เมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย. 51 ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Training for the Trainers "โครงการกรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ครั้งที่ 2" ณ ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเอเชีย ทางคณะได้ส่งผู้เขียนและอ.เก๋เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
กิจกรรมในช่วงกลางวันของวันแรกเป็นการอธิบายถึงโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาวครั้งที่ 2 ตลอดจนการให้ความรู้ในเรื่องการจัดการที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียงโดยคุณลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา และต่อด้วยคณาจารย์จากจุฬาฯมาให้ความรู้โดยลงรายละเอียดในด้านการตลาด การดำเนินงาน บัญชีและการเงิน ตลอดจนด้านทรัพยากรบุคคล โดยทุกด้านจะนำเรื่องการจัดการที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้
ในช่วงเย็นมีการแบ่งกลุ่มกันเพื่อคิดกิจกรรมในช่วงกลางคืน โดยจะต้องเป็นกิจกรรมที่สอดแทรกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีสาระและความบันเทิง ซึ่งผู้เขียนได้กลุ่มที่ 2 ส่วนอ.เก๋ถูกแยกไปอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง สำหรับสมาชิกในกลุ่มมีดังนี้
1.ผศ.ว่าที่พ.ต.กิตติกรณ์ บำรุงบุญ (อ.แรก)จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
2.อ.ปาลิตา เอกอุรุ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา
3.อ.ทิพยรัตน์ จากมหาวิทยาลัยชินวัตร
4.อ.ประดิษฐา นาครักษา (อ.หน่อย)จากมทร.พระนคร
5.อ.นวรัตน์ พรหมอุปถัมภ์ (อ.เกด)จากมทร.ล้านนาเชียงใหม่
6.อ.ปัณณทัต จอมจักร์ (อ.เอส) จากสถาบันเทคโนโลยี ไทย- ญี่ปุ่น
7. อ.นภาพร วงศ์ศรีนันท์ (อ.อ้วน)จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
8. อ.บุญส่ง วงษ์ฤทธิ์(อ.ออม) จากมทร.สุวรรณภูมิ
9. อ.กุลกนิษฐ์ ใจดี (อ.ลูกหว้า)จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ผู้เขียนเอง
ในช่วงกลางคืนแต่ละกลุ่มก็มีการทำกิจกรรมแตกต่างกันไป ผู้เขียนก็มีโอกาสออกไปแจมกับบางกลุ่มเช่นกัน และทีมจากธนาคารกรุงไทยก็ได้ขึ้นไปแนะนำตัวสลับกับการร้องเพลงของอาจารย์จากจุฬาฯ
สำหรับสมาชิกในกลุ่มทุกท่านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีแม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มีการวางพล็อตเรื่องเป็นละครแบบกว้างๆไว้ ที่เหลือไปเล่นกันเองแบบสดๆ เริ่มตั้งแต่การแนะนำตัวสมาชิกในกลุ่ม Green Green (ออกเสียงแบบดจร.เล็กน้อยว่า...กรี๊น....กรีน...) แต่ละคนจะแนะนำตัวโดยมีคำพูด Green Policy ประจำตัวว่า...Green Plant, Green Process, Green People,Green Product, Green Project และ Green Technology ประหนึ่งผู้เข้าประกวดนางงามกำลังแนะนำตัว จึงมีการแอคชั่นกันสุดฤทธิ์ โดยผู้เขียนจะเป็นผู้สรุปว่า..กลุ่มกรี๊น กรีน...
เราจำลองเหตุการณ์ชาวบ้านมาร้องเรียนกับผู้ใหญ่เกี่ยวกับปัญหาราคาข้าว พืชผลเกษตรตกต่ำ ชาวบ้านอยากขายที่ น้ำมันราคาแพง จากนั้นผู้ใหญ่ก็ได้แนะนำให้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน ปลูกพืชผักสวนครัว ทำปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมีเพื่อลดต้นทุน นำควายมาไถนาตามเดิมเพราะไม่ต้องใช้น้ำมัน (อ.แรกนั่งเปิดตำราเตรียมตัวในช่วงทานข้าว)
จากนั้นชาวบ้านก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รีบวิ่งขึ้นไปร้องเพลง..."ค่ำคืนเดือนหงาย...เราขี่ควายชมจันทร์...." ทุกคนก็รีวิวประกอบเพลงกันเองตามใจชอบ ต่อด้วยเพลงเกี่ยวกับการเกี่ยวข้าว "เกี่ยวเถอะนะแม่เกี่ยวๆ..อย่ามัวชะแง้แลเหลียว...." คราวนี้ก็กระโดดลงมารำด้วย(อิอิ..ไม่มีการซ้อมว่ากันสดๆ)
เมื่อทุกคนมีความสุข ผู้ใหญ่บ้านขึ้นไปร้องเพลง"มนต์รักลูกทุ่ง" มีพี่คล้าว(อ.เอส)และทองกวาว(อ.ลูกหว้า) มองๆไปแล้วคล้ายเลขศูนย์ศูนย์ ไปทำมิวสิคประกอบโดยเพื่อนๆทุกคนยืนหัวเราะกันใหญ่ไม่ยอมเข้ามาแจมซะอย่างนั้น จึงแล้วแต่อ.เอสจะลากไปทางไหน มีอ.ออมเข้ามาเป็นควายประกอบฉากเป็นที่ขำขัน กว่าจะจบเจอทีมกรุงไทยแซวว่าภาพทั้งหมดเราได้บันทึกไว้หมดแล้ว อิอิ...."ทำเข้าไปได้"
สุดท้ายพอประกาศผลรางวัลทีมของเราได้เป็นที่ 2 ส่วนทีมของน้องเก๋เป็นที่ 3 กว่างานจะเลิกก็สี่ทุ่มกว่า แล้วต้องไปเตรียมอ่าน case study เพื่อทำการสอบในวันรุ่งขึ้น
งานวันที่สอง แบ่งกลุ่มเหมือนเดิมได้นั่งหน้าสุดเลย ในกลุ่มต้องทำการวิเคราะห์case ชุมพรคาบาน่า และชุมชนคีรีวง แล้วมาพรีเซ้นต์ สำหรับกลุ่มสองมีความสนิทสนมกันแล้ว ได้แลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน พอรายไหนลุกขึ้นแย่งไมค์ได้ ก็จะมีช่างภาพในกลุ่มบันทึกภาพตลอด ท่าทางจะโฟโต้ริซึ่มกันทั้งกลุ่มเป็นแน่ อาจารย์ในกลุ่มท่านใดมาเจอบันทึกนี้ ส่งรูปตอนหว้าพูดมาบ้างนะคะ
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคณาจารย์เพื่อไปแนะนำนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยทำโครงการส่งเข้าประกวด เป็นโครงการเพื่อประโยชน์ต่อสังคมท่านใดสนใจโครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาว ครั้งที่ 2 หมดเขตส่งโครงการวันที่ 31 ก.ค. 51 สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่......