หนังสือดีที่น่าอ่าน “อเมริกาที่ยังใช้ม้าเทียมไถ”

จากเรื่องราวของชาวอามิชนี่เองที่ทำให้ผู้เขียนและครอบครัวเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตเราคืออะไร ?” แล้วเราต้องการอะไรในชีวิต “เงินหรือชีวิต”

เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้เล่าถึงชีวิตของชุมชนชาวอามิช ผู้เขียนได้หนังสือเล่มนี้มาอย่างโชคดีมากๆ คือจู่ๆ วันหนึ่งคู่ชีวิตของผู้เขียนได้ไปซื้อหนังสือออกใหม่ชื่อว่า “โต้คลื่นลูกที่สี่ เมื่อความพอเพียงคือคำตอบ” (เขียนโดย ดร.ไสว บุญมา อดีตเศรษฐกรอาวุโสของธนาคารโลก ที่ไปปักหลักใช้ชีวิตในอเมริกา) มาอ่าน ในหนังสือเล่มนี้ได้เขียนถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง และยกตัวอย่างการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงของชุมชนอามิชอยู่ด้วย ซึ่งทำให้เรานึกไปถึงหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “ธรรมดาและเรียบง่าย : การเดินทางไปหาความหมายชีวิตผ่านชุมชนอามิช” เขียนโดยซู เบนเดอร์ แปลโดยคุณสุภาพร พงศ์พฤกษ์ ซึ่งเป็นหนังสือดีมากเล่มหนึ่งที่เคยอ่านมาหลายปีแล้ว และในหนังสือ “โต้คลื่นลูกที่สี่เมื่อความพอเพียงคือคำตอบ” เล่มนี้เองท่านอาจารย์ ดร.ไสว ได้แนะนำให้อ่านหนังสือ “อเมริกาที่ยังใช้ม้าเทียมไถ” ซึ่งท่านได้เขียนมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นหนังสืออ่านเพิ่มเติม ทำให้ผู้เขียนดั้นด้นเขียน E-mail ไปขอซื้อหนังสือเล่มนี้จากท่านอาจารย์มาอ่าน เพราะว่าหนังสือไม่มีวางขายตามร้านหนังสือแล้ว และก็ได้มาสมใจอยากด้วยความกรุณาจากท่านอาจารย์ ดร.ไสว บุญมา ที่แนะนำให้ไปซื้อที่ อ.ทัศนีย์ กระต่ายอินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพกษัตรี ด้วยความขอบคุณจริงๆ

“ชุมชนอามิช” อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา ประเทศที่ทั่วโลกต่างซูฮกในความเป็นผู้นำ เป็นประเทศที่ร่ำรวยทางวัตถุนิยมสุดๆ นำหน้าด้านเทคโนโลยี แต่ที่น่าประหลาดใจกลับพบว่ามีชาวอามิชที่เคร่งในศาสนาและความเชื่อดำรงตนเองอยู่อย่างสมถะและเรียบง่าย ไม่มีเทคโนโลยีใดๆ แม้กระทั่งไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดบ้านเราบ้านนอกสุดๆ อยู่ป่าดงพงไพรแค่ไหน ไฟฟ้ายังพาสิ่งอำนวยความสะดวกไปหาจนได้ แต่ชุมชนชาวอามิชกลับปฏิเสธสิ่งเหล่านี้และดำรงตนอยู่อย่างเรียบง่าย มีบ้านพอให้ได้พิงพัก ไม่ต้องใหญ่โตหรูหรา ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่มีเสื้อผ้าของใช้แพงๆ หากแต่มีเท่าที่จำเป็น ปักผ้าเอง เย็บผ้าใส่เอง แม้แต่ตุ๊กตาของเล่นก็เย็บขึ้นเอง ใช้แรงงานคน แรงงานสัตว์ในการเพาะปลูก ไม่ใช้เครื่องทุ่นแรง ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้รถยนต์แต่ยังใช้รถม้าลากแทน สร้างโรงเรียนสอนกันเอง ไม่ต้องไปกวดวิชา แข่งกันเรียนสูงๆ ดำรงตนตามแนวทางของความศรัทธาในศาสนาที่ไม่ได้บูชาแค่เปลือกนอก เพราะชาวอามิชไม่มีเครื่องรางของขลัง ไม่มีแม้แต่โบสถ์ หากแต่ใช้โรงนาของแต่ละครอบครัวหมุนเวียนกันไป เป็นการเข้าถึงแก่นแท้ของศาสนาแบบไม่ยึดติด ที่สำคัญชาวอามิชไม่ได้เป็นอามิชตั้งแต่เกิด ไม่เหมือนเราที่เกิดมาก็เป็นพุทธแต่กลับไม่รู้แก่นแท้ของความเป็นพุทธ แต่ชาวอามิชจะอบรมเลี้ยงดูลูกหลานจนเติบใหญ่จนบรรลุนิติภาวะแล้ว ก็จะให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองว่าเขาจะเลือกเป็นอามิชหรือไม่

หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับชาวอามิชเพิ่มมากขึ้นจากหนังสือ “ธรรมดาและเรียบง่าย” ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ วิธีคิด ความศรัทธา วิถีการปฏิบัติ การกิน การอยู่ การเข้าสังคม และการแสดงออกต่างๆ ของชาวอามิช รวมทั้งการสืบทอดความเป็นอามิชสู่ลูกหลานที่ล้วนแล้วแต่อยู่อย่างธรรมดาและเรียบง่าย จากเรื่องราวของชาวอามิชนี่เองที่ทำให้ผู้เขียนและครอบครัวเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตเราคืออะไร ?” แล้วเราต้องการอะไรในชีวิต “เงินหรือชีวิต”

การมีเงิน การร่ำรวยไม่ใช่คำตอบของชีวิตและความสุข คนจำนวนไม่น้อยที่มีเงินมากหากแต่กลับไม่มีความสุขเลย หากแต่คนที่รู้จักพอเพียงต่างหากกลับสามารถสร้างชีวิตที่มีความสุขได้มากกว่า เงินจึงไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความสุขที่แท้จริง การบูชาเงินจึงตกเป็นทาสของการต้องดิ้นรนไขว่คว้าหามา แต่ก็ต้องแลกกับความสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไปเช่น เวลาและครอบครัว “เงินหรือชีวิต” คือการเลือกทางเดินหรือจุดยืนของตนเองว่าจะเลือกอะไร แน่นอนว่าหลายคนบอกว่าเลือกทั้งสองอย่าง เพียงแต่ความลงตัวที่พอเหมาะระหว่างสิ่งทั้งสองอยู่ตรงจุดไหนต่างหากที่เราต้องเลือก

ที่ร่ายมายาวมิใช่จะโฆษณาขายหนังสือใดๆ เพราะผมเองไม่รู้จักผู้เขียนและบริษัทผู้จัดขายใดๆ เลย แต่รู้จักท่านในฐานะของผมนำทางของความคิด ที่หยิบยื่นให้กับคนอ่าน ทำให้เรารู้สึกว่า “เราเป็นดั่งกันและกัน” และเรารู้สึกอยากทำอย่างพวกเขาเหล่านั้นบ้าง แม้จะเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของพวกเขาก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเสียเลย

หนังสือดีดีในยุคน้ำมันแพง สินค้ายิ่งแพง ให้ข้อคิดของการอยู่อย่างพอเพียงได้ดีไม่น้อย

เขียนใน GotoKnow โดย พ่อน้องซอมพอ
ใน คือชีวิต คือความเรียบง่าย

คำสำคัญ (Tags): #หนังสือดี#อามิช#พอเพียง#เศรษฐกิจพอเพียง

หมายเลขบันทึก: 198641เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 16:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน