สวัสดีค่ะ เมื่อเข้าใจ ภาวะสุขภาพ ในตอนที่ 1 แล้วใช่ไหมคะ แล้วเราจะทำอย่างไรดีหล่ะที่จะทำให้เกิดการดำรงชีวิตอย่างผาสุก ขึ้นในที่ทำงานของพวกเรา
บันทึกนี้ต่อจาก Healthy Workplace ตอนที่ 1 : สุขภาพคือสุขภาวะที่สมบูรณ์ (Healthy) นะคะ
ส่วนที่ 2 การดำรงชีวิตอย่างผาสุก
(Happy Workplace)
ความรู้สึกมีความสุขกับการทำงาน กลายเป็นปัจจัยสำ คัญในการจัดการ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในองค์กร การลงทุนเพื่อสร้างบรรยากาศให้คนทำงานมีความสุขถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
การสร้างบรรยากาศให้เกิดความสุขในการทำงานเป็นประโยชน์ทั้งคนงาน และนายจ้าง โดยเชื่อว่า คนที่มีความสุขหรือองค์กรที่มีบรรยากาศแห่งความสุข จะมีพลังอันยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์ผลงานในทุกมิติ เช่น การเพิ่มผลผลิต การเพิ่มคุณภาพ เพิ่มยอด ความพึงพอใจของลูกค้า สร้างสรรค์และนวัตกรรม สามารถปรับตัวได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ลดความสูญเสีย ลดการขาดหรือลางาน ลดความเครียดของคนงาน ลดอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน เป็นต้น
วิธีสร้างบรรยากาศแห่งความสุขในงานมีหลากหลายวิธี และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจนานาประเทศไม่จำกัด องค์กรต่างๆ ได้นำหลักการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสุขในการทำงานมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย โดยความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา
ข้อมูลส่วนนี้ เห็นข้อมูลจากโครงการ HAPPY WORKPLACE ที่คุณหมอนายแพทย์ ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ เป็นอาชีวเวชศาสตร์ รพ ชลบุรี และเป็นประธานคณะทำงานโครงการ happy workplace ได้บอกกับอาจารย์หมอพิจารณ์ พานิช ความเห็นที่ 4 ที่บันทึกนี้ ค่ะ
โครงการ HAPPY WORKPLACE นั้นมีเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่ คนทำงานมีความสุข ที่ทำงานน่าอยู่ ชุมชนสมานฉันท์ ที่เราเรียกว่า HAPPY 8 หรือ ความสุขทั้งแปด ซึ่งประกอบด้วย
1. Happy Body ( สุขภาพดี ) มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและจิตใจ มี สมรรถภาพทางกาย
2. Happy Heart ( น้ำใจงาม ) มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกัน
3. Happy Society ( สังคมดี ) มีความรักสามัคคีเอื้อเฟื้อต่อชุมชนที่ตนทำงานและพักอาศัย มีสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดี
4. Happy Relax ( ผ่อนคลาย ) รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต
5. Happy Brain ( หาความรู้ ) การศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ นำไปสู่การเป็นมืออาชีพและความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน
6. Happy Soul ( ทางสงบ ) มีความศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต
7. Happy Money ( ปลอดหนี้ ) มีเงินรู้จักเก็บรู้จักใช้ไม่เป็นหนี้
8. Happy Family ( ครอบครัวดี ) มีครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง
ความสุขทั้งแปดนี้เกิดจากการนำสุขภาวะสี่มิติ คือ กาย ใจ สังคม จิตวิญญาณ มาปรับให้เหมาะกับสภาพสังคมเราทุกวันนี้
ในขณะที่ คุณ มาลินี ธนารุณ บอกเคล็ด ทำงานได้อย่างมีความสุข คห ที่ 6 ในบันทกนี้ค่ะ http://gotoknow.org/blog/beyondkm/11656
ทำงานได้อย่างมีความสุข เนื่องจากปัจจัยสำคัญดังนี้
1. ได้รับการยอมรับ ชื่นชม
2. แวดล้อมด้วยกัลยาณมิตร
3. ไม่มีปัญหาครอบครัว : พ่อ แม่ สามี ลูกๆ ญาติๆ
4. ไม่มีปัญหาสุขภาพกาย / ใจ
5. ไม่มีปัญหาการเงิน / หนี้สิน
6. มีธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งและหลักคิดยามพบอุปสรรค
7. พยายามฝึกสติอย่างสม่ำเสมอ
8. เลือกอ่านหนังสือดีๆ เลือกฟังแต่สิ่งดีๆ แล้วฝึกคิดฝึกเขียนบ่อยๆ
9. ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงผู้อื่น ปรับตนเองไปตามการเปลี่ยนแปลงดีกว่า
10. อยู่อย่างสมถะ มีเหลือก็แจกบ้าง ไม่มีก็ไม่ต้องใช้
แล้ว การดำรงชีวิตอย่างผาสุก ของท่านล่ะคะ ทำอย่างไร บอกต่อด้วยนะคะ
ถึงตอนนี้ ก็ได้เฉพาะความสุข (Happy) ว่าทำอย่างไร
ซึ่งยังไม่ครอบคลุมสถานที่ทำงาน (Workplace) งั้นหาเพิ่มให้อีกนะคะ
สถานที่ทำงาน (Workplace)
สถานที่ทำงานต้องน่าอยู่ น่าทำงาน และปลอดภัย ด้วยใช่ไหมคะ ขออนุญาตนำแนวคิด Green Environment จากบันทึกของอาจารย์ ขนิษฐา เมฆอรุณกมล มาแปะไว้และปรับใช้ร่วมกันนะคะ
แนวคิดผู้เขียน Green Environment หมายถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรกับบุคลากรและชุมชน ที่สามารถทำได้ เช่น
1. มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่แผนก ฯ มีนโยบายลดการใช้โฟม และถุงพลาสติก ลดภาวะโลกร้อน เช่น การสั่งอาหาร ไม่ใช้กล่องโฟม ค่ะ
2. Green Energy ที่มีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงาน เช่น การประหยัดไฟฟ้า สำรวจตรวจสอบอายุการใช้งานถ้าทุกคนมีจิตสำนึกร่วมกันย่อมทำได้ไม่ยาก
3. Green Workplace มีเป้าหมายในการดูแลสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานให้น่าอยู่ และปลอดภัยได้มาตรฐาน รวมทั้งไม่ให้มีผลกระทบต่อชุมชน ข้อนี้ถ้าทุกคนยึด Core Value การมีวินัยก็ไม่ยาก ยึดหลักการมีส่วนร่วมช่วยกันดูแลสถานที่ทำงานให้น่าอยู่ และปลอดภัย อันนี้ต้องอาศัยกิจกรรม 5ส ที่ต้องทำกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การให้บริการห้องน้ำห้องส้วม กลุ่มคนงานก็มีการดูแลเป็นอย่างดี มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ น่าชื่นชม
4. การแยกขยะที่มีประสิทธิภาพ มีทั้งขยะติดเชื้อ ของมีคม และ มีการนำขยะมา Recycle อันนี้ทำกันดีอยู่แล้ว ขอให้ทำกันต่อไป
เอาล่ะค่ะ เมื่อรู้แล้วว่าจะทำอะไรให้การดำรงชีวิตอย่างผาสุก ให้บังเกิดกับ กาย จิต สังคม และ ปัญญา ของเราเอง จะช้าอยู่ใย ก็ต้องเริ่มทำกันเลยนะคะ
หาแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มให้แล้วค่ะ
ขอบคุณมากค่า
ในความรู้สึก...ที่ทำงาน เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งค่ะ
รักที่ทำงาน...เหมือนบ้านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ พี่ไก่
ใช่ค่ะ
เห็นด้วยกับน้อง @..สายธาร..@
ที่ว่า ในความรู้สึก...ที่ทำงาน เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งค่ะ
รักที่ทำงาน...เหมือนบ้านค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ ลปรร
อโรคา ปรมาราภา จริง ๆ ค่ะ น้องโย่ง
สวัสดีค่ะพี่ไก่
เข้ามาเรียนรู้การดำรงชีวิตอย่างผาสุกในที่ทำงานค่ะ
Happy colleague ก็น่าจะเป็นหนึ่งใน Happy workplace นะคะ
เพราะมีหลายๆครั้ง ที่หลายๆคน ไม่มีความสุขในการทำงาน อันเนื่องมาจากผู้ร่วมงานค่ะ
เห็นด้วยค่ะน้องเอ๋ ว่าเพราะเพื่อนร่วมงานทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน
มีวิธีจัดการอย่างไร แนะนำได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ไก่
ชอบ HAPPY 8 มากเลยค่ะ
พอเอามาเทียบเคียงกับที่ทำงานแล้ว
เราก็มีอะไรดีๆ ไม่น้อยเลย
อาจจะมีบางอย่างไม่ดีพร้อมบ้าง
แต่จะทำให้ดีทั้งหมดคงไม่ง่ายนัก
หนูเอ๋คนสวย
อะไรที่ร้ายๆ และเราจัดการไม่ได้ (เช่น เรื่องของ "คน")
ก็ต้องดูแลตัวเองค่ะ
จัดการตัวเองง่ายกว่าจัดการคนอื่นค่ะ
....แต่ต้องไม่ใช่ แบบนี้เน้อ....
สวัสดีครับ พี่ไก่
โอ๋ว จริงหรือเปล่า สงสัยเนื้อคู่ไม่มาเกิด พี่รอมาจนจะเหงือกแห้งแล้วนะคะน้องโย่ง อิอิอิ
หวัดดีค่ะ พี่ไก่..สุขทุกข์ อยู่ที่ใจ เจ้าค่ะ ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ Happy home ค่ะ
สวัสดีค่ะ น้องพรหล้า