#.ความเข้าใจ.คือกำลังใจ.คือพลังอันยิ่งใหญ่.ของชีวิต.#


ความเข้าใจ คือ พลังอันยิ่งใหญ่..ของชีวิต ความเข้าใจในกันและกัน..สร้างสรรค์โลกสวยงาม

อะไรๆหลายๆอย่าง เกิดจากความเข้าใจและความไม่เข้าใจในกันและกัน  ในมุมมองและความรู้สึก...ความเข้าใจ  คือ สายใยของสิ่งดีๆ เข้าใจตนเอง..จึงมีแต่สิ่งดีๆ เข้าใจวิชาการ..จึงเรียนเก่ง เข้าใจผู้คนรอบข้าง..จึงรู้สึกดีๆ เข้าใจชีวิต จึงอยู่บนโลกอย่างมีความสุข  ความไม่เข้าใจ...ทำให้อะไรๆ..ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น  

                                     

สร้างความเข้าใจ..ในตนเอง สร้างความเข้าใจ..กับผู้อื่น

สร้างความเข้าใจในกันและกัน  เพื่อสร้างสรรค์โลก..สวยงาม  

                                     

ความเข้าใจ...คือ..ความงดงามแห่งชีวิต 

ความเข้าใจ..คือ  สายใย..แห่งสิ่งดีๆ

ความเข้าใจ  คือ พลังอันยิ่งใหญ่..ของชีวิต

 

ความเข้าใจในกันและกัน..สร้างสรรค์โลกสวยงาม

ความเข้าใจ...เป็นกำลังใจ..ที่มีคุณค่ายิ่ง..ในหัวใจ  ค่ะ

^-^มีกำลังใจดีๆ...ในทุกๆวัน  นะคะ ^-^

 

 

หมายเลขบันทึก: 195879เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2008 07:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ชิวิตเราจริงแท้ยากหลีกหนี
ก้าวตามวิถีแห่งผลกรรมทำไว้
มีสุขสม . . เจ็บช้ำบ้างระคนกันไป
ไม่มีใครหลุดพ้นกฎบ่วงกรรม . .

ขอเพียงผ่านทุกอย่างด้วยสติ
ทำสิ่งที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่
เพราะชีวิตไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้
ไม่มีใครแพ้หรือชนะตลอดกาล

อะไรจะเกิดก็คงห้ามไม่ได้
เรื่องหัวใจนั่นยากหยั่ง . . . รู้เช่นกัน
รักเริ่มตอนไหนไม่อาจกำหนดคืน . . วัน
แม้รักแปรผัน. . ต้องยอมรับมันอย่างเข้าใจ

 

 

สวัสดียามเช้าครับ มีความสุขมาฝากครับ ขอให้มีความสุขในการทำงานทั้งวันนะครับ

เมื่อเข้าใจกัน ก็ไม่ทะเละกัน กลายเป็นหนึ่งเดียว เป้าหมายเดียวกันก็จะกลายเป็นพลังมหาศาลจริงๆ

....

กำลังใจ ดั่งพิรุณพรำ ชื่นฉ่ำใจ

ต้องจากใจ จริงใจ จะสุขใจ

ด้วยเปิดใจ ไม่หวั่นไหว อะไรๆ

....

เป็นกำลังใจ ท่ามกลาง ความสับสน

ไม่มืดมน ไม่อ้างว้าง ไม่เปลี่ยวเหงา

ไม่อับเฉา ไม่ร้าวราน เพราะประสาน

มีพลังใจ  มีความหวัง  ตลอดกาล

....

เพิ่ม กำลังใจแต่เช้า เพื่อลดความงุนงง

ในสังคม ที่แตกต่าง และหลากหลาย

ขอใจ เข้มแข็ง  และพลังใจมากมาย

จะช่วย ผ่อนคลาย  วิกฤติใต้น้ำเอย

....

ขอบคุณ คุณสายธาร กับกำลังใจค่ะ

ถูกต้องครับ...

1.ลำดับแรกเลยต้องเข้าใจตนเองเสียก่อนว่า เข้าใจเรื่องตรงนั้นอย่างไร

2.ประการต่อมาการสังเคราะห์ปรากฎการณ์หนึ่งๆด้วยองค์ความรู้ที่ตนมีก่อนที่จะสรุปว่าระดับความเข้าใจของตนเองอยู่ในระดับใด

3.ประการต่อมาจำแนกปรากฎการณ์ที่พึงควรเข้าใจออกเป็นอย่างน้อย 3ลำดับ คือ

3.1 ยังคลาดเคลื่อน

3.2 รับได้สอดรับพอเหมาะพอเจาะซึ่งกันและกันระนาบเดียวกัน

3.3 และรับได้ดีมากนำไปขยายผลต่อ

4.วิธีการปฎิบัติซึ่งรูปธรรมและปฏิกริยาของการเข้าใจแบบผิวเผินจึงอยู่ตรงนี้ คือ

4.1 เข้าใจว่าปรากฏการณ์นั้นคลาดเคลื่อน จะเลือกนิ่ง ตอบรับ เสียดทาน แนะนำ ก็แล้วแต่ศักยภาพปัจเจกชนและความเป็นวิญญูชน

4.2 เข้าใจว่าถูกต้อง จะเกิดบรรยากาศกัลยาณมิตร เครือข่ายเชิงบวก แนวร่วม

4.3 สุดท้ายก็คือ เป็นปรากฎการณ์ที่ดีมากนำไปขยายผลต่อ เป็นสุดยอดของความเข้าใจที่เป็นรูปธรรมซึ่งผู้ที่ดำรงวิชาชีพ "คนสอนคน"พึงเข้าใจและขยายผลต่อ เพื่อสิ่งที่ดี ถูกต้อง ได้ขยายแนวทางความเข้าใจให้กว้างขวางสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในปรากฎการณ์นั้นๆให้มากยิ่งขึ้น....

สรุป ตามแนวคิดของผมก็คือ ก่อนที่จะเข้าใจปรากฎการณ์ใดใด ต้องตระหนักเสียก่อนว่าตนเองมีความเข้าใจในปรากฎการณ์นั้นๆระดับใด การแสดงความเข้าใจจึงต้องเป็นตรรกะและพัฒนาในเชิงบวก มากกว่าที่จะเข้าใจเพื่อความสงบสุข สันติ แม้ว่าจะเป็นการเข้าใจแบบผิดๆก็ตาม....

P

ขอบคุณ คนพลัดถิ่น นะ

         ที่แวะมาทักทาย

                        มีความสุขกับทุกๆวัน...เช่นกัน  นะคะ

                

 

P

 ค่ะ ท่าน ผอ.ประจักษ์

เป้าหมายเดียวกันก็จะกลายเป็นพลังมหาศาลจริงๆ

                     ขอบคุณนะคะ.
                                    

P

ขอบคุณ คุณpooค่ะ

  มีกำลังใจดีๆ...ในเส้นทางชีวิตที่ก้าวเดิน  นะคะ

                    ขอบคุณค่ะ

                               

 

P

ขอบคุณค่ะ คุณกริช มากกุญชร

 ใช่ค่ะ  ความเข้าใจจึงต้องเป็นตรรกะและพัฒนาในเชิงบวก

                          มีความสุขในการทำงาน นะคะ

                                        ขอบคุณค่ะ

                                     

 

                        

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท