยกเว้นชื่อ และ I ต้องเขียนตัวใหญ่เสมอ และที่ท้ายประโยค

ต้องใส่เครื่องหมาย ? ด้วย

Does she study English Four times a week ?

Does Chip come from another planet ?

- ประธานเป็นพหูพจน์ เขียน Do ไว้หน้าประโยค อย่าลืมใส่เครื่องหมาย ?

Do you study Thai everyday ?

Do they like swimming and windsurfing ?

3. ประโยคปฏิเสธ จะต้องใช้ Verb to do (do, does) + not = do not (don’t),

does not (doesn’t) ตามด้วยคำกริยาแท้รูปเดิม ดังนี้

- ประธานเป็นเอกพจน์ ใช้ does not + verb รูปเดิม เช่น

She does not study English four times a week.

Chip does not come from the earth.

- ประธานเป็นพหูพจน์ ใช้ do not + verb รูปเดิม เช่น

We do not study Thai everyday.

They do not like to eat fish.

 

Adverbs ที่ใช้ในประโยค Present Simple Tense เราเรียกว่า Adverb of Frequency เป็น Adverb ที่นำมาขยายคำกริยา เพื่อบอกถึงความถี่ของการกระทำกริยานั้นๆ และจะวางไว้หน้าคำกริยานั้นๆด้วย เช่น

always แปลว่า สม่ำเสมอ 100 %

usually แปลว่า เป็นประจำ 80 %

often แปลว่า บ่อยๆ 60 %

sometimes แปลว่า บางครั้งบางคราว 30 %

seldom แปลว่า นานๆครั้ง 10 %

never แปลว่า ไม่เคย 0 %

Examples:

She always goes to school early.

Malee usually cooks dinner.

Subject

Verb Form

Example

 

I

simple form

I sing

You

simple form

You sing

He

simple form + S

He sings

She

simple form + S

She sings

It

simple form + S

It sings

We

simple form

We sing

They

simple form

They sing

หลักการใช้

1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ หรือเหตุการณ์ที่เป็นไปตามธรรมชาติ  เช่น                                                           

    The sun rises in the east. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)                  

    The cat has four legs. (แมวมีสี่ขา)

2. ใช้แสดงถึงการกระทำที่เป็นปรกตินิสัย หรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำ มี Adverb of Frequency แสดง

    I have my breakfast everyday. (ผมรับประทานอาหารเช้าทุกวัน)

    Everybody wears thick clothes in winter. (ทุกๆ คนสวมเสื้อหนาๆ ในฤดูหนาว)

    We go to temple every Sunday. (พวกเราไปวัดทุกๆ วันอาทิตยì)

3. ใช้แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือสภาพที่เป็นปัจจุบัน เช่น

     She understands what you say. (เธอเข้าใจที่คุณพูด)

   I have four notebooks in the suitcase. (ฉันมีสมุด 4 เล่มอยู่ในกระเป๋า)

 

4. ใช้แสดงถึงการกระทำในอนาคต ซึ่งตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะปฏิบัติ

    The next semester begins in two weeks. (อีก 2 อาทิตย์จึงจะเปิดเทอมหน้า)

   He sets sail on Saturday for Samui. (เขาจะออกเรือไปสมุยในวันเสาร์)

·       หมายเหตุ* อย่าลืมนะว่าถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเติม S ห้ามลืมกฎข้อนี้เด็ดขาดนะ!!!

 

 

ประธาน

กริยาหลัก

 

 

บอกเล่า

I

am

 

French.

You, we, they

are

 

French.

He, she, it

is

 

French.

ปฏิเสธ

I

am

not

old.

You, we, they

are

not

old.

He, she, it

is

not

old.

? คำถาม

Am

I

 

late?

Are

you, we, they

 

late?

Is

he, she, it

 

late?

 

คำสำคัญ (Tags): #ภาษาอังกฤษ
หมายเลขบันทึก: 214451เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2008 18:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 09:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • I / You ประธานเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ Verb form ใช้เหมือนกัน
  • Everyone / Everybody / someone / somebody จะอยู่ในรูปเอกพจน์เสมอ
  • Thanks a lot.

น้องแอนขา krutoiรบกวนหนูดูบันทึกใหม่นิดหนึ่งนะคะ เดี๋ยวลูกศิษย์ตัวน้อย ของkrutoiจะสับสนนะลูก

ขอบคุณค่ะ ได้เรียนเรื่อง Present Simple Tense อีกแล้ว อิอิ

หลักการจำง่ายๆ เข้าใจมากขึ้นค่ะ...ขอบคุณมากๆ

everybody, everyone, everything และ everywhere ซึ่งเขียนติดกัน ก็ใช้กิริยาเอกพจน์

Everybody has gone home. (ไม่ใช่ Everybody have. . .)

 

I found that everywhere was booked up.

อะ...มือไวไปหน่อย...I เป็นประธานเอกพจน์ค่ะ..แต่ Verb ในประโยคไม่ต้องกระจายค่ะ(เติม s,es)

  • แอบมาหาความรู้ภาษาอังกฤษจากอาจารย์เชด
  • เขียนอีกนะครับ ได้ประโยชน์ดีมาก
  • แล้วจะตามมาอ่านครับผม

อาจารย์เชด สุดหล่อขา....ทำไมต้องให้แปลให้ด้วยคะ..แหมรู้ๆกันอยู่

อยากพูดภาษาอังกฤษได้ทำไง มีเคล็ดลับอะไรดีดีบ้าง

โหยความรู้เพียบ แต่จำไม่ได้สักอัน

จากโครงสร้าง ประโยค Present simple คือ Subject + v(s,es). แต่ในตัวอย่างจึงมีการใช้ is และ have อยากทราบว่ามี

หลักการใช้อย่างไรครับ

สงสัยว่า do เป็นพหูพจน์..แล้วทำไมไม่มีes

ทำไม does เป็นเอกพจน์ แล้วมีes

ตอบให้นิดนึงนะครับ...พอดีหลานผมถามมา...แต่ไม่รู้จะตอบยังไง...ขอบคุณครับ

do,does เป็น verb ที่มาช่วยประโยคที่ไม่มี verb to be (is,am,are) แต่มี verbแท้ อยู่แล้ว

ซึ่งใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธ

do ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์(I ,You, We, They)

does ใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์ (He, she, It )

เช่น We wach TV. >>คำถาม>> Do we watch TV?

She watches TV. >>คำถาม>> Does she watch TV? (es ที่ verb แท้ (watch)หายไป เพราะมี do มาช่วย)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท