วันนี้มาดึกอีกแล้วค่ะ....หลังจากที่ห่างหายไปหลายสัปดาห์ ว่าจะเก็บไว้เล่าวันหลัง อยากพัก
ผ่อน เพราะอดนอนเป็นหมีแพนด้ามาหลายวันแล้ว แต่กลัวว่าพอมีงานติดพันเข้ามาก็จะนึกว่า เอาไว้ก่อน ๆ ยังไม่ว่าง เดี๋ยวค่อยเล่า ๆ แล้วก็จะไม่ได้เล่าเหมือนที่ผ่านๆมาอีกและจะไม่เป็นข่าวสดด้วย
หลายวันมาแล้วที่ต้องเต้นกินรำกิน ฝึกซ้อมนักร้อง แดนเซอร์ เพื่อไปประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับอำเภอเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา เพิ่งได้รางวัลชนะเลิศ ได้เป็นตัวแทนไปประกวดในระดับจังหวัดต่อ ในวันที่ 22 ก.ค. ที่จะถึงนี้
เรื่องก็มีอยู่ว่า....ท่านผู้ปกครองของเด็กๆ และตัวของเด็กๆ เองอยากจะไปต่อ...ครับพี่น้อง(เหมือนใน เดอะ สตาร์ เลย 555) เชียร์ให้ส่งประกวดในงานรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก จังหวัดแม่ฮ่องสอน ความจริงครูเหนื่อยแล้วก็เพลียมากอยากจะขอหลับแต่หัวค่ำ (ซักก่อนห้าทุ่ม เที่ยงคืน..อะไรอย่างนี้) อย่างชาวบ้านเค้าบ้าง เพราะวันหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว วันเสาร์ก็ต้องสอน ม.6 เลยยังลังเล จะบอกว่าไม่ว่าง มีนัดกินข้าว ดูตัว กับต่าย ณัฐพลเหตุผลก็อ่อนไปหน่อย อีกทั้งนักร้องชายรุ่นใหญ่ที่ชนะเลิศก็ไม่อยู่ ติดเข้าค่ายวิศวะที่เชียงใหม่ ถ้าเปลี่ยนนักร้อง เปลี่ยนเพลง แดนเซอร์ก็ต้องฝึกซ้อมท่าเต้นกันใหม่ เหลือเวลาเพียงแค่วันเดียว ถ้าจะไปก็ต้องซ้อมหนัก และต้องทุ่มเท เด็กๆ เค้าก็สัญญา (หือ....สงสัยอยากไปเที่ยวในเมืองละสิท่า) ทั้งอ้อนทั้งรบเร้าแถมหยอดทิ้งท้ายว่า " รางวัลที่ 1 ตั้ง 5,000 บาท นะคะครูขา พอดีเลยค่ะ...เราจะได้เอาไว้ตัดชุดใหม่ไว้ใส่งานหน้าที่จังหวัดไงคะ" ( แหม...หล่อนกะจะชนะอย่างเดียวเลยนะนี่) เลยตัดสินใจสมัครเอาวันสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. เห็นแก่เด็กตัวดำๆ เอ๊ย...ตาดำๆ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด...เพื่อ..เงิน เงิน เงิน ตัวเดียวเท่านั้น อ้าวๆ ไม่ใช่ ..เพื่ออนาคตของชาติ...นั่นแหละ แฮ่ะ ๆๆ
เมื่อวานนี้ก็เลยซ้อมกันอย่างหนัก ตัดสินใจส่งนักร้องหญิงตัวน้อย ม.2 ที่ชอบร้องเพลงลูกทุ่งเป็นชีวิตจิตใจ และทางบ้านก็ส่งเสริม เคยชนะในงานกาชาดฤดูหนาว และ งานหนูน้อย LG ที่จังหวัด สมัยอยู่ประถมฯ แล้วก็ส่งเสียงร้องใส่ซีดีไปคัดเลือกในรายการชิงช้าสวรรค์ ช่วงเสียงดีมีค่าเทอม ผ่านแล้วด้วย (ประวัติไม่ธรรมดา) น่าจะมีหวังอยู่บ้าง
เจ้าหนูน้อยเค้ามาถามว่าจะร้องเพลงอะไรดี...ที่หนูเคยร้อง เช่น นักร้องบ้านนอก บวชชีหนีกิ๊ก เอ๊ย..หัวใจถวายวัด ...ดีมั้ย ครูก็เลยบอกให้เลือกเพลงที่ร้องแล้ว .."ฆ่าให้ตายทั้งเวทีไปเลย."..(เหมือนตอน เจนนิเฟอร์ คิ้ม ร้องเพลง "คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว" มีความรู้สึกว่า เสียงอันโหยหวนของเธอทำให้นักร้องคนอื่นๆ เหมือนถูกฆ่าไปทั้งเวที) คือเพลงเดิมที่เคยชนะ "กอดหมอนนอนหนาว" ของราชินีลูกทุ่ง แม่ผ่องศรี วรนุช กับ "3โห่ 3 ช่า" ของ คัทลิยา มารศรี ซึ่งเป็นเพลงที่ร้องยากสำหรับเด็กแต่ไพเราะมาก (สำหรับครู ) พูดง่ายๆ ครูชอบ นักเรียนก็ไม่ควรจะไม่ชอบ ...(โห...) ไม่หรอกค่ะ ..หลอกเด็ก เอ๊ย ...กล่อมเด็ก ง่ายกว่าผุ้ใหญ่ตั้งเยอะ ฮิๆๆ เค้าน่ารักค่ะก็เห็นชอบตรงกัน แต่ปัญหาเค้าไม่ได้ร้องเพลงนี้มานานแล้ว เสียงเริ่มแข็งบ้าง อีกอย่างชอบลืมตัว นึกว่าตัวเองเป็นนักเต้น เผลอเป็นไม่ได้ เวลาเค้าคิดท่าเต้นกัน เอาเชียว...อยากช่วยคิดมั่ง (แล้วก็เต้นเก่งซะด้วย) ชอบแอบไปเต้นกับพี่ๆ แดนเซอร์ซะเรื่อย
แล้วก็ต้องจับแม่นักร้องตัวน้อยแสนซนแยกมาซ้อมร้องเพลงต่างหาก (ในฐานะที่ทำให้ครูอดดู "กับดักหัวใจกับยัยแม่มด" เพราะต้องตื่นแต่เช้าไปส่งพวกเจ้าประกวด) อยู่ใกล้กันก็จะวิ่งไปเต้นอีกจนได้แหละ ร้องให้เค้าฟังหนึ่งรอบ (หลายรอบเดี๋ยวจะไม่เหมือนเก่า ฮิๆ) บอกให้ร้องเสียงหวานๆ นุ่มๆ อ้อนๆ ตามอารมณ์เพลง ออกเสียงอักขระ ให้ชัดเจน อยู่บนเวทีต้องสะกดคนฟังให้อยู่หมัด เค้าเริ่มตั้งใจขึ้น ให้ฝึกร้องร้องท่อนที่ยากๆ ซ้ำๆ จนดีขึ้น แถมบอกว่า..โอ้โห..ครูขา..ร้ายกาจๆๆ (มันแน่อยู่แล้วเจ้าหนูน้อย) ขนแขนสแตนอัพเลย หนูอยากร้องเพราะเหมือนครูจังค่ะ...(เด็กมักไม่โกหก ) 5555 ให้มันรู้ซะมั่ง ..ว่าใครเป็นใคร....
ส่วนนักเต้นก็ได้รุ่นพี่ศิษย์เก่าที่ตัวเป็นชาย แต่ใจใคร่เป็นหญิง ใครๆเห็นชอบทักว่า รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ คล้าย มอริส เค ตัวก็ใหญ่แต่ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า "หนู" และคำตอบรับก็ใช้ "ค่ะ" เหมือนสาวๆ มาช่วยสอนให้ เต้นเก่ง เพราะมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์แห่งประเทศไทยสมัยที่ไปเรียนอยู่พาณิชยการศรีธนาเชียงใหม่ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่อง 7 สีเคยถ่ายทอดสดให้ชม แถมแต่งหน้า ทำผมก็สวย เราซ้อมกันหนักตั้งแต่ 10โมงเช้า จนดึกเกือบ 4ทุ่ม ทั้งนักร้อง นักเต้นเพื่อให้ได้ 2 เพลง ในวันเดียว เพราะต้องไปแข่งในวันรุ่งขึ้น
และแล้ว.... วันที่ 6 ก.ค.ก็มาถึง เราจะต้องไปประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งและเต้นประกอบจังหวะในงานรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดโดยสำนักงานสาธารณสุขแม่ฮ่องสอน ณ หน้าศูนย์แสดงสินค้า บริษัทโตโยต้า ล้านนา จำกัด สาขาแม่ฮ่องสอน....ครูก็ตื่นสาย เพราะกว่าจะได้นอนก็ ตี 1กว่า ต้องไล่ส่งเด็กๆ ถึงบ้านครบทุกคนก่อน เสียงปลุกจากนาฬิกาโทรศัพท์ไม่เห็นจะปลุกเลย แฮ่ะๆๆ นัดกัน 6 โมงครึ่ง เลยเวลาแล้วแหละ รีบมาร.ร.ทั้งชุดนอนลายการ์ตูน...จะได้ไม่เสียเวลาเพื่อจะไปเปิดห้องก่อน ....โอ้..พระเจ้า...เด็กๆและผู้ปกครองที่มาส่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว....ก็เลยทำหน้าสารภาพบาป ยังโดนเด็กๆ แซวว่า...ครูก็ไปชุดนี้เลยซิคะ..หือ...ไม่ล่ะค่ะ มันน่ารักคิกขุไป...แหม..มาช้าหน่อยเดียว ประชดซะๆ (ฮึ..ฮึ อย่าหวังเลยจ้ะ...เข้าเมืองทั้งทีครูสวยอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ) เปิดห้องเตรียมทำผม ต้องไปรายงานตัวก่อน 11 โมงเช้า
ออกเดินทาง 8 โมงกว่าๆ ด้วยรถตู้ของร.ร. จากขุนยวมไปจังหวัด 67 ก.ม.ใช้เวลาราว 1ชั่วโมงพี่อ้วนผมแดง(คนช่วยซ้อมเต้นให้) ก็มาเป็นช่างเสริมสวยด้วยช่วยดูทุกอย่าง ครั้งนี้มีการแข่งขันแบ่งกันเป็น 3 ประเภท คือ 1.ระดับประถมฯ 2.มัธยมฯและนักศึกษา 3.ประชาชน เกณฑ์การตัดสิน คือ ต้องแนะนำตัว แล้วมีเนื้อหาเชิญชวนให้ร่วมมือกันป้องกันไข้เลือดออก ตามด้วยร้องเพลงช้า และเพลงเร็ว ตามลำดับ โดยใช้เวลาภายใน 10 นาที กติกาทีมละ 5 คน คือ นักร้อง 1 คน แดนเซอร์ 4 คน การแต่งกายมีความเหมาะสมกับวัฒนธรรมที่ดีงาม มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสามารถในการดึงดูดใจผู้ชม (ข้อสุดท้ายนี่ไม่ยากแฮะ..ใช้สื่อความงามอันเป็นอมตะของครูนี่แหละ ฮ่าๆๆ)
ขาไปเมารถกันเกือบทุกคน เพราะพักผ่อนน้อย ครูยิ่งเมา คุณหนูนักร้องเมาโค้งไปโค้งมาที่ปราบเซียนนักท่องเที่ยวมานักต่อนักแล้ว (ที่จริงก็มีแค่ 2 โค้งเอ๊ง..โค้งซ้ายกับโค้งขวา 5555) อ้วกจนได้ที่ หน้าซีดลง ซีดลง แม้เมื่อเวลาแต่งหน้าทำผมสวยงามเป็นที่ยิ่งแล้วก็ตามแต่ ยังไงก็ไม่ยอมยิ้ม ได้แต่คิดในใจว่า...จะไหวมั้ยครับ..พี่น้อง
ตอนบ่าย 2 กว่าๆ ก็ไปถึงที่ประกวด...ผู้ชมช่างมากมายอะไรเช่นนี้ ทีมที่เข้าประกวดประเภทมัธยม มีทั้งหมด 9 ทีม โอ้โฮ.... จะสมัครมาทำไมกันนักหนาฮะนี่ รางวัล มี 3 รางวัล คือ ชนะเลิศ รองชนะเลิศ และชมเชย จะต้องมีคนที่ได้รางวัลปลอบใจ 6 ทีม ตอนนี้นักร้องยังหน้าตาไม่ค่อยสดชื่นขึ้นเลย แต่แดนเซอร์ สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง ยิ่งนัก เพราะหนักขนตาปลอม ครูก็เลยกระซิบเบาๆ แบบติดตลกว่า...หนูไม่ต้องตื่นเต้นนะ เรามาไกล ตอนอยู่บนเวที ให้ยิ้มเยอะๆนะ นึกในใจว่า "ห้าพันๆๆ " (ไม่ได้งกนะ แต่เพื่ออนาคต) ฮิๆ นักร้องบอกว่า...หนูไม่ได้ตื่นเต้นค่ะ หนูไปมาหลายเวทีแล้ว แต่...หนูกลัวจำที่ครูสอนให้พูดไม่ได้...เหอๆๆ
มองหาที่นั่ง เหลือเพียงไม่กี่ที่ และกำลังจะไม่เหลือสักที่ เพราะลูกเล็กเด็กแดงที่ติดสอยห้อยตามพ่อแม่ผู้ปกครองมานั้นช่างสนุกสนานกับการได้ช่วยกันย้าย ลากเก้าอี้ไปที่โน่นที ที่นี่ที ไม่ได้คิดจะนั่งอยู่กับที่ให้ผู้ชมได้หายเวียนหัวกับการมองตามเก้าอี้ที่ลากไปลากมาเล้ย กำลังคิดว่า ...ฉันจะได้นั่งมั้ยนี่ คุณอ้วนก็ยกเก้าอี้มาให้ทันทีเยื้องๆ ข้างหลังท่านคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งมีอยู่ 3 ท่าน เป็นดี.เจ จากสถานีวิทยุ อ.ส.ม.ท.แม่ฮ่องสอน
เราได้ร้องเป็นทีมสุดท้าย เสียงพิธีกรประกาศเรียก ....นักร้องนำแดนเซอร์ทั้ง 4 ขึ้นเวทีอย่างมั่นใจ อะไรกันนี่....พูดจาฉาดฉานมาก แนะนำตัว แสดง พูดรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกได้ดี ดนตรีเพลง "กอดหมอนนอนหนาว" กังวานขึ้น ครูนั่งลุ้นจะแย่...แหม...เสียงร้องเหมือนสอนไว้เลย หางเสียง...หนาววววววววววสะท้านจนคนดูกรี๊ดดดด... (เริ่มดึงดูดๆ) แดนเซอร์ก็พริ้วไหว แล้วเพลงช้าก็จบลงด้วยท่านอนไล่ลำดับสูงต่ำกัน เสียงนักร้องพูดว่า...มาสนุกกันต่อในเพลง 3โห่ 3ช่า เลยค่ะ .....แดนเซอร์ก็ดีดตัวลุกขึ้น..ให้ตายสิ..โรบิ้น วิญญาณศิลปินเข้าสิงจริงๆ ด้วย เด็กคนนี้ นับถือเลย อาการหงอยเหงาเศร้าซึมหายเป็นปลิดทิ้ง ...พอเพลงขึ้น....ตะลึงเลย..ราวกับคนละคน ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม ทั้งร้องทั้งเต้นสะบัดช่อ (ของชอบๆของเค้าอยู่แล้ว) เด็กๆ ทำอะไรก็น่ารักแหละ ทั้งนักร้อง ทั้งแดนเซอร์ เต้นมันจนสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊มเลย ประการสำคัญ....น่าจะชนะใจคนดูเพราะ ...พอร้องว่า..."โห่ให้ดังเต็มร้อย ฉลองโชคหน่อย บ้านเราโชคดี เอ้า..โห่กันให้นานๆ ฉลองหมู่บ้าน คนดี โชคดี...โห่.... โฮ...." คนดู ก็ร่วมด้วยช่วยกัน พากัน..ฮิ้ว .หิ้ว..ววววดังมากๆๆๆ แถมครู เอ๊ย....พี่ๆ แดนเซอร์ก็สวยบาดใจ ช่างภาพพากันถ่ายรูปไม่หยุด ตั้งแต่อยู่บนเวที จนลงมาข้างล่าง ก่อนจบเพลงนักร้องหนูน้อยมหัศจรรย์ก็เต้นท่าปลาโลมาตามจังหวะเหมือนลูลู่ ลาล่า วงโปงลางสะออนเรียกเสียงฮาปิดท้ายซะอีกแน่ะ....เด็กวัยเดียวกัน...หนาว
อนิจจา....ไม่อยากจะเชื่อเลย หนูแสดงทุ่มสุดตัวเพื่อเงินได้ถึงเพียงนี้ จริงๆ เหรอนี่ ฮ่าๆๆ เสียงครูร.ร.อื่นที่นั่งข้างๆ บอกว่า..มีลุ้นๆ แล้วก็ลุกขึ้นชูหัวแม่โป้งให้....อือม ..เห็นด้วยค่ะ อิอิ ในใจคิดว่า....นาทีนี้ต้องติด 1 ใน 3 แน่นอน ....เด็กๆ พากันถามว่าเราทำดีมั้ยคะๆๆ ...(หือ...เธอไม่รู้เหรอว่าตลอดเวลาที่อยู่บนเวทีครูใส่หัวใจเข้าไปในใจเธอทุกคน...ครูมีสมาธิมาก โทรศัพท์มาก็ไม่ยอมรับ ไม่อยากคลาดสายตา..ยกเว้น...พี่เคน ธีรเดช กับ ต่าย ณัฐพล 2 คนนี้ไม่รับไม่ได้แล้ว 555...จนคนโทรมาไม่รู้มีน้ำโหรึเปล่า..ตามมาหาถึงที่เลย..โอ๋ย...)... ฮื่อ.. ดีมาก
แล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง ประกาศผลรางวัล มี 9 ทีม ประกาศทีมที่ได้รางวัลปลอบใจไปทีละทีมจนครบ 6 ทีม เหลือ 3 ทีมสุดท้าย พิธีกรประกาศเรียกขึ้นไปบนเวที แล้วประกาศจากรางวัลชมเชยก่อน ลุ้นมาก ไม่อยากได้ยินชื่อร.ร.เรา แล้วก็ไม่ใช่ เหลือ 2 ทีม เสียงพิธีกรบอกว่า " ชื่อที่ผมจะประกาศต่อไปนี้เป็นทีมที่ชนะเลิศ " ครูเห็นเด็กๆ ยืนจับมือกันแน่น ช่างเหมือนกับเวลาที่เค้าจะประกาศผลว่าใครคือนางสาวไทยปีนี้ ตอนเหลือ 2 คนสุดท้ายบนเวทีซะจริง พิธีกรก็ลีลา มีการหันไปพูดว่า... เดี๋ยวขอดูหน้าหน่อย....เด็กๆมองลงมาท่าทางจะตื่นเต้นสุดขีด เสียงใครก็ไม่รู้ผู้หวังดีแต่คงไม่ประสงค์แสดงตัวแว่ว ๆว่า "ถ้าขุนยวมไม่ชนะก็โกงแล้ว" (นั่นน่ะสิคะ) เราสบตากันแล้วยิ้ม ดนตรีก็ทำเสียงตื่นเต้นจังเวลาที่จะประกาศว่า "ทีมที่ชนะเลิศในวันนี้ คือ ทีม.... ขุนยวมวิทยา " ...เสียงเฮดังลั่นจนแสบแก้วหู กรรมการตัดสินนั่งยิ้มสีหน้าพอใจที่ตัดสินถูกต้อง ไม่โดนอะไรขว้างปา ผู้ชมหรือแม้แต่คู่แข่งต่างมาขอถ่ายรูปเด็กๆกันใหญ่.....เก๊กท่ากันซะเมื่อยหน้า
ถึงวินาทีนี้....จึงได้รู้ว่า...เสียงปรบมืออย่างกึกก้องและยาวนาน เสียงเฮของผู้ชมรอบทิศ คือรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะเป็นกำลังใจให้พวกเราต่อไป เรากลับบ้านพร้อมกับรางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและประกาศเกียรติบัตร ระหว่างที่นั่งรถกลับเสียงคุยกันมาไม่หยุดปาก เมาท์แตกกระจาย เมื่อถามว่า ไม่เมารถเหรอ....ไม่มีใครเมาเลย เพราะทุกคนดีใจมาก นั่งรถกลับอย่างมีความสุข ฝนก็ตกปรอยๆ อากาศเย็นสบาย มองต้นไม้เขียวชอุ่มสองข้างทางสดชื่นจัง ไม่เห็นจะมีใครเวียนหัวอย่างขามาเลยแฮะ ...อานุภาพของ..เงิน เอ๊ย..ความภาคภูมิใจมันหอมหวานอย่างนี้นี่เอง ไม่เสียแรงที่ทุ่มเท ฝึกซ้อมอย่างหนัก อัจฉริยะข้ามคืน...ฮิๆๆๆ คุ้มค่าจริงๆ นี่ขนาดหนูเป็นตัวรองไปแทนพี่ใหญ่นะนี่
ตอนที่ชนะ ในใจคิดไว้ คนที่อยากบอกให้รู้ข่าวเป็นคนแรก และอยากขอบคุณมากที่สุดคือ อาจารย์ Wasawat Deemarn เพราะว่าอาจารย์เป็นคนที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด
เสียงร้อง....โห่ให้ดังเต็มร้อย ฉลองโชคหน่อย บ้านเราโชคดี เอ้าโห่กันให้นานๆ ฉลองหมู่บ้าน คนดี โชคดี....ดังอยู่ในรถ ...ถึงขุนยวม...แวะส่งเด็กๆ ทีละบ้าน แต่ละคนตะโกนบอกผู้ปกครองลั่นเลย..."แม่ ได้ที่1 " ชูถ้วยรางวัลให้ดูด้วย แม่ก็บอกว่า "นั่นแหละออกไปแข่งข้างนอกบ้าง จะได้รู้ แข่งในอำเภอ ก็ชนะไม่ตื่นเต้น " (โอ๊ยยย....คุณแม่ไม่ตื่นเต้น เด็กๆ กับครูตื่นเต้นเจ้าค่ะ) แหม..ถ้ามีผู้ปกครองเข้าอกเข้าใจลูก ให้การสนับสนุนส่งเสริมลูกหลานแบบนี้มากๆ เยาวชนไทยหัวใจลูกทุ่งคงไม่สูญหาย...วันนี้เขียนยาวจัง เผื่อไว้เพราะต้องเตรียมฝึกซ้อมอย่างหนักอีกในฐานะตัวแทนอำเภอไปแข่งในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับจังหวัดต่อ งานนี้ไม่มีรางวัลเป็นเงินหรือถ้วย แต่เด็กๆ บอกว่า....ศักดิ์ศรีค่ะครู....จ้ะๆ ไว้เลย..ช่วงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีนี่เมื่อไร ครูคงเลิกเป็นหมีแพนด้าซะทีนะ.....วันนี้ ลงรูปให้ดูไม่ทัน ไว้วันหลังนะคะ ....เดี๋ยวเสียงจากศูนย์ประชาสัมพันธ์ของเทศบาลตำบลขุนยวมก็จะแจ้งข่าว....ฉลองหมู่บ้านคนดี โชคดีแล้วแหละ....โอ๋...บันทึกตอนดึกวูบหลับมาต่อจนเสร็จเช้าพอดี...เฮ้อ.....สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ ท่านผอ.ประจักษ์
สวัสดีค่ะ อาจารย์ลำดวน
Congratulation ด้วยคนครับ ดีใจหลายอยู่ครับ ขอบคุณที่แวะเข้าไปอ่านครับ
สวัสดีค่ะ คุณคนพลัดถิ่น
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ ครูโย่ง
สวัสดีค่ะ...อาจารย์แก้วตา
สำหรับคืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะคุณครูคนเก่ง +สวยด้วย
สวัสดีเจ้า ครูแก้วตา
สบายดีก่อเจ้า ไม่ได้เข้ามานานมาก พอมีโอกาส
และเวลาก็รีบมาเยี่ยมเยือน หวังว่าคงไม่ลืมกันนะคะ อ่าน
บันทึกของอาจารย์สนุกมากๆ เหมือนอ่านนิยายเลย สมแล้ว
ที่เป็นครูภาษาไทย แล้วก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ
กับอัจฉริยะข้ามคืน และก็ต้องขอชื่นชมนะคะว่า ครูแก้วตา
เนี่ยเป็นครูที่ทุ่มเทเต็มที่เพื่อลูกศิษย์ ก็ขอให้เต็มที่ กับทุกๆ
งานนะคะ ไม่แน่อีกไม่นานเราอาจได้ข่าวว่าโรงเรียนขุนยวม
วิทยาได้เข้าไปชิง แชมป์รายการชิงช้าสวรรค์ก็ได้ เอาใจ
ช่วยค่ะ
Librarian
สวัสดีค่ะ แว่นน้อย
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้วตาสบายดีนะค่ะ คิดถึงค่ะ คิดถึงแม่ฮ่องสอนด้วยค่ะ
สวัสดีครับ
ดีใจด้วยครับ
สวัสดีเจ้า Librarian
สวัสดีค่ะ ครูเอ
สวัสดีค่ะ ท่านผศ.เพชรากร
สวัสดีค่ะ ท่านผอ.ประจักษ์
สวัสดีค่ะ คุณขจิต