งานกินเกลือ


สติช่วยให้เราอยู่ในโลกท่ามกลางความเห็นแก่ตัว ด้วยความไม่เห็นแก่ตัว อยู่กับคนที่มีความโลภมากๆ โดยความสันโดษมักน้อย อยู่กับคนขี้โกรธด้วยใจเมตตา ให้อภัยคนอื่นด้วยความเป็นมิตร

ผู้ที่สละเวลา สละความสะดวกสบายมาฝึกตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเสมือนเป็นงานกินเกลือ คือขัดเกลากิเลสของตนเอง เป็นโอกาสที่จะได้ถวายความดีแก่พระศาสนา

ยอดของความดีหรือบุญกุศลสูงสุดคือภาวนา เราภาวนากับความทุกข์ เราภาวนากับปัญหา เราไม่รังเกียจปัญหา เป็นการสร้างบารมี เป็นการชำระจิตใจตัวเอง แล้วในที่สุดเมื่อเราพ้นปัญหานี้ได้แล้ว เราจะมีความสามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นที่กำลังเจอปัญหานี้ได้อย่างดี ถ้าเรามองอย่างนี้แล้วก็จะมีกำลังใจ

 

ทางสายกลางนี้ มีการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาบ้างเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการสร้างความสุขุมละเอียดอ่อนต่อความพอดี และความพอดีนี้น หมายถึงความพอดีต่อการชำระกิเลส เรามุ่งปัญญา มุ่งที่จะปล่อยวาง

ความสงบที่เกิดจากสมถภาวนาเป็นความสงบที่เปราะ  อ่อนแอ ความสงบที่ควรมุ่งหวังในการปฏิบัติ คือความสงบที่เกิดจากการรู้เท่าทันสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง

ตัณหาที่เกิดในจิตใจมนุษย์ทุกวันนี้ส่วนมากเกิดจากการเก็บกดความต้องการในการมีอิสระ ซึ่งเป็นความต้องการอันดั้งเดิมของมนุษย์

ชีวิตประจำวันของเราแสวงหาความสุขทางเนื้อหนัง หรือด้วยสิ่งที่มีการเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา เราสงสัยว่าทำไมเราไม่อิ่มสักที ทำไมบางครั้งรู้สึกว้าเหว่ กลัดกลุ้มใจ รู้สึกขาดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าขาดอะไร นี่แหละแสดงถึงความเก็บกดความต้องการทางศาสนา

 

การหันหลังใส่ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ไปมั่วสุมอยู่กับสิ่งทรยศ(รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ )ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเพื่อนกินไม่ใช่เพื่อนตาย แล้วเราต้องการอะไรในชีวิต เพื่อนกินหรือเพื่อนตาย ถ้าต้องการเพื่อนตายต้องเอา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งทางใจ เราต้องมีการเสียสละเพื่อศาสนธรรม

 

เรายังเป็น นักโทษติดคุกติดตะรางจากความเพลิดเพลินจากสิ่งภายนอก ความเพลิดเพลินเป็นสิ่งที่ครอบงำจิตมนุษย์อยู่เป็นธรรมดา  "นักโทษ"ในอีกความหมายหนึ่ง คือความทุกข์เกิดขึ้นกับชีวิตแล้วโทษคนอื่น โทษคนโน้น โทษคนนี้  แต่ทุกข์ไม่ได้เกิดจากสิ่งเหล่านี้  สิ่งเหล่านั้นเป็นแค่เงื่อนไขหรือเป็นปัจจัย  หรือเป็นจุดกระตุ้น ....ความทุกข์อยู่ที่ใจ

ทำชีวิตให้เหมือนระฆัง  พอมีอะไรมากระทบ มันก็ไพเราะและเกิดประโยชน์ด้วย

ทัศนะของนักปฏิบัติ ทุกสิ่งเป็นธรรมะได้ถ้าเรามีสติ มีปัญญา ไม่ลืมตัว

สติช่วยให้เราอยู่ในโลกท่ามกลางความเห็นแก่ตัว ด้วยความไม่เห็นแก่ตัว อยู่กับคนที่มีความโลภมากๆ โดยความสันโดษมักน้อย อยู่กับคนขี้โกรธด้วยใจเมตตา ให้อภัยคนอื่นด้วยความเป็นมิตร

 

เราเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้ด้วยคุณธรรม แม้เราไม่เป็นเนื้อนาบุญอันยิ่งใหญ่เหมือนพระอริยสงฆ์เราก็ยังสามารถ เป็นเนื้อนาบุญอันเล็กๆของเพื่อนมนุษย์ได้ เป็นประโยชน์แก่สังคม เป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ยอดเยี่ยม

 

อย่าไปถือกรรมสิทธิ์ใน อารมณ์สิ่งที่เป็นสาธารณะ

 

                                                                               จากหนังสือ  งานกินเกลือ

                                                                             โดย  ท่านชยสาโร ภิกขุ

หมายเลขบันทึก: 208643เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2008 16:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

Pกมลวัลย์

ขออนุโมทนากับการเจริญในธรรมของอาจารย์ด้วยนะคะ 

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม

ปิ่ง

เข้ามาทักทายด้วยความระลึกถึงเสมอค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท