วันนี้ดีใจ ที่ได้นำพระธรรมเทศนาของท่านจ้าคุณพระราชรัตนรังษี ซึ่งถอดเทปโดย พระเรวัฒน์ อมตไกรวงศ์ และได้ส่งมาให้ผู้เขียนเป็นระยะๆ
เข้าพรรษาแล้ว แวะอ่านธรรมะกันหน่อยนะจ๊ะ
การฟังธรรม เป็นมงคลชีวิต ข้อที่ว่า ฟังธรรมตามกาล ขออนุโมทนาบุญทุกท่าน และขอแทนความกตัญญูต่อพระราชรัตนรังษี ที่มีต่อผู้เขียน ในคราวไปเป็นอาสาสมัครที่กุสินาราด้วยเจ้าค่ะ
***********************************
ต่างมุมมองเห็นหนี่งเดียว
มาอินเดียนับว่าโชคดี ได้ใช้พลังศรัทธาแบบอย่างไม่เกรงใจกิเลส ไม่ตามใจกระแสโลกที่กำลังเหนี่ยวรั้ง ฉุดกระชากลากถูสังคม ในบ้านเรานั้นจะสร้าง จะสร้างวัดนั้นต้องสร้างโบสถ์ก่อน เพราะโบสถ์นั้นเป็นศูนย์รวมศรัทธา ถ้าสร้างโบสถ์ทีหลัง วัดก็จะไม่เสร็จ แต่ที่อินเดียสร้างโบสถ์ก่อน เพราะว่า พ่อเราต้องมีที่อยู่ก่อน สร้างให้พ่อเรา ส่วนเราจะอยู่อย่างไรก็ได้ ที่จริงพ่อเราไม่รู้สึกหรอก แต่เรารู้สึก รู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ เราจะอยู่อย่างไรก็ได้ แต่สมเด็จพ่อเราต้องมีที่อยู่ มีที่กำบัง
เราอาศัยท้องแม่อยู่เป็นระยะเวลายาวนาน เป็นระยะเวลา ๙ เดือน ๑๐ เดือน ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ อาศัยลมหายใจของแม่ฟรี ๆ ขี้รดเยี่ยวราดอีกต่างหาก วัดมีความประสงค์อยากให้โยมทั้งหลายมีความกตัญญู ต่อผู้มีคุณ ใช้สตัง สร้างความสุข บางคนมีสตังแต่ก็ไม่ได้ใช้สตังในการสร้างความสุข กับใช้สตังในการหาความทุกข์ใส่ตน เรามีทรัพย์และใช้ทรัพย์ อย่างไม่สุ่สี่สุ่มห้า สุ่มสี่คือ อบายมุข ๔ ส่วน สุ่มห้า คือ มิจฉาวานิชย์ ๕ ประการ
เรามาแดนพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา เราสร้างวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์เพื่อรองรับเกียรติคุณขององค์สมเด็จพ่อ และผู้แสวงบุญ มาสรรเสริญเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า เกียรติคุณที่ปรากฏในความงามเบื้องต้น ความงามในท่ามกลาง และความงามในที่สุด ความงามเบื้องต้นคือ วัยงาม วัยประสูติ ความงามในท่ามกลาง คือ วัยตรัสรู้ และ ความงามในที่สุด คือ ความงามในวัยปรินิพพาน
ในหลวงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เราเป็นข้าของพระองค์ เราอยู่เมืองไทย สร้างวังให้อยู่ในวัด แต่อยู่อินเดียเราสร้างวัดให้อยู่ในวัง พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธาเป็นเจดีย์แห่งแรกในพุทธภูมิ พระเจดีย์ประดิษฐานพระธาตุของพระพุทธเจ้า และเส้นพระเจ้าของในหลวง สร้างเจดีย์เหมือนสร้างวังให้อยู่ในวัด โยมได้ถวายธรรมาสน์ และเสนาสนภัณฑ์อื่น ๆ โยมได้บุญทุกวันอยู่แล้ว ถวายธรรมาสน์ให้พระนั่งเทศ นั่งแสดงพระปาฏิโมกข์ พระผู้มีศีล ๒๒๗ โต๊ะหมู่คือพันธมิตร โยมถวายพระพุทธรูปซึ่งทำให้เป็นอริยทรัพย์ ภูมิปัญญา ภูมิศรัทธามาอวดกัน พระพุทธองค์เกิดเมืองนี้ ไม่จะต้องมีเอกสารทำไม เราเดินทางมาสู่อินเดีย เพื่อตามรอยบุญของเรา บ้านเราไม่นานก็จะเป็นของคนอื่น แต่วัดยังคงอยู่นิรันดร บ้านเรา ลูกคิดแล้วได้ตัง แต่แม่คิดแล้วเสียตัง ลูก ๆ มองพ่อแม่เป็นตู้ เอ ที เอ็ม มองพระเจ้าเป็นไก่เป็นกา แต่อินเดียมองสัตว์เดรัฐฉานเป็นพระ ไทยเรามองพระเป็นสัตว์ เวลาเราจะชนะแขก เราอย่าใช้อารมณ์ เพราะถ้าใช้อารมณ์ เราไม่มีวันชนะแขก เพราะเขาอารมณ์เย็นกว่า เราต้องใช้ความอดทน อดทนอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีปัญญาประกอบด้วย คนอินเดียเหมือนปลา ส่วนประเทศอินเดียเหมือนน้ำ ปลาจะขาดน้ำไม่ได้ เหมือนคนอินเดียจะขาดอินเดียไม่ได้ แม้จะไปอยู่ประเทศใดเมืองใด คนอินเดียจะต้องกลับมาประเทศอินเดีย แต่ประเทศไทยเอาปลามาไว้ที่เท้า คนไทยจึงเป็นตาปลา ปวดไหมโยม อินเดียขยันทำกิน เหมือนปลา ปลาไม่เคยนอนเฉย ๆ ไทยเรามองโลกเป็นตาปลา จึงเอาไปไว้ที่เท้า ตาปลาไม่มีขอบเขต คนอินเดียเอา ผงสีดำมาทาตา ซึ่งทำมาจากสมุนไพร เรียกว่า "ดายัน" ทำให้ตาเย็น ตาไม่ร้อน อินเดียจึงทาตา เพื่อให้ตาฉ่ำ ตาชุ่มเลี้ยงตาอยู่ทำให้ตาชุ่มฉ่ำอยู่เสมอ ทำให้มีน้ำตา ทำให้ตาไม่เป็นต้อ
คนอินเดียใช้ดายันทาที่ตา ทำให้ตาไม่ร้อน อินเดียถือว่าตาเป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่ซ่อมไม่ได้ และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย อินเดียจึงป้องกัน เพราะป้องกันดีกว่ารักษา เหมือนหลวงพ่อ หลวงพ่อขยันเขียนหนังสือ เวลาเขียนหนังสือ ตาท่านจะโต แต่เวลาเทศหลวงพ่อจะหลับตา อินเดียไปอยู่ที่ไหน ต้องกลับมาตายที่รัง
สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณpoo
สาธุ เช่นกันค่ะ ที่มาร่วมฟังธรรม ท่านเทศได้สาระมากค่ะ ฝากให้ทุกคน ที่อยากไปอินเดียค่ะ
โยคีน้อย
ไปอินเดีย ได้ปัญญากลับมานะ
ปัญญานี้สำคัญยิ่ง
ยิ่งเป็นปัญญาของแขก น่าเรียนรู้มาก
สาธุ
สวัสดีค่ะพี่โยคี
อยู่ที่ไหน ก็สนใจที่นั่นค่ะ โลกนี้จึงน่าท่องเที่ยว จดจำและเรียนรู้
ยังมีมาเสนออีกค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ